SHARE

คัดลอกแล้ว

ในขณะที่หลายประเทศ ตื่นตัวกับความเสี่ยงของแชทบ็อท หรือ Generative AI ประเทศจีนกลับมีท่าทีต่างออกไป ในภาพรวมคือเปิดใจรับมาใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น มีระดับความกลัวน้อยกว่าประเทศอื่น เนื่องจากจีนมีคาแรกเตอร์พิเศษ เปิดใจรับเทคโนโลยีหลายรูปแบบมานานแล้ว 

หนึ่งในเทรนด์น่าสนใจที่คนจีนใช้งานแชทบ็อทคือ ใช้เป็นเพื่อนคุยแก้เหงา และเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นมาได้ 3-4 ปีแล้ว

Xiaoice แชทบ็อทที่พูดภาษาจีนตามอารมณ์ เป็นแพลตฟอร์มแชทบ็อทในเครือไมโครซอฟท์ (เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 และแยกตัวออกมาเป็นบริษัทเดี่ยวในปี 2021) ซึ่งตัวเลขผู้ใช้งานในปี 2018 มีมากถึง 650 ล้านราย ถือเป็นแชทบ็อทที่มีมาก่อนที่ ChatGPT จะดัง

ผู้ใช้งานส่วนมากของ Xiaoice เป็นผู้ชาย เนื่องจาก Xiaoice ถูกสร้างภาพให้เป็นแชทบ็อทผู้หญิง ที่มีหน้าตาสวยน่ารัก ผู้ใช้งานยิ่งเพิ่มขึ้นในช่วงล็อกดาวน์ ซึ่งความสามารถของ Xiaoice นอกจากเป็นเพื่อนคุยเรื่อยเปื่อยแล้ว  ยังถูกสร้างให้เป็นนักออกแบบลายผ้าให้กับผู้ผลิตเสื้อผ้าในจีนอีกด้วย 

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นเทรนด์การใช้งานแชทบ็อทของคนจีน ว่านอกจากจะลองใช้เพื่อช่วยงานแล้ว ยังใช้เพื่อแก้เหงา เป็นเพื่อน นักวิจัยไมโครซอฟท์เขียนไว้ในบล็อกเมื่อปี 2018 ว่า “ผู้ใช้ให้ข้อเสนอแนะว่า การสนทนากับ Xiaoice ส่งผลให้เกิดมุมมองเชิงบวกมากขึ้น รู้สึกถึงการสนับสนุนทางอารมณ์ และความรู้สึกการเป็นส่วนหนึ่งในสังคม”

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ เด็กนักเรียนชาวจีน ได้พยายามใช้ ChatGPT ช่วยทำการบ้าน (ใช้ VPN เพื่อเข้าถึงแพลตฟอร์ม) รวมถึงค้นหา “วิธีใช้ ChatGPT” ใน Baidu เสิร์ชเอ็นจิ้นของจีน 

จริงอยู่ที่จีน ใช้อำนาจรัฐในการควบคุมการเข้าถึงเนื้อหาอินเทอร์เน็ต แต่แทนที่จีนจะปิดกั้นการใช้อินเทอร์เน็ตไปเลย กลับพัฒนาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแบบจำกัด และเน้นให้บริษัทในประเทศ สร้างเทคโนโลยีของตัวเอง ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐฯ แม้คนจีนไม่สามารถใช้งาน YouTube, Facebook, Twitter ได้ แต่ในจีนมีแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่ได้เทียบเคียงหมดแล้ว 

ปัจจุบัน จีนเป็นฐานผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ที่สุดในโลก 1 พันล้านราย และบางแพลตฟอร์มของจีน ยังพัฒนาไปไกลกว่าแอปพลิเคชั่นของบริษัทในซิลิคอนวัลเล่ย์ด้วยซ้ำ กล่าวคือ จีนเปิดกว้างให้มีการพัฒนาเทคโนโลยี ตราบใดที่มันไม่กระทบอำนาจรัฐและความมั่นคงของจีน (จีนเองก็ใช้เทคโนโลยีเพื่อสอดส่องประชาชนด้วย)

สำหรับตอนนี้ AI ของจีนยังคงตามหลังบริษัทสหรัฐฯ ในการสร้าง AI เวอร์ชันสูง ซึ่งทั้ง Baidu และ Alibaba ต่างก็พยายมพัฒนาเพื่อไล่ตามให้ทัน แต่ตราบใดที่ทางการจีน และภาคประชาสังคม ยังคงเต็มใจยอมรับและปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยี ในอนาคต จีนก็อาจได้เปรียบบนเวทีโลกเรื่อง AI

ที่มา : https://www.bloomberg.com/opinion/articles/2023-04-10/virtual-romance-is-fueling-china-s-ai-revolution

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า