SHARE

คัดลอกแล้ว

จากกรณีที่ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า วันที่ 22 ส.ค. มีคำพิพากษาคดีแพ่งตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6646-6647/2561 เรื่องการวางเพลิงเผาทรัพย์ช่วงระหว่างการชุมนุมของกลุ่ม นปช. เมื่อปี 2553 โดยมีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งศาลพิพากษาให้ นายจตุพร พรหมพันธุ์,นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อและนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของอาคาร ถ.ราชปรารภ ที่ถูกเผารวม 19,347,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี

โดยนายราเมศ ระบุว่า ศาลฎีกาให้เหตุผลสรุปสาระสำคัญว่า คำพูดของนายจตุพร, นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ล้วนเป็นการปราศรัยที่ยุยงส่งเสริมหรือสนับสนุนให้ผู้เข้าร่วมชุมนุมร่วมกันแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ต่อการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่ ความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่อาคารและทรัพย์สินที่ถูกบุคคลผู้ชุมนุมในกลุ่ม นปช. วางเพลิงเผาทำลายนั้น เป็นผลที่เกิดขึ้นจากคำกล่าวปราศรัยของทั้ง 3 คน

ภาพจาก PEACE TV

วันที่ 25 ส.ค. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า วันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมาศาลแพ่งนัดอ่านคำพิพากษา ซึ่งทั้งตน นายณัฐวุฒิ และนายอริสมันต์ ไม่ทราบเพราะไม่ได้รับหมายศาล ซึ่งเมื่อคำตัดสินออกมาไม่ว่าจะอย่างไรน้อมรับคำตัดสิน พวกตนเลือกที่จะยังไม่พูดเพื่อศึกษารายละเอียด แต่เมื่อโฆษกพรรคประชาธิปัตย์นำคดีนี้มาพูดจึงต้องชี้แจง

เหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 53 ก่อนเกิดเหตุตามคำฟ้อง ในวันที่ 19 พ.ค.

คดีนี้โจทก์เจ้าของอาคารพาณิชย์และผู้เช่า ที่ ถ.ราชปรารภ ที่ถูกเพลิงไหม้ ฟ้องผู้กี่ยวข้องหลายคน พวกตน 3 คน เป็นจำเลยที่ 6-8 ส่วน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็น จำเลยที่ 11

กรณีมีการวางเพลิงไม่มีการจับกุมผู้ต้องหาได้ในคดีอาญา แต่ในคดีแพ่ง โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอาคารก็ยืนยันไม่ได้ว่าใครเผา แต่ฟ้องผู้ที่เกียวข้อง ทั้งฝ่ายรัฐและผู้ชุมนุมเพื่อเรียกค่าเสียหาย ซึ่งศาลชั้นต้นและอทธรณ์ยกแต่มาลงฎีกา ให้พวกตน 3 คน ชดใช้ 19.3 ล้าน บวกดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 เป็นเงินประมาณ 30 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ควบคุมพื้นที่ ย่านดินแดง เมื่อ 21 พ.ค. 53

นายจตุพร กล่าวว่า ตนอยากชี้ให้เห็นว่า เหตุการณ์เพลิงไหม้เกิดขึ้นทุ่มเศษๆ วันที่ 19 พ.ค. 53 ส่วนการชุมนุมยุติไปเมื่อ 13.45 น. และในคำฟ้องโจทก์ที่ 2 ก็ไม่ได้ให้การปรักปรำพวกตน โดยเล่าว่า นอนอยู่ในอาคารแล้วมีทหารจำนวนมากเข้าควบคุมบริเวณ 14.00 น. จน 16.00 น. ทหารนำรั้วลวดหนามมาวางกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้า และมีป้ายข้อความพื้นที่ใช้กระสุนจริง ต่อมา 17.30 น. ทหารมาเคาะแจ้งให้โจทก์ออกจากบ้าน อ้างว่ามีการดับไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่จะควบคุมเพื่อเคลียร์พื้นที่ โจทก์จึงออกจากบ้าน ครั้นเวลา 19.45 น. โจมก์จึงได้รับแจ้งว่าบ้านถูกวางเพลิง นาน 30 นาทีแล้ว

ขณะที่โจทก์อีกคนหนึ่งที่ออกจากบ้านแล้วจะขอกลับเข้าไปเอายารักษาโรคประจำตัวที่ลืมไว้ ในเวลา 16.00 น. แต่ทหารก็ไม่อนุญาต ให้เหตุผลว่าอันตรายมาก

ส่วนการเชื่อมโยงคำพูดของพวกตนก็เป็นการพูดไว้ก่อนเหตุการณ์ 1 เดือนและ 3 เดือน พวกตนจึงไม่คิดว่าผลจะออกมาแบบนี้ การระบุว่าตนพูดในฐานะประธาน นปช.ก็ไม่จริงเพราะตอนปี 2553 นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ยังเป็นประธานแต่ตนมารับตำแหน่งเมื่อปี 2557

ภาพจาก PEACE TV

คดีนี้ไม่มีผู้ต้องหาสักรายเดียวที่ถูกจับกุมและซัดทอด โจทก์บอกความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ให้ออกจากอาคารและมีการควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ แต่เมื่อฎีกาวินิฉัยก็ต้องยอมรับ ถือว่ายุติแบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัวคนเราก็เป็นหนี้กันได้

“เดี๋ยวก็จะมีการขยายกันว่าเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง แล้วผมเชื่อว่านี่เป็นการหยิบใช้ประโยชน์ทางการเมืองจนเกินงามกัน แต่เราไม่ใช่ประเภท ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย แต่ก็ต้องมานั่งคุยกันว่าหลังจากนี้ขั้นตอนตามกฎหมายอย่างไร”

นายจตุพร กล่าวว่า นี่เป็นเรื่องชะตากรรมที่ยังไม่สิ้นสุด วันที่ 11 ก.ย. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีพัทยา ซึ่งศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ให้จำคุก 4 ปี และ 12 ก.ย. ตนเพิ่งได้รับหมายอ่านคำพิพากษาในคดีที่ตนเคยถูกจำคุกแต่โจทก์เห็นว่ายังจำคุกไม่ครบ ซึ่งตนยืนยันว่าได้ปฏิบัติคำสั่งศาลแล้วและ 23 ก.ย. คดีชุมนุมที่บ้านสี่เสาเทเวศน์ สำนวนแรก

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า