SHARE

คัดลอกแล้ว

การประท้วงในอิหร่าน หลังการเสียชีวิตของหญิงชาวเคิร์ดที่ถูกตำรวจศีลธรรมจับกุมฐานแต่งกายผิดกฎ ยังคงยืดเยื้อ ทางการเดินหน้าปราบปรามหนัก ประชาชนสังเวยชีวิตจำนวนมาก 

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า มวลชนชาวอิหร่านยังปักหลักประท้วงทั่วประเทศ มาตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยวิดีโอที่มีการเผยแพร่อยู่บนโซเชียลมีเดีย ปรากฏภาพเหตุการณ์ประท้วงในหลายสิบเมืองในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ (19 ต.ค.) 

การประท้วงครั้งล่าสุดนี้ เริ่มจากความไม่พอใจของมวลชนต่อการเสียชีวิตของ ‘มาห์ซา อะมินี’ หญิงสาวชาวเคิร์ด วัย 22 ปี ถูกตำรวจศีลธรรมของอิหร่านจับกุมขณะเดินทางไปกรุงเตหะราน พร้อมกับครอบครัว โดยตำรวจให้เหตุผลว่าเธอละเมิดกฎการแต่งกายของผู้หญิง ที่ระบุให้ต้องสวมฮิญาบในพื้นที่สาธารณะ 

ก่อนที่อะมินีจะเสียชีวิตลงหลังถูกจับกุมได้ 3 วัน โดยเจ้าหน้าที่ระบุสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่มีรายงานว่าเธอถูกตำรวจทำร้ายด้วยการใช้กระบองทุบตี และโขกศีรษะเข้ากับรถสายตรวจจนมีอาการโคม่า 

ในเวลาต่อมา มวลชนที่มีความรู้สึกโกรธเคือง และกังขาต่อสาเหตุการเสียชีวิตของอะมินี ซึ่งเชื่อว่าเป็นเพราะการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ เริ่มออกมาชุมนุมกันเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และการประท้วงก็ได้บานปลายมาเป็นการต่อต้านรัฐบาลภายใต้การนำของ อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ในที่สุด

ขณะเดียวกัน ทางการอิหร่านได้เดินหน้าปราบปรามผู้ประท้วงอย่างหนักหน่วง จนมีรายงานเหตุการณ์ปะทะรุนแรงเกิดขึ้นเป็นระยะๆ  และมีการจับกุมตัวผู้ประท้วงไปเป็นจำนวนมาก 

ล่าสุด องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของอิหร่านได้ออกมาเปิดเผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่ไม่ต่ำกว่า 185 ราย รวมถึงเด็กอย่างน้อย 19 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดซีสถานและบาลูจิสถาน คิดเป็นสัดส่วนถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้เสียชีวิตที่มีการบันทึกได้ 

องค์กรสิทธิมนุษยชนระบุว่า มีหลักฐานจากคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา อาวุธทุบตี และในบางกรณีพบว่ามีการใช้กระสุนจริงปราบปรามผู้ประท้วง ซึ่งมีนักเรียนมัธยมและนักศึกษาหญิงจำนวนมากรวมอยู่ด้วย 

อย่างไรก็ตาม ทางการอิหร่านยังคงออกมาปฏิเสธว่าไม่มีการใช้กระสุนจริงปราบปรามผู้ประท้วง และยังคงยืนยันว่าการประท้วงครั้งนี้เป็นแผนการของศัตรูอิหร่าน ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ และพันธมิตร พร้อมกับระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงมีอาวุธและใช้ความรุนแรงตอบโต้เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงเสียชีวิตไปอย่างน้อย 20 ราย 

 

ที่มา Reuters

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า