SHARE

คัดลอกแล้ว

ลิเวอร์พูล ทำผลงานดีที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร พวกเขาทำแต้มในปัจจุบันได้ถึง 94 แต้ม และถ้าเกมสุดท้ายชนะวูล์ฟ จะมีแต้มถึง 97 ซึ่งถือว่ามหาศาลมากๆ

ถ้าไปอยู่ในปีอื่นๆ ลิเวอร์พูลได้แชมป์ลีกไปแล้ว แต่มันไม่ใช่กับในปีนี้ เพราะแมนฯซิตี้เอง ก็ไม่พลาดเลยเช่นกัน

สำหรับทีมหงส์แดง ซีซั่นนี้ มีสถิติการทำประตูยอดเยี่ยม จิตใจแข็งแกร่ง โกงความตายมาได้หลายต่อหลายนัด แนวรับแข็งแกร่ง เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA

แน่นอนลิเวอร์พูลมีโอกาสในวันสุดท้ายของฤดูกาล แต่สื่อมวลชนทั่วโลกก็ฟันธงว่า น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะแมนฯซิตี้ ด้วยฟอร์มดีแบบนี้ คงไม่พลาดในเกมสุดท้ายที่เจอกับไบรท์ตันแน่ๆ ซึ่งถ้าแมนฯซิตี้ชนะไบรท์ตัน จะทำให้ลิเวอร์พูลพลาดแชมป์พรีเมียร์ลีกอีกครั้งทันที

คำถามสำหรับหงส์แดงก็คือ ผลงานดีขนาดนี้ ถ้าซีซั่นนี้พวกเขาไม่ได้แชมป์ ต้องทำแบบไหน ต้องพัฒนาอะไร ถึงจะก้าวมาเป็นแชมป์ที่รอคอยได้เสียที

—————————————

1) กลุ่มตัวรุกสำรองยังมีคุณภาพทดแทนตัวจริงไม่ได้

หากดูแมนฯซิตี้ ตัวจริงกับตัวสำรอง จะเห็นชัดเจนว่า ระดับคุณภาพนั้นทัดเทียมกันมาก กุน อเกวโร่ กองหน้าเบอร์ 1 กับ กาเบรียล เชซุส หัวหอกสำรอง นี่ก็ดีกรีระดับทีมชาติอาร์เจนติน่า และบราซิลทั้งคู่

ปีกริมเส้น มีทั้งราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ แบร์นาโด้ ซิลวา ส่วนตัวสำรองที่พร้อมโรเทชั่นตลอดเวลา คือลีรอย ซาเน่ และ ริยาด มาห์เรซ

มันแปลว่า ต่อให้ลงกี่ถ้วยต่อกี่ถ้วย นักเตะก็สามารถแทนที่ได้เสมอ นักเตะยังมีความฟิตความสด เต็มถัง

ลิเวอร์พูลนั้น ตัวสำรองโดยเฉพาะในแนวรุก อยู่ในระดับที่ต่างจากตัวหลักมากๆ ตัวหลักสามคนคือซาลาห์ ,มาเน่ และ ฟีร์มีโน่ ถือเป็นสามประสานตัวท็อป แต่ตัวสำรองอย่างแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ปีนี้ก็โรยรามากๆ หรือ ดิว็อค โอริกี้ ถ้าไม่นับเรื่องการยิงประตูเกมสำคัญ เขาก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรมากนักในเกม

ปีหน้าสเตอร์ริดจ์หมดสัญญา ซึ่งก็คงย้ายออกแน่ๆ ลิเวอร์พูลต้องหาใครสักคนมาแทน และต้องมีคุณภาพระดับทัดเทียมกับ 3 ตัวรุกคีย์แมน เผื่อใครเจ็บใครป่วยจะได้เสียบแทนได้ทันควัน

—————————————

2) คล็อปป์รับมือกับการลุ้น 2 ถ้วยไม่เก่ง

เป็นสิ่งที่เกิดกับเขามาตลอด ตั้งแต่สมัยคุมโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์แล้วคือ เวลามีหลายๆถ้วยให้โฟกัส คล็อปป์จะเสียสมาธิและไม่สามารถทำได้ดีทั้งสองรายการ

ในฤดูกาล 2012-13 ดอร์ทมุนด์ ทำผลงานในแชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ทว่าผลงานในลีก ก็ย่ำแย่มากๆ และเสียแชมป์ให้กับบาเยิร์น มิวนิค จากนั้นพอเข้าชิงยุโรป ก็ไปแพ้บาเยิร์นอีกรอบ ทำให้ดอร์ทมุนด์สุดท้าย วืดทั้ง 2 ถ้วย

ปีนี้ เป็นซีซั่นแรกกับลิเวอร์พูลที่เขามีลุ้นแชมป์เต็มตัว ขณะที่ในแชมเปี้ยนส์ลีก ก็ต้องเพ่งสมาธิ จนสุดท้าย ได้เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ

อย่างซีซั่นก่อน หงส์แค่ประคองตัวจบท็อปโฟร์เท่านั้น ไม่ได้หวังถึงการลุ้นแชมป์ ทำให้มุ่งมั่นไปที่เกมยุโรปได้อย่างเต็มที่ แต่มาซีซั่นนี้คล็อปป์ต้องรับมือกับงานหนักสองทาง นั่นถือเป็นประสบการณ์ใหม่ของคล็อปป์ ในการคุมทีมลิเวอร์พูล

—————————————

3) ลิเวอร์พูลขาดกองกลางที่สร้างความพิเศษ

กองกลางส่วนใหญ่ของลิเวอร์พูลชุดนี้ จะเป็นประเภท “มิดฟิลด์ตัวกลาง” ได้แก่จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จินี่ ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่,เจมส์ มิลเนอร์ รวมถึง นาบี เกอิต้า มีความเป็นตัวรุกก็จริง แต่พื้นฐานก็มาจากตัวกลาง

ย้อนกลับไปในช่วง 2-3 ปี ก่อน ลิเวอร์พูลมีนักเตะที่พร้อมสร้างความมหัศจรรย์ ได้ตลอด อย่างฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่มีลูกจ่ายอันแพรวพราว การเลี้ยงบอลที่น่าทึ่งและทีเด็ดการยิงไกล ซึ่งลิเวอร์พูลไม่มีอาวุธหนักตรงนี้เลย

ถ้าซีซั่นนี้จบลงตำแหน่ง “เพลย์เมกเกอร์” อาจเป็นผู้เล่นที่ลิเวอร์พูลควรจะหามาเพิ่ม สักคน คนที่สร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้ในสนาม

—————————————

4) สมาธิ

ในฤดูกาลนี้ เกมที่ลิเวอร์พูลทำแต้มหลุด ส่วนใหญ่พวกเขานำก่อนทั้งนั้นแต่ปิดบัญชีไม่ได้ เกมเยือนอาร์เซน่อลที่เสมอ 1-1 นำอยู่จนถึงนาที 82 ก็มาโดนตีเสมอ จากอเลซองดร์ ลากาแซตต์ เกมเยือนแมนฯซิตี้ ที่แพ้ 2-1 ลิเวอร์พูลเพิ่งตามตีเสมอได้สดๆร้อนๆ ก็เสียสมาธิจนโดนยิงนำ 2-1 ไปอีก

เกมเจอเลสเตอร์ ในบ้านตัวเอง นำเร็วตั้งแต่นาทีที่ 3 แต่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรก ก็มาโดนยิงตีเสมอ 1-1 และคัมแบ็กกลับมาไม่ได้อีกเลย หรือเกมเจอเวสต์แฮม ก็นำไปก่อน 1-0 แถมครองบอลมากเกิน 70% แต่ก็ยังอุตส่าห์โดนตีเสมออีก

อนาคตถ้าลิเวอร์พูลอยากจะแซงหน้าแมนฯซิตี้ได้จริงๆ พวกเขาอาจจะต้องนิ่งยิ่งขึ้นกว่านี้อีก ทั้งที่ตอนนี้ลิเวอร์พูลก็ทำดีทุกอย่างแล้ว แต่มาตรฐานพรีเมียร์ลีกตอนนี้ มันไปสูงขนาดนั้นแล้ว

—————————————

หากซีซั่นนี้สุดท้ายลิเวอร์พูลไม่ได้แชมป์ ก็ถือว่ามันคือบทเรียนครั้งสำคัญ ให้พวกเขาเตรียมพร้อมต่อไปในการสู้ศึกซีซั่นหน้า และหวังว่าการรอคอย 30 ปีจะสิ้นสุดลงเสียที

ประสบการณ์ในซีซั่นนี้ จะทำให้ได้เรียนรู้ว่าในยุคนี้ แค่ 90 กว่าแต้ม มันไม่พอที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกแล้ว มันต้องสุดยอดของสุดยอดจริงๆเท่านั้น ถึงจะไปถึงฝันได้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า