“ณัฐวุฒิ” สวมเสื้อหงส์ขึ้นศาล ฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์ ปี 50

ยืดเยื้อมากว่า 13 ปี วันนี้ศาลฎีกานัดอ่านคำพิพากษา คดีแกนนำกลุ่มนปช. นำมวลชนบุกปิดล้อมบ้านพัก พล.อ.เปรม อดีตประธานองคมนตรี เมื่อปี 2550 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หนึ่งในแกนนำ นปช. สวมเสื้อทีมลิเวอร์พูล ในวันที่เดินทางมาศาลอาญา รัชดาฯ เพื่อฟังคำพิพากษา ศาลฎีกาในคดีชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ เมื่อปี พ.ศ. 2550

ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ หรือ เต้น ตอบคำถามนักข่าวที่ถามว่า “ฟุตบอลกับการเมือง” เกี่ยวกันอย่างไรว่า ทั้งสองอย่างต้องมีกติกาที่เป็นสากล ดังนั้นหากกติกาเป็นสากล แล้วทุกฝ่ายแข่งขันกันโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม เมื่อนกหวีดเป่าหมดเวลาทุกอย่างจบ มิตรภาพ ก็เกิดขึ้นทั้งในและนอกสนาม แต่หากว่า แต่ละฝ่ายลงสนามโดยกติกาที่เอื้อประโยชน์ ให้ข้างใดข้างหนึ่ง โดยกรรมการที่ยักคิ้วหลิ่วตา กับนักเตะอีกข้างตลอดเวลา ถึงวันนั้นแม่นกหวีดจะเป่าหมดเวลา เกมก็ยังไม่จบ และการแข่งขันฟาดฟันกันจะไม่ใช่เฉพาะนักกีฬาในสนาม แม้กระทั่งกองเชียร์ก็ลงสนามมาเผชิญหน้ากัน นั่นคือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น ทั้งในสนามกีฬาและสนามทางการเมือง

แต่ในสนามการเมืองไม่มีนกหวีดหมดเวลา แต่ยังมีเวลาอยู่เสมอ ตราบเท่าที่ผู้คนที่กำลังต่อสู้ไม่หมดกำลังใจไปเสียก่อน ลิเวอร์พูลยังรอได้ตั้ง 30 ปี เราสู้มากว่า 10 ปีก็ยังเป็นหน้าที่ที่ต้องสู้ต่อไป เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น “You’ll Never Walk Alone”

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นอกจากนายณัฐวุฒิ ยังมีแกนนำนปช. ที่ตกเป็นจำเลยในคดีนี้เดินทางมาคำพิพากษาด้วย ได้แก่ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นพ.เหวง โตจิราการ และนายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบขาว 2006 โดยมีผู้สนับสนุนมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง

ย้อนเหตุการณ์คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แกนนำ นปช. ในขณะนั้นใช้ชื่อกลุ่มว่า “แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ” หรือ นปก. พร้อมผู้ชุมนุม ได้เคลื่อนขบวนจากการชุมนุมที่ท้องสนามหลวง ไปปิดล้อมบริเวณหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ บ้านพักของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่อกดดันให้ พล.อ.เปรม ลาออกจากตำแหน่ง ประธานองคมนตรี เนื่องจากเชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 โดยบรรยากาศการชุมนุมดังกล่าวตึงเครียด ตำรวจพยายามเจรจาให้ยุติ จนถึงมีการใช้แก๊สน้ำตา

คดีนี้ในศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2558 ให้จำคุกนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง, และนพ.เหวง คนละ 4 ปี 4 เดือน ส่วนนายนพรุจ จำคุก 2 ปี 8 เดือน ขณะที่ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาวันที่ 10 มกราคม 2560 ให้จำคุกแกนนำนปช. คนละ 2 ปี 8 เดือน นายนพรุจ จำคุก 2 ปี 8 เดือน อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2562 จำเลย 4 คน ในคดีนี้ได้กลับคำให้การเป็นรับสารภาพ คือ นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นพ.เหวง และนายวิภูเเถลง ศาลฏีการับคำร้องดังกล่าว และมีคำพิพากษาในวันนี้ หลังจากจำเลยมีเหตุขอเลื่อนมาแล้ว 4 ครั้ง