SHARE

คัดลอกแล้ว

อีก 4 เดือน ‘พีเอสไอ’ เปลี่ยนระบบส่งสัญญาณจาก S1 เป็น S2 ทุกช่องคมชัดแบบ Full HD ตอบโจทย์การรับชมช่องทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม พร้อมรองรับการชมออนไลน์แบบไฮบริด มั่นใจผู้ชมจะเปลี่ยนกล่องสัญญาณแบบใหม่ทั้งตลาด ก่อนที่พีเอสไอ จะปิดระบบสัญญาณ S1 ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้

วันที่ 25 ก.พ.2564 นายสมพร ธีระโรจนพงษ์ ประธานบอร์ดบริหาร บริษัท พีเอสไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจานดาวเทียม กล่องรับสัญญาณดาวเทียม กล่าวว่า พีเอสไอเตรียมยกระดับความคมชัดของช่องทีวีทั้งระบบให้เป็นความคมชัดสูง Full HD ตอบโจทย์การรับชมช่องทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม พร้อมรองรับการชมออนไลน์แบบไฮบริด

สำหรับเหตุผลการเปลี่ยนผ่าน ในการปรับมาตรฐานสัญญาณทีวีสู่ความคมชัดสูง Full HD เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในการรับชมสื่อต่างๆ  สิ่งสำคัญคือ “ความคมชัด”  อีกทั้งเป็นการบริหารจัดการคลื่นความถี่อย่างมีประสิทธิภาพ จากการส่งสัญญาณแบบ S1 ซึ่งเป็นระบบเก่า บีบอัดส่งสัญญาณได้น้อยและค่าใช้จ่ายสูง สู่การส่งสัญญาณแบบ S2 ที่สามารถส่งสัญญาณที่คมชัดกว่า ซึ่ง PSI ได้ส่งสัญญาณทั้ง 2 ระบบคู่ขนานกันตลอดมา

นายสมพร ธีระโรจนพงษ์  ประธานบอร์ดบริหาร บริษัท พีเอสไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

แต่หลังจาก กสทช. ประกาศห้ามนำเข้าเครื่องรับสัญญาณ S1 มาจำหน่าย และมีการจัดสรรทรัพยากรคลื่นความถี่ S2 เท่านั้น ดังนั้น ช่องทีวีดิจิตอล ทีวีดาวเทียม จึงได้ปรับระบบการส่งสัญญาณช่องเป็นแบบ S2 ด้วยเช่นกัน  ซึ่งผู้ชมช่องทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม ผ่านจานดาวเทียม หรือชมผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ก็จะได้รับชมช่องที่มีความคมชัดมากขึ้นในทุกหน้าจอที่รับชม

นายภานุวัฒน์ ผงสุวรรณกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีเอสไอ

ขณะที่นายภานุวัฒน์ ผงสุวรรณกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พีเอสไอ เผยถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรองรับการเปลี่ยนผ่าน โดยปัจจุบันพีเอสไอ มีลูกค้าจำนวน 16 ล้านกล่องทั่วประเทศ ส่วนใหญ่ได้ทำการเปลี่ยนกล่องรับสัญญาณเป็นระบบ S2 แล้ว เหลือกล่องรับสัญญาณ S1 (รุ่นเก่า) อยู่ไม่ถึง 5% หรือประมาณ 8 แสนกล่อง โดยพีเอสไอ มั่นใจว่าลูกค้าทั้งตลาดจะเปลี่ยนกล่องสัญญาณเป็นระบบใหม่ได้ภายใน 4 เดือน ก่อนที่พีเอสไอ จะทำการปิดระบบสัญญาณ S1 ในวันที่ 30 มิ.ย.2564

“สำหรับลูกค้าที่ต้องการแลกกล่องรุ่นใหม่ พีเอสไอมีโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อการรับชมช่องแบบต่อเนื่อง โดยมี “แคมเปญเทิร์นกล่องกับลูกค้า” สามารถนำไปแลกกับตัวแทนใกล้บ้าน และจะมีการสื่อสารแจ้งเตือนให้ลูกค้าทราบผ่านการรับชม ขึ้นอยู่กับว่าจะแลกเป็นกล่องรุ่นไหน ซึ่งเรามี 2 รุ่น คือ รุ่น s2 และ s3”  นายภานุวัฒน์ ซีอีโอ พีเอสไอ กล่าว

ซีอีโอ พีเอสไอ คาดการณ์ว่าตัวเลขผู้รับชมทีวีผ่านระบบดาวเทียม จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนจากตัวเลขการขายกล่องรับสัญญาณ S2, S3 ในปีที่ผ่านมา (2563) ขายได้ 3.5 ล้านกล่อง จากตัวเลขที่ขายได้เฉลี่ย 2.8 ล้านกล่องต่อปี เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ผู้คนอยู่บ้านมากขึ้น ส่งผลเป็นปัจจัยบวกให้ธุรกิจสามารถขายกล่องได้เพิ่มขึ้น และเป็นเหตุผลสำคัญในการตัดสินใจเปลี่ยนผ่านระบบการส่งสัญญาณ เป็นความคมชัดสูง Full HD เพื่อรักษาฐานผู้ชมให้เปลี่ยนไปแพลตฟอร์มอื่น ๆ

“เราจะไม่ปล่อยไปเรื่อยๆ ให้คนมูฟไปช่อง HD หมด สะท้อนจากดิจิทัลทีวี ที่คนนิยมชมช่อง HD มากกว่า SD เพราะความคมชัดส่งผลต่อการตัดสินใจในการเลือกดู เพราะฉะนั้นถ้าพีเอสไอ ไม่ตัดสินใจเปลี่ยนระบบผู้ชมก็จะหันไปเปลี่ยนระบบการดู ดังนั้นการเปลี่ยนระบบการดูครั้งนี้ จะทำให้การดูมีความคมชัดขึ้นแน่นอน ซึ่งวันที่ 1 ก.ค. จะได้รับชมโฉมใหม่ของช่องทั้งหมดผ่านพีเอสไอ” นายภานุวัฒน์ ซีอีโอ พีเอสไอ กล่าวกับ workpointTODAY

จำนวนช่องโทรทัศน์ดาวเทียมต่างๆ ในระบบพีเอสไอ ที่กำลังจะได้รับการปรับเปลี่ยนการส่งสัญญาณเป็น S2

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการค้า บมจ.ไทยคม (คนขวามือสุด)

ด้าน นายปฐมภพ สุวรรณศิริ รักษาการรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และหัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการค้า บมจ.ไทยคม กล่าวว่า การปรับเปลี่ยนระบบการส่งสัญญาณออกอากาศในประเทศเป็นแบบ S2 ของพีเอสไอในครั้งนี้ รวมถึงปรับมาตรฐานการรับชมทีวีดาวเทียมให้มีความคมชัดระดับ Full HD นอกจากจะทำให้ประชาชน ผู้รับชมทั่วประเทศได้รับชมภาพและเสียงที่มีประสิทธิภาพดีขึ้นแล้ว ยังเป็นการยกระดับภาพลักษณ์ และช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมบรอดคาสต์ไทยอีกด้วย

นอกจากนี้ นายปฐมภพ ยังมองว่าเทคโนโลยีจะถูกพัฒนาไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียม โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมทีวีดาวเทียมในโลกกำลังเติบโต ซึ่งมีอีกหลายนวัตกรรมที่จะเกิดขึ้นในโลกนี้ที่เกี่ยวข้องกับดาวเทียม และถือว่าระบบ HD เป็นเรื่องปกติของอุตสาหกรรมแล้วทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า บริษัท พีเอสไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (PSI Corporation Co,.Ltd.) แจ้งงบการเงินล่าสุดของปี 2562 มีรายได้รวม 2,255,067,886 บาท กำไรสุทธิ 418,291,683 บาท โดยบริษัทจดทะเบียนนิติบุคคลเมื่อวันที่  16 ก.ค.2558 ทุนจดทะเบียน 255 ล้านบาท เพื่อผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องวงจรปิด อุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า