ตร.ปล่อยตัวโตโต้และการ์ด Wevo แล้ว ศูนย์ทนายฯ แจ้งวันนี้กลุ่มราษฎรจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาใน 3 สน.

จับตาวันนี้นักกิจกรรมกลุ่มราษฎรจะเข้ารับทราบข้อหา ม.112 จำนวน 3 คดี ของ 3 สถานีตำรวจ ขณะที่โตโต้และการ์ด Wevo รวม 19 คน ได้รับการปล่อยตัวแล้ว หลังถูกจับกุมขณะเก็บกู้ลวดหนามบริเวณแยกอุรุพงษ์ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

วันที่ 8 ธ.ค.2563 เวลา 05.20 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า ตำรวจ สน.พญาไทได้ปล่อยตัวนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ และพวกรวม 19 คน แล้ว หลังเสร็จสิ้นกระบวนการทำบันทึกจับกุม แจ้งข้อกล่าวหาและประกันตัวซึ่งทั้งหมดไม่ลงชื่อในบันทึกจับกุม โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งตามประมวลกฎหมายอาญา ม.215 มั่วสุมตั้งแต่ 10 คน ม.216 เจ้าพนักงานสั่งให้เลิกแล้วไม่เลิก ม.138 ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน โดยทั้ง 19 คนให้การปฏิเสธ พนักงานสอบสวน นัดรายงานตัว 28 ธ.ค.นี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21:00 น. การ์ดอาสากลุ่ม We Volunteer หรือ WevWevo ประกาศขอจิตอาสาเก็บลวดหนามที่ทิ้งเกะกะ ตามทางเดิน บริเวณปาก ซอย เพชรบุรี 2 ถนน เพชรบุรี โดยประกาศให้เจ้าหน้าที่ไปเก็บซาก ลวดหนามหีบเพลงนับ 50 ม้วน ทั้งที่ กางทิ้งไว้ และ ยังไม่ได้ถูกใช้งาน โดยให้เวลา จนท. 30 นาที

จากนั้นเวลา 21:30 น. ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ

เวลา 21:45 น. การ์ด Wevo ตัดสินใจเริ่มเก็บกู้ลวดหนามจาก ใต้สะพานทางด่วน แยกอุรุพงษ์

เวลา 22:30 น. เจ้าหน้าที่พร้อมตำรวจ 1 กองร้อยและชุดควบคุมฝูงชนได้เข้ามาตรึงกำลัง โดย พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (บก.น.1)ขอดำเนินการเก็บซากลวดหนามเอง ซึ่ง wevo ยินดีรับเงื่อนไข แต่ขอเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยเจ้าหน้าที่ได้เพิ่มกำลังล้อมกรอบพร้อมเข้าจับกุมทีม Wevo โดยใช้รถควบคุมผู้ต้องขัง 2 คันเข้าควบคุมตัวกลุ่ม Wevo และนำตัวไป สน.พญาไท เมื่อเวลา 23.20 น. โดยทางตำรวจจะแจ้งข้อหาลักทรัพย์

เวลา 23.20 น. โตโต้ โพสต์เฟซบุ๊กทันทีที่มาถึง สน.พญาไท ว่า “ถึงห้องรับรอง สน.พญาไท จนท. ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา หรือแจ้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขณะนี้มี สมาชิก Wevo ถูกจับกุมจำนวน 19คน ผู้หญิง 1 ผู้ชาย 17และ LGBTQ 1 คน โดย2 ใน 19 คนถูกตำรวจ ทำร้ายร่างกาย ทั้งต่อย และ ใช้เท้ากระทืบ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

นอกจากนี้ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่าวันนี้ (8 ธ.ค. 63) นักกิจกรรมกลุ่มราษฎรจะเข้ารับทราบข้อหา ม.112 จำนวน 3 คดี ของ 3 สถานีตำรวจ

BANGKOK, THAILAND – OCTOBER 26: Patsaravalee “Mind” Tanakitvibulpon speaks to protesters during a pro-democracy rally on October 26, 2020 in Bangkok, Thailand. Pro-democracy protesters and students marched from the Sam Yan Intersection to the German Embassy to deliver a letter calling for an investigation into the Thai King’s residence in Germany. This event marks the latest in a string of anti-government protests that began in late July, when students and pro-democracy protesters called for governmental reform. (Photo by Lauren DeCicca/Getty Images)

คดีแรก ในเวลา 09.30 น. สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้ออกหมายเรียกให้ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ พร้อมด้วย นักกิจกรรม และนักศึกษา รวมจำนวน 9 ราย เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เพิ่มเติม ในกรณีการชุมนุมที่หน้าสถานทูตเยอรมนี เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังก่อนหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ต่อผู้กล่าวปราศรัยและผู้อ่านแถลงการณ์ในภาษาต่างๆ ไปแล้ว

คดีที่ 2 ในเวลา 10.00 น. สภ.เมืองนนทบุรี ได้ออกหมายเรียกให้ 4 แกนนำกลุ่มราษฎร คือ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบร์ท // นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ // น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน โดยทั้งหมดจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามมาตรา 112 เพิ่มเติม ในกรณีการชุมนุม #คนนนท์ไม่ทนเผด็จการ ที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ทั้ง 4 คน ถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 116 และเรื่องการใช้เครื่องเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้ว ในช่วงที่ถูกควบคุมตัวเมื่อเดือนตุลาคม

ไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก แกนนำผู้ชุมนุมปีนรั้วแสดงสัญลักษณ์ 3 นิ้วระหว่างรอคำตอบจากรัฐสภา

และคดีที่ 3 ในเวลา 13.000 น. สน.ชนะสงคราม ได้ออกหมายเรียกให้ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เข้ารับทราบข้อหาตามมาตรา 112 เพิ่มเติม ในคดีการชุมนุม #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา หลังจากทั้ง 2 คนเคยถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 116 และข้อหาเกี่ยวกับการชุมนุมอื่นๆ มาแล้วในช่วงเดือนตุลาคม

จากการติดตามของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย. 63 เป็นต้นมา ที่แกนนำนักกิจกรรมเริ่มได้รับหมายเรียกในข้อหาตามมาตรา 112 พบว่ามีการออกหมายเรียกในข้อหานี้จำนวนอย่างน้อย 11 คดี และมีผู้ถูกออกหมายเรียก 24 รายแล้ว โดยเป็นคดีจากการชุมนุมทางการเมืองที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาอื่นไปก่อนหน้านี้แล้ว 6 คดี และเป็นคดีใหม่ 5 คดี