ร้านซีฟู้ดดัง Red Lobster ยื่นล้มละลาย เพราะบุฟเฟ่ต์กินกุ้งไม่อั้น หรือเหตุผลอื่น?

Red Lobster เชนร้านอาหารทะเลรายใหญ่ของสหรัฐ และรายใหญ่ที่สุดของโลก ยื่นขอฟื้นฟูกิจการและขอพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐแล้ว

โดยบริษัทมีสินทรัพย์และหนี้สินเท่ากันที่ราว 1 พันล้านถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และเงินสดไม่ถึง 30 ล้านดอลลาร์

ธุรกิจ Red Lobster ประสบปัญหามาหลายปี ลูกค้าลดลงถึง 30% โดยมีรายงานขาดทุนสุทธิ 76 ล้านดอลลาร์ในปี 2566

ประเด็นที่ตกเป็นกระแสขาดทุน คือ การออกโปรโมชั่นจ่าย 20 ดอลลาร์ กินบุฟเฟ่ต์กุ้งไม่อั้น ที่เร่ียกว่า ‘Endless Shrimp’ และบริษัทยังมีการปรับโปรโมชั่นจากสัปดาห์ละครั้งเป็นทุกวันเพื่อกระตุ้นยอดขาย ซึ่งผู้คนก็มาใช้บริการกันล้มหลาม แต่สุดท้ายกลายเป็นมีภาระทางการเงินเพิ่ม 11 ล้านดอลลาร์ มีผลต่อตัวเลขผลประกอบการรวมของบริษัทที่ประสบภาวะขาดทุน

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า คำร้องของ Red Lobster ยื่นขอฟื้นฟูกิจการฯต่อศาล ระบุว่า บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นซัพพลายเออร์ใหญ่ส่งกุ้งให้ Red Lobster มาอย่างยาวนานกระทั่งเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เมื่อปี 2563 เป็นผู้ได้รับประโยชน์จากโปรโมชั่นนี้ เพราะช่วยเพิ่มยอดขายกุ้งของบริษัท แต่ส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของ Red Lobster

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างถึงเอกสารยื่นขอล้มละลายที่ระบุโดย โจนาธาน ทิบัส ซีอีโอเขียนไว้ว่า “ร้าน Red Lobster บางสาขาประสบปัญหาขาดแคลนกุ้ง ในเวลาเดียวกับที่บริษัทได้ตัดซัพพลายเออร์กุ้งชุบเกล็ดขนมปัง 2 ราย ส่งผลให้ไทยยูเนี่ยนมีข้อตกลงพิเศษที่นำไปสู่ต้นทุนที่สูงขึ้น…ไทยยูเนี่ยนใช้อิทธิพลอย่างมากต่อการซื้อกุ้งของบริษัท” รอยเตอร์รายงานอ้างเอกสารยื่นฟ้องต่อศาล

โดยตอนนี้ Red Lobster มีหนี้สิน 294 ล้านดอลลาร์ และวางแผนที่จะปิดร้านสาขาที่มีผลดำเนินงานไม่ดีบางแห่ง และขายส่วนที่เหลือออกไป

ขณะเดียวกันก่อนหน้าเมื่อช่วงต้นปี บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้ถอนการลงทุนจาก Red Lobster ส่งผลต่อธุรกิจด้วยเช่นกัน

ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า โปรโมชั่นบุฟเฟ่ต์กินกุ้งไม่อั้นในราคา 20 ดอลลาร์ ทางบริษัท ไทยยูเนี่ยนฯ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ของโลก มองว่าโปรโมชั่นนี้เป็นการส่งเสริมการขายและเป็นช่องทางในการขายกุ้งของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามก็ส่งผลให้ธุรกิจ Red Lobster มีภาระค่าใช้จ่ายในส่วนโปรโมชั่นนี้ขึ้นมาอีก

ทั้งยังรายงานว่า การยื่นฟ้องล้มละลายของ Red Lobster ทำให้มีความกระจ่างใหม่ขึ้นมาเกี่ยวกับบทบาทของบริษัทไทย ยูเนียนฯ ที่ถือหุ้นใหญ่กับสถานการณ์ส่งเสริมการขายบุฟเฟ่ต์กินกุ้งไม่อั้นของ Red Lobster

บทความของซีเอ็นเอ็น ระบุว่า ซีอีโอที่ได้รับการแต่งตั้งภายใต้การดูแลของไทยยูเนี่ยน ทำให้มีความเกี่ยวข้องกับการจัดการซัพพลายเออร์ตัวกุ้งชุบเกล็ดขนมปัง และถูกระบุถึงต้นทุนที่สูงขึ้น และไม่สอดคล้องกับกระบวนการตัดสินใจโดยทั่วไปของบริษัทในการเลือกซัพพลายเออร์

ในคำยื่นฟ้องล้มละลาย Red Lobster ระบุว่า “การตัดสินใจครั้งนี้สร้างปัญหาทั้งด้านการดำเนินงานและทางการเงินให้กับ Red Lobster…ทำให้บริษัทต้องแบกรับภาระผูกพันในการจัดหาที่เป็นภาระ”

ทั้งรอยเตอร์ และซีเอ็นเอ็นได้ติดต่อขอทราบความเห็นจากทางไทยยูเนียน แต่ทางบริษัทยังไม่ได้ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้

ในมุมมองเรื่องของโปรโมชั่นกินกุ้งไม่อั้นที่เป็นประเด็นนั้น

ซีเอ็นเอ็น ได้อ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของ ‘ธีรพงศ์ จันศิริ’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทไทยยูเนี่ยน เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วว่า

“เราคาดหวังว่าปริมาณลูกค้าจะเพิ่มขึ้น 20% แต่จำนวนจริงนั้นสูงถึง 40%”

สองเดือนต่อมา ไทยยูเนี่ยนกล่าวว่าจะถอนการลงทุนจาก Red Lobster และรับผลขาดทุนจากการลงทุน 530 ล้านดอลลาร์ โดยบริษัทให้เหตุผลมาจากสถานการณ์หลังการแพร่ระบาดของโควิด อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นทั้งวัตถุดิบ และค่าแรง

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่าโปรโมชั่นกินกุ้งไม่อั้นไม่ได้เป็นสาเหตุเดียวของธุรกิจ Red Lobster มีการวิเคราะห์ว่ายังมีปัจจัยอื่นทางธุรกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคในสหรัฐฯเองด้วย รวมไปถึงการบริหารการจัดการต่างๆ ที่ส่งผลต่อสถานะทางการเงินของ Red Lobster

นอกจากนี้การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากเชนร้านอาหารจานด่วนอื่นๆ ในช่วง 20 ปีมานี้ ก็มีผลต่อการเติบโตของ Red Lobster พอกับที่ไม่ได้เพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มคนมิลเลนเนียล หรือ Gen Y และคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้นเพื่อทดแทนกลุ่ม Baby Boomer

สำหรับ Red Lobster ก่อตั้งขึ้นในปี 2511 มี 551 สาขาในสหรัฐ และ 27 สาขาในแคนาดา และมีสาขาในไทยที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ และในห้างสรรพสินค้า The Emsphere บริหารโดยบริษัทในเครือไทยเบฟ

ที่มา CNN, Reuters