‘เพื่อไทย’จับตาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หวั่นอาจทำแก้รธน.ล่าช้า ดักทางอย่าชิงยุบสภาฯ

‘เพื่อไทย’จับตาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หวั่นหากผลออกมาเป็นลบ อาจทำให้การแก้รธน.ล่าช้า ดักทางอย่าชิงยุบสภาฯ เพื่อหวังใช้ความได้เปรียบจากกติกาเดิม

วันที่ 26 ก.พ. 2564 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เราพอใจที่ได้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด แต่ที่ยังเห็นแย้งอยู่คือ เขตเลือกตั้ง สสร.ที่ให้ยึดเขตเลือกตั้งเหมือน ส.ส. ซึ่งเราอยากให้ยึดเขตจังหวัด แต่เมื่อผ่านวาระ 2 แล้วก็คงไม่สามารถปรับแก้ได้อีก เราก็ต้องยอมรับ แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือ กรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะพิจารณาในวันที่ 10 มี.ค. 2564 โดยฝ่ายค้านมีความเห็นโต้แย้งความเห็นของนายไพบูลย์ รวมถึงความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งยื่นผ่านประธานสภาฯ ในฐานะเป็นผู้ร้อง ให้ส่งต่อไปที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อประกอบการพิจารณาแล้ว เพราะเรามั่นใจว่า กรณีที่นายไพบูลย์ยื่นร้องนั้นต้องมีความขัดแย้งเกิดขึ้น แต่ในกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้ไม่มีความขัดแย้งใดๆ แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องยื่นตีความ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของรัฐสภา แต่ถึงอย่างไรเราก็ต้องรอฟังคำวินิจฉัย อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรากังวลคือ หากศาลระบุว่าแก้ไขไม่ได้ จะทำให้กระบวนการที่ประชาชนต้องการนั้นล่าช้าออกไป

สำหรับกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รัฐบาลอาจจะชิงยุบสภาฯ ก่อนที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเสร็จสิ้น ซึ่งจะทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดิมนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า การยุบสภาฯ ต้องมีเหตุ แต่ตอนนี้กำลังจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีแน่ๆ อยู่แล้ว แต่จะพัฒนาไปสู่การยุบสภาฯ ได้หรือไม่นั้นเราก็ต้องติดตามดู แต่ถ้ามีการยุบสภาฯ จริง จะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นไปต่อไม่ได้ เพราะขาดองค์ประกอบ ส.ส. ซึ่งจะทำให้ต้องรอการเลือกตั้งใหม่เสร็จสิ้นก่อน ไม่เป็นผลดีกับประชาชน และยากที่ประชาชนจะรับได้ อาจจะมีปฏิกิริยาในทางใดทางหนึ่ง