Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กลุ่มเอเจนซี่ด้านการสื่อสารการตลาดชั้นนำของประเทศ เผยเทรนด์การสื่อสารล่าสุดในงาน Power of ONE, Powering the Future พร้อมพาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจมุ่งสู่การเติบโตแห่งอนาคตอันยั่งยืนผ่านการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

ในงานนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทยมีการเผยแพร่องค์ความรู้และเทรนด์ทางการสื่อสารที่ครบในทุกมุมมองของการสื่อสารเพื่อการสร้างกลยุทธ์แบบองค์รวมที่มีประสิทธิภาพและแม่นยำมากขึ้น ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในยุคที่การสื่อสารต้องอาศัยความแม่นยำไร้รอยต่อกับกลุ่มเป้าหมาย (Seamless Communications)

‘คุณภารุจ ดาวราย’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวในงานนี้ว่า “ประสบการณ์ของผู้คนต่างมีรายละเอียดที่ซับซ้อน ทั้งในเชิง insight และพฤติกรรม สื่อที่สัมผัสในแต่ละบริบท หรืออิทธิพลจากคนรอบข้าง โดยทุกประสบการณ์ก็ต่างเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้นการเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย (Real Identity) เห็นภาพประสบการณ์ทั้งกระบวน จึงเป็นหัวใจแห่งการบริหารการสื่อสารที่จะพาแบรนด์และธุรกิจไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่ง ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย มุ่งเน้นและให้ความสำคัญทางด้านการวางกลยุทธ์ทางการสื่อสาร เข้าถึงและสร้างประสบการณ์ด้วยความคิดสร้างสรรค์ ด้วย Connected Experience Solutions ผ่านการผนึกกำลังกันในทุก ๆ discipline หรือ Power of ONE และเรามั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าไปพร้อมกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเราอย่างมั่นคง”

การเผยเทรนด์ของการสื่อสารในงานนี้มีคอนเซ็ปต์ที่ว่า Power of ONE, Powering the Future โดยมุ่งเน้นเทรนด์และทิศทางการสื่อสารที่เจาะลึกสู่อนาคตการสื่อสารที่มาจากทั้งผู้บริโภค ทิศทางของสื่อและอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของสื่อไม่ว่าจะเป็นสื่อดั้งเดิมหรือสื่อดิจิทัล โดยในงานนี้แบ่งเทรนด์การสื่อสารออกเป็น 4 แกนดังนี้

1.Power of Human Insight

2.Power of Media

3.Power of Social Behaviour

4.Power of Social Content and Influencer

ในแต่ละแกนมีการนำเสนอเทรนด์ในมุมมองที่ต่างกันของผู้บริโภคตามบริบทของการสื่อสารดังนี้

1.Power of Human Insight ซึ่งนำเสนอโดย คุณเจนคณิต รุจิรโมรา, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายวางแผนกลยุทธ์, ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย มีใจความสำคัญว่า “มนุษย์ในปัจจุบันมีมุมมองความคิดที่เป็นไปตามประสบการณ์ที่เป็นปัจเจกบุคคลมากๆ วัฒนธรรมการสื่อสารและพฤติกรรมของผู้คน โดยเฉพาะช่วงที่ความปกติเป็นเรื่องที่หาได้ยาก ก็พัฒนาไปตามการเปลี่ยนแปลงของสื่อ และเข้าถึงคอนเทนท์ จึงตามมาด้วยค่านิยมของผู้คนมีการแตกแขนงออกไปหลากหลาย

นำมาสู่ความคลุมเครือของความเหมาะสม และการยอมรับในเรื่องต่างๆ ความท้าทายของโลกความคิดสร้างสรรค์ จึงเป็นการต้องสร้างกรอบทางเดินให้กลุ่มเป้าหมายเดินไปรู้จักแบรนด์ สร้างประสบการณ์กับแบรนด์และผลิตภัณฑ์ภายใต้โลกที่เปิดกว้างขึ้น กำหนดทางเดินประสบการณ์แบบที่สร้างความสัมพันธ์ได้อย่างเข้าอกเข้าใจกับผู้คน ซึ่งสุดท้ายแล้วการที่จะทำได้ให้ดีที่สุดก็คือการเข้าใจ Real Identity หรือตัวตนที่แท้จริงของผู้คนให้เจอนั่นเอง”

2.Power of Media โดย คุณลลิต คณาวิวัฒน์ไชย, ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ด้านดิจิทัลและมีเดีย ปับลิซีส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “หัวใจสำคัญของเทรนด์ของสื่อคือการที่เราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมเข้าหากัน (Connected era) ซึ่งมันคือการสร้างประสบการณ์การบริโภคสื่อที่เชื่อมต่อทุกๆ จอ ทุกๆ แพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่องเพื่อพูดคุยกับกลุ่มเป้าหมายและสร้างการเดินทางหรือ Journey ให้กับกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ต้น (awareness) จนสิ้นสุดปลายทางก็คือการซื้อผลิตภัณฑ์ (purchase)

ซึ่งนวัตกรรมของสื่อรวมไปถึงสิทธิ์ของปัจเจกบุคคลถือว่ามีอิทธิพลในการพัฒนาการเลือกใช้สื่อเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าหลักการการบริหารสื่อยังคงอยู่ที่ประสิทธิภาพ (Efficiency) และประสิทธิผล (Effectiveness) แต่ปัจจัยที่มีผลต่อผลลัพธ์นี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าสนใจ

โดยผู้บริโภคมีส่วนในการกำหนดทิศทางกับการใช้สื่อมากขึ้น สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลหรือ Data รวมไปถึงสิทธิ์ในการได้มาซึ่งสิทธิประโยชน์จากการเปิดเผยข้อมูลให้สื่อถือเป็นเทรนด์ที่ทำให้เห็นว่าผู้บริโภคเรียกร้องและมองหาประสบการณ์ที่สื่อและผู้บริโภคอยู่ร่วมกันแบบได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย (Win-Win ecosystem) ซึ่งสิ่งนี้จะช่วยสร้างคอมมูนิตี้รวมไปถึงการสร้างความภักดี (Loyalty) ให้กับสื่อและแบรนด์ในอนาคตอีกด้วย”

3.Power of Social Behaviour นำทีมโดย คุณวิบู หาญวรเกียรติ หัวหน้าฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริลเลียน แอนด์ มิลเลียน เผยว่า “ภายหลังจากที่ทุกคนได้ถูกจำกัดการใช้ชีวิตบนโลกออนไลน์เป็นเวลานาน ทำให้เกิดการพัฒนาพฤติกรรมต่างๆ ที่สร้างมาจากปัจจัยที่ว่ามนุษย์นั้นต้องการสังคมและการแสดงออก การถูกจำกัดการสนทนา และการสื่อสารที่ไม่เจอผู้คนแบบเห็นหน้ากัน จึงสร้างวัฒนธรรมและพฤติกรรมบนโลกดิจิทัลที่ชื่อว่า Expressional Economy หรือสังคมบ่งบอกความเป็นตัวตน ด้วยแพลตฟอร์มบนโลกดิจิทัลที่เข้าถึงในวงกว้าง

นวัตกรรมของ gadget ต่างๆ ที่ช่วยให้คนแต่ละคนแสดงออกซึ่งตัวตนของตัวเองได้ง่ายขึ้น ทำให้พฤติกรรมบนโลกของแพลตฟอร์มออนไลน์มีการขยายตัวในวงกว้าง เราจะเห็นว่ามีคอนเทนต์ครีเอเตอร์เกิดใหม่กันอย่างมากมาย การสร้างตัวตนบนแพลตฟอร์มถือเป็นเทรนด์ที่แบรนด์และผลิตภัณฑ์มองข้ามไม่ได้

ดังนั้นการเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้จะทำให้แบรนด์และผลิตภัณฑ์ปรับเปลี่ยนการสื่อสารให้มีตัวตนที่ชัดเจนและถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ที่กลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจอยู่ได้นั่นเอง เราจะเห็นว่าแบรนด์ต้องขยับเข้าใกล้กลุ่มเป้าหมายที่มีความชัดเจนในการแสดงออกมากขึ้นและมองหาแบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นมนุษย์มากขึ้นบนโลกออนไลน์”

4.Power of Social Content & Influencer ที่ถูกนำเสนอโดยคุณสมิหรา ทันต์เจริญกิจ กรรมการผู้จัดการ ดิจิทาซ ประเทศไทย เผยเทรนด์ของคอนเทนท์ในปัจจุบันว่า “โลกของคอนเทนต์ในปัจจุบันเราไม่จำเป็นจะต้องไขว่คว้าหรือใช้เวลาในการค้นหามากนัก เพียงแค่เรามีความสนใจเรื่องใดเรื่องนึง ทุกๆ แพลตฟอร์มบนโลกโซเชียลพร้อมที่จะปรับคอนเทนต์และป้อนสิ่งที่ปัจเจกบุคคลให้ความสนใจอยู่กับเราเอง

และสืบเนื่องจากการที่มีปริมาณคอนเทนต์ครีเอเตอร์เกิดใหม่มากมาย จึงทำให้คอนเทนต์บนโลกโซเชียลที่ดูเหมือนจะกระจัดกระจายนั้นกลับมีความชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากผู้คนมีความสนใจหรือ Interest ที่ชัดเจนขึ้น ด้วยความก้าวหน้าของอัลกอริทึมจึงทำให้เรามองเห็นคอนเทนต์ที่เราสนใจเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าแบรนด์ต้องเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความสนใจนี้ให้ได้ ซึ่งก็คือการอยู่ให้ถูกที่ ถูกเวลา เกาะกระแสในเวลาและหัวข้อที่เหมาะสมและส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ไปข้างหน้า ซึ่งนั่นก็จะนำไปสู่การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคได้นั่นเอง

และอีกหนึ่งเทรนด์ที่มองข้ามไม่ได้คือคอนเทนต์ที่ผนึกกำลังหรือ Collaboration กันในหลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะระหว่างแบรนด์กันเอง, แบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ หรือแม้กระทั่งอินฟลูเอนเซอร์กับสื่อ ซึ่งเรามองว่าการจับมือร่วมมือกันก็เพื่อการยืมเสียงของอีกฝ่ายเพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อาจจะมี interest ที่ต่างกัน โดยการสร้างโอกาสเพิ่มการทำความรู้จักกับแบรนด์ที่ตนเองอาจจะไม่คุ้นเคยมาก่อน

หรือการสร้างคอนเทนต์ให้มีความน่าสนใจกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นให้อัลกอริทึมกรองคอนเทนท์ให้ไปถึงผู้บริโภคในวงกว้างขึ้นนั่นเอง”

คุณโศรดา ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “กลยุทธ์ของการสื่อสารต้องการบุคลากรที่มีความสามารถและมีองค์ความรู้ที่ไม่เพียงแค่ทำงานได้ในด้านเดียวแต่ต้องสามารถมองภาพการสื่อสารแบบ Connected Experience ร่วมกับบุคลากรคนอื่นๆ ในองค์กรเพื่อประสิทธิภาพในการวางกลยุทธ์ที่ครบในทุกความเชี่ยวชาญอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรรวมไปถึงการให้โอกาสทางการพัฒนาความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ ถือเป็นโรงเรียนที่เปิดโอกาสให้บุคลากรของเราพร้อมที่จะเรียนรู้และเปิดประตูสู่โลกของการสื่อสารแบบไร้รอยต่อในทุกๆ ความเชี่ยวชาญตั้งแต่การวางแผนเชิงกลยุทธ์ ความคิดสร้างสรรค์ บริหารและวางแผนสื่อ การประชาสัมพันธ์และอินฟลูเอนเซอร์ จนไปถึงคอนเทนต์ดิจิทัล

ซึ่งเราพร้อมที่จะพาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจของเราเติบโตไปข้างหน้าไปด้วยกันอย่างยั่งยืน และมองอนาคตแห่งการสื่อสารให้กับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ของปับลิซิส กรุ๊ป นั้นมุ่งเน้นการวางแผนอย่างองค์รวมเพื่อเก็บทุกรายละเอียดและทุกมุมของการสื่อสารเพื่อสร้างประสบการณ์และการเดินทางของกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่ต้นจนจบครบลูปของการสื่อสารเพื่อสร้างการจดจำแบรนด์และการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์รวมไปถึงการนำข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายกลับมาเป็นฐานข้อมูลในการวิเคราะห์ เพื่อสร้างประสิทธิภาพและประสิทธิผลทางการสื่อสารให้กับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่างคุ้มค่าและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นหลักการที่เป็นเอกลักษณ์ของปับลิซิส กรุ๊ปที่เรียกว่า The Growth Loop นั่นเอง

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า