Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

วงการแฟชั่นมีเทรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเสมอ โดยในปี 2023 นี้ หนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงที่สุดแห่งปี และกำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากก็คือ Quiet Luxury หรือแฟชั่นที่ให้ลุคหรูดูแพงได้แบบไม่ต้องตะโกนออกมา

Quiet Luxury อาจจะเป็นคำที่อธิบายให้เห็นภาพได้ยากสักหน่อย แต่ก็เป็นเทรนด์แฟชั่นที่ถ้าคุณเห็นปุ๊บก็จะรู้ได้เอง

บางคนอธิบายว่าแฟชั่นแนวนี้คือความนุ่มนวลละมุนแบบที่สัมผัสได้ เน้นใช้สีเบจและสีเทา อย่างที่นิตยสาร Vogue บอกไว้ว่า “เป็นแนวที่ดูเคร่งขรึมน้อยกว่าแบบมินิมอลลิสต์ แล้วก็ดูสวยเก๋กว่าสไตล์ normcore (ซึ่งเป็นสไตล์ที่สุดแสนจะธรรมดา)”

แต่ที่แน่ๆ Quiet Luxury นั้นเป็นสไตล์ที่ไม่โชว์โลโก้ของแบรนด์สินค้าออกมาอย่างให้เห็น ไม่ว่าแบรนด์นั้นจะหรูขนาดไหนก็ตาม

Thomaï Serdari ผู้อำนวยการหลักสูตร MBA แฟชั่นและลักชูรี่จาก NYU บอกว่า Quiet Luxury นั้นเป็นเสื้อผ้าที่มีคุณภาพสูงสุด (ในแง่วัสดุและการตัดเย็บที่ประณีต) เป็นสไตล์ที่เหนือกาลเวลา ดูซับซ้อน แต่ก็มีความเรียบง่าย

นั่นหมายความรวมไปถึงว่า แฟชั่นสไตล์นี้จะไม่มีหัวเข็มขัดโลโก้ Gucci สีทองขนาดใหญ่ หรือกระเป๋าที่มีโลโก้ Louis Vuitton – หรือไอเท็มอะไรก็ตามแต่ที่ตะโกนว่า “ฉันเปย์เงินไปเยอะมากเพื่อสิ่งนี้”

แต่สไตล์นี้จะเป็นเสื้อผ้าที่กระซิบออกมาว่า นี่คือเสื้อสเวตเตอร์แคชเมียร์ กระดุมผ้าไหม หรือเสื้อคลุมขนสัตว์ในโทนสีกลางๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นวัสดุราคาแพง

“และแน่นอนว่าทุกชิ้นนั้นถูกออกแบบและตัดเย็บขึ้นมาอย่างประณีตด้วยช่างฝีมือดี แตกต่างอย่างชัดเจนกับเสื้อผ้าฟาสต์แฟชั่นที่การออกแบบดูแบนๆ แบบสองมิติ” Serdari ระบุ

ทำไม Quiet Luxury ถึงป๊อปขึ้นมา?

อันที่จริงแฟชั่นสไตล์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ร่องรอยของเทรนด์นี้มีมาให้เห็นตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคอุตสากรรม อย่างในอเมริกันตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 รวมถึงในฝรั่งเศสก็ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1700 ซึ่งเทรนด์นี้ก็เป็นที่สนใจของนักออกแบบไปจนถึงค้าปลีกที่พยายามจะจับกลุ่มลูกค้าคนรวยรวมไปถึงกลุ่มวอนนาบี

และเช่นเดียวกับเทรนด์แฟชั่นอื่นๆ ที่มักจะวนเป็นวัฏจักร Quiet Luxury หรือ “stealth wealth” (มั่งคั่งแบบไม่ต้องบอกใคร) ก็วนกลับมาอีกครั้ง

ผลส่วนหนึ่งมาจากซีรีส์ยอดนิยมในช่อง HBO เรื่อง Succession ที่ตัวละครมักจะสวมหมวกเบสบอลขนแคชเมียร์มูลค่า 600 ดอลลาร์ ในสีที่ดูนิวทรัลและไม่มีโลโก้ พร้อมกับแว่นกันแดด Tom Ford ที่ดูบอบบางแต่แพง

สไตล์ stealth wealth ของตัวละครมีจุดประสงค์เพื่อสื่อถึง “ความแพงและความมีรสนิยม” แม้ว่าตัวละครจะไม่ค่อยทำตัวเช่นนั้นก็ตาม

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า เทรนด์นี้มีอะไรที่มากกว่าแค่วัฏจักรของเทรนด์ทั่วไปหรือแค่ซีรีส์ได้รับความนิยมจนคนแต่งตาม

นักวิเคราะห์มองว่า สถานะหรือความเป็นไปของโลกก็มีอิทธิพลอย่างมากต่อการแต่งกายของผู้คน

ที่ช่วงนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่เราทุกคนกำลังดำเนินชีวิตผ่านช่วงเวลาที่เรียกร้องให้มีการเข้าหากันมากขึ้น มีความเสี่ยงรายได้หดหาย ภาวะเศรษฐกิจหดตัวเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา หวั่นใจเรื่องความมั่นคงในหน้าที่การงาน

“และในสภาวะที่ประชากรมหาศาลกำลังวิตกกังวลต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ไปจนถึงต้องดิ้นรนเพื่อให้มีที่อยู่อาศัย การโอ้อวดความรวยอย่างสุดโต่งก็ดูเหมือนคนหูหนวกที่ไม่ได้ยินเสียงความเดือดร้อนของชาวโลก”

Robert Burke ที่ปรึกษาด้านการค้าปลีกสินค้าหรูหรา กล่าวว่า ความเหนื่อยล้าทางสังคมและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทำให้ผู้คนรู้สึกว่าไม่อยากแสดงออกว่าตัวเองมีเงิน

แบรนด์อะไรที่ได้ประโยชน์จากเทรนด์นี้?

แน่นอนว่าเทรนด์ Quiet Luxury ที่มาแรงทำให้ชวนตั้งคำถามว่าแล้วแบรนด์หรูที่โชว์โลโก้แบบเบิ้มๆ ได้รับผลกระทบหรือไม่ และมองเรื่องนี้อย่างไร

โดย Jean-Jacques Guiony ผู้ดำรงตำแหน่ง CFO ของอาณาจักร LVMH ที่เป็นเจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton, Dior และ Fendi เป็นต้น กล่าวว่า เทรนด์นี้ได้รับความนิยมตั้งแต่เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้วในช่วงเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่

เขาเชื่อว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงต้องการโปรดักต์ที่มีโลโก้ แต่ LVMH ก็มีตัวเลือกที่ “ระมัดระวัง” มากมายสำหรับลูกค้าเช่นกัน

Serdari จาก NYU Stern กล่าวว่า LVMH คือหนึ่งแบรนด์ที่จะได้รับประโยชน์จากกระแสนี้ เนื่องจากมีชื่อเสียงในด้านเสื้อสเวตเตอร์แคชเมียร์ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์หรูอิตาลีอย่าง Brunello Cucinelli รวมถึงแบรนด์เครื่องหนังของฝรั่งเศสอย่าง Hermès และ Armani ซึ่งทำสไตล์ Quiet Luxury มาเกือบสองทศวรรษ

แต่ถึงอย่างนั้นความเรียบง่ายมินิมอลก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง ถึงอย่างไรก็ยังมีคนที่ต้องการที่จะโชว์โลโก้อยู่เสมอ รวมถึงแบรนด์เองอย่าง Chanel ก็ไม่สามารถเลิกใช้โลโก้ได้เลย

อ้างอิง:

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า