ผู้แทน UN เผยรัสเซียใช้ ‘การข่มขืน’ เป็นส่วนหนึ่งของแผนทางการทหาร เพื่อหวังลดทอนความเป็นมนุษย์

ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติระบุถึงกลยุทธ์ทหารรัสเซีย ที่มีการพกยาไวอากร้ามารบในยูเครน และใช้ความรุนแรงทางเพศต่อเหยื่อตั้งแต่อายุ 4 ปี ไปจนถึง 82 ปี

พรามิลา แพทเทน ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติในประเด็นความรุนแรงทางเพศท่ามกลางความขัดแย้ง (Sexual Violence in Conflict) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP กล่าวหากองทัพรัสเซียว่า ใช้การข่มขืนและการคุกคามทางเพศ เป็นส่วนหนึ่งของแผนทางการทหาร โดยตั้งใจใช้เป็นแผนการสำหรับลดทอนความเป็นมนุษย์

เมื่อถูกถามถึงประเด็นที่ว่า การข่มขืนถือเป็นอาวุธที่นำมาใช้ในสงครามยูเครนหรือไม่ ทางผู้แทนพิเศษสหประชาชาติยืนยันว่า มีข้อบ่งชี้ทุกด้านที่ระบุว่าเป็นเช่นนั้น ทั้งการที่ผู้หญิงถูกคุมตัวไว้หลายวันเพื่อข่มขืน การข่มขืนผู้ชายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ การตัดอวัยวะเพศ การที่ได้ยินจากปากคำของผู้หญิงเกี่ยวกับทหารรัสเซีย ที่มาพร้อมกับยาไวอากร้า มันชัดเจนว่าเป็นแผนทางทหาร 

แพทเทนระบุว่า เหยื่อหลายรายยังได้รายงานถึงสิ่งที่ทหารพูดระหว่างทำการข่มขืน ซึ่งก็ชัดเจนว่าเป็นแผนที่จงใจคิดขึ้นมาสำหรับการลดทอนความเป็นมนุษย์ของเหยื่อ

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนก่อน รายงานของคณะกรรมการอิสระนานาชาติ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) ยืนยันถึงการข่มขืนและความรุนแรงทางเพศที่เกิดขึ้นหลายร้อยกรณีในยูเครน นับตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มเข้าไปรุกรานเมื่อ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา

รายงานดังกล่าวระบุว่า มีการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติเกิดขึ้นโดยฝีมือของกองทัพรัสเซีย และจากการรวบรวมคำให้การพบว่า อายุของเหยื่อความรุนแรงทางเพศนั้น มีตั้งแต่อายุ 4 ปี ไปจนถึง 82 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กผู้หญิง แต่มีบางกรณีที่เกิดขึ้นกับผู้ชายและเด็กผู้ชายด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ผู้แทนพิเศษสหประชาชาติกล่าวเสริมว่า เป็นเรื่องยากมากที่จะสรุปสถิติที่น่าเชื่อถือ ระหว่างที่ยังคงมีความขัดแย้งเกิดขึ้นอยู่ และตัวเลขเหล่านี้ก็จะไม่มีวันสะท้อนความเป็นจริงออกมาได้ เพราะความรุนแรงทางเพษนั้นเป็นอาชญากรรมเงียบ ที่มักจะมีรายงานน้อยกว่าความเป็นจริงอย่างมาก

สำหรับรายงานพิเศษของ UNHRC นั้น เปิดเผยถึงอาชญากรรมที่เกิดขึ้นทั้งจากฝั่งยูเครนและฝั่งรัสเซีย โดยส่วนของยูเครนเป็นการประหารชีวิตผู้ที่ถูกสงสัยว่าเป็นกบฎและการปฏิบัติต่อเชลยศึกอย่างไม่ถูกต้อง ขณะที่รัสเซียมีการกระทำผิดหลายอย่าง ทั้งการใช้อาวุธต้องห้าม การทรมาน การข่มขืน การใช้ความรุนแรงทางเพศ และอื่นๆ อีกมากมาย

ที่มา: AFP, UN