SHARE

คัดลอกแล้ว

‘เพื่อไทย’ร่อน จม.เปิดผนึกถึงนายกฯ – ศบค. จี้ให้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง ไม่ใช่เพื่อปกป้องตัวเอง แนะเร่งจัดหาและกระจายวัคซีนให้ทั่วถึง ย้อนถาม ก่อนเปิด Hospitel เตรียมวัคซีนและอุปกรณ์การแพทย์เพียงพอแล้วหรือยัง

วันที่ 21 เม.ย. 2564 พรรคเพื่อไทยออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เรื่องการแก้ไขปัญหาวิกฤตการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และฟื้นความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สร้างผลกระทบอย่างหนักต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนต่อเนื่องยาวนานเกินกว่า 1 ปี โดยเฉพาะวิกฤตเศรษฐกิจที่สร้างปัญหาปากท้องให้กับคนไทย ที่สำคัญ ขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าสถานการณ์จะทุเลาจนสามารถวางใจได้ว่า ประชาชนจะกลับมามีวิถีชีวิตปกติได้ พรรคเพื่อไทย ตระหนักและห่วงใยพี่น้องประชาชน ในสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้จำเป็นต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการระดมความคิดเห็นและประสานความร่วมมือในการช่วยกันคลี่คลายวิกฤต บรรเทาปัญหาและผลกระทบ เพื่อคืนความเชื่อมั่นและความหวังให้ประชาชน ที่จะต้องเผชิญผลกระทบทั้งด้านสุขภาพ และเศรษฐกิจปากท้องที่จะเป็นปัญหาใหญ่ตามมาในอนาคต

พรรคเพื่อไทย เรียกร้องนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการ ศบค. แสดงความชัดเจนในแนวทางแก้ไขปัญหา และทางออกจากวิกฤตครั้งนี้ เพื่อคืนชีวิตและความหวังให้กับประชาชน ดังนี้ 1.ขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับการสื่อสารกับประชาชนในมิติของการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ครอบคลุมและเพียงพอ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ สร้างความตระหนัก ลดความตระหนกในหมู่ประชาชน ขณะเดียวกัน ควรลดการสื่อสารที่มุ่งมิติทางการเมืองเพื่อปกป้องตัวเอง หรือมีลักษณะที่เป็นการโยนความผิดให้ประชาชน เพื่อลดความไม่ไว้วางใจและความไม่เชื่อมั่น โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการจัดหาและกระจายวัคซีน อันเป็นปัจจัยหลักสำคัญในการแก้ไขวิกฤต รัฐบาลควรมีความชัดเจนในแผนการจัดหาวัคซีนที่มีความหลากหลายและเพียงพอต่อสถานการณ์ และมีแผนการกระจายวัคซีนที่รวดเร็ว ทั่วถึง และง่ายต่อการเข้าถึงของประชาชนมากที่สุด พร้อมทั้งกำหนดกลุ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีนให้เหมาะสมกับสภาพสังคมไทย และเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนที่มีความพร้อมเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด

  1. ให้ความสำคัญกับการเร่งคลี่คลายอุปสรรค และแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน รวมทั้งเปิดช่องทางให้เกิดการกระจายหน้าที่ความรับผิดชอบให้หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ให้ร่วมกันแก้ไขปัญหา จะเป็นหนทางที่จะนำพาประเทศให้พ้นจากวิกฤตได้ดีที่สุด และรวดเร็วที่สุด พร้อมทั้งลดการบริหารงานในลักษณะรวมศูนย์ ทำนองเดียวกับการจัดการปัญหาความมั่นคง ที่ทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้า ไม่ทันต่อสถานการณ์ และ 3.ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วในทุกด้าน ความรู้ใหม่เกิดขึ้นทุกนาที ทำให้ภาระหนักตกอยู่กับภาครัฐ โดยเฉพาะการจัดการข้อมูล ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการบันทึกและรวบรวมข้อมูล เพื่อที่จะสามารถวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทย และสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่มีอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิดเพื่อฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน

ด้าน น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ ศบค.ยืนยันว่าจัดเตรียมโรงพยาบาลสนาม และ Hospitel เพียงพอ แต่สถานที่ดังกล่าวมีไว้รองรับผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ หรือผู้ป่วยที่อาการดีขึ้นหลังจากรักษาในโรงพยาบาลมาแล้วเท่านั้น แต่ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงหลายรายและเป็นผู้มีรายได้น้อยที่เข้าไม่ถึงการรักษาของโรงพยาบาลเอกชนและไม่มีทางเลือกอื่น ยังต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐอยู่อีกเป็นจำนวนมาก อยากให้รัฐบาลจัดหาเตียงให้เพียงพออย่างเร่งด่วนด้วย ส่วนการที่รัฐบาลประกาศเชิญชวนบุคลากรทางการแพทย์ที่เกษียณอายุราชการเข้ามาร่วมมือในการดูแลรักษาผู้ป่วยนั้น รัฐบาลได้จัดหาอุปกรณ์ป้องกันและการฉีดวัคซีนให้บุคลากรทางการแพทย์ซึ่งเป็นทัพหน้าอย่างเพียงพอแล้วหรือยัง การขอความร่วมมือคงเกิดขึ้นได้ยาก ถ้าทัพหน้าเหล่านี้ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อการเตรียมการของรัฐบาล ทั้งนี้ รัฐบาลต้องฟังให้เยอะ เปิดใจให้กว้าง รับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุด หน้าที่ของรัฐบาลคือการทำให้ประชาชนพอใจ และไม่มีคำถามต่อการดำเนินงานตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ในสภาฯ

ขณะที่นายประมวล เอมเปีย หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน กล่าวว่า ตนเข้าใจว่านายกรัฐมนตรีเป็นทหาร ไม่ใช่หมอ แต่แค่การพูดชื่อวัคซีนยังพูดผิด แล้วจะเอาความเชื่อมั่นมาจากไหน วันนี้ประชาชนไม่เชื่อมั่นรัฐบาลแล้ว เพราะบริหารจัดการโควิดล้มเหลว ประชาชนไม่ต้องการเตียงหรือโรงพยาบาลสนาม แต่ต้องการวัคซีน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากากรระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์สื่อก็ยังพูดไม่ตรงกัน นายกรัฐมนตรีบอกติดต่อซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์ แต่นายอนุทินกลับบอกว่าติดต่อซื้อแล้ว แต่ไม่ได้ แล้วจะให้ประชาชนเชื่อรัฐบาลได้อย่างไร ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภาฯ

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า