Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 150 คน วางเป้าค้นหาเชิงรุกตรวจหาผู้ติดเชื้อในคลัสเตอร์ตลาดในจังหวัดปทุมธานีให้ครบ วันละ 1 หมื่นคน พร้อมปรับพื้นที่ทุกจังหวัดเพื่อเตรียมผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรม ยกเว้น สมุทรสาคร  ยังคงเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด

วันที่ 18 ก.พ. 2564 แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019​ (ศบค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในวันนี้ (18 ก.พ.64 ) พบผู้ป่วยรายใหม่ 150 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 142 คน ซึ่งมาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 38 คน และการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 104 คน และผู้เดินทางจากต่างประเทศและเข้าสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 8 คน

ส่งผลให้ผู้ป่วยยืนยันสะสม 25,111 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 22,446 คน จากการคัดกรองเชิงรุก 14,256 คน จากผู้เดินทางจากต่างประเทศ 2,665 คน และสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 2,056 คน มีผู้ป่วยหายเพิ่ม 249 คน รวมหายป่วยแล้ว 23,946 คน อยู่ระหว่างการรักษา 1,083 คน เสียชีวิต 82 คน

ทั้งนี้ ยอดผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.63-18 ก.พ.64 จังหวัดสมุทรสาครมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 15,754 คน ส่วนกรุงเทพฯมียอดผู้ติดเชื้อสะสม 934 คน และจากจังหวัดอื่นๆ รวม 3,295 คน

ส่วนคลัสเตอร์เชื่อมโยงตลาดพรพัฒน์ จังหวัดปทุมธานี พบผู้ติดเชื้อสะสม 359 คน (ระหว่าง 9-16 ก.พ.64) และสอบสวนโรคพบว่าผู้ติดเชื้อได้เดินทางกระจายการแพร่ระบาดไปอีก 9 จังหวัด (นครนายก 7 คน กรุงเทพฯ 4 คน เพชรบุรี 4 คน สมุทรปราการ 3 คน สระบุรี 3 คน พระนครศรีอยุธยา 2 คน อ่างทอง 2 คน นครราชสีมา 1 คน และ นนทบุรี 1 คน) โดยผู้เกี่ยข้องในจังหวัดปทุมธานีมีการตรวจหาผู้ติดเชื้อแล้ว 4,000 คน จากนี้จะตรวจให้ครบ 10,000 คน เน้นย้ำพื้นที่ตลาดและชุมชน จำเป็นต้องพัฒนามาตรฐานความปลอดภัย หากพบผู้ติดเชื้อต้องรายงานทันที ประชาชนที่ยังจำเป็นต้องไปตลาดทั้งค้าขายและจับจ่ายซื้อของ ต้องการ์ดสูง ใช้เวลาอยู่ให้น้อยสุด ลดการพบปะพูดคุยกันไม่เกิน 5 นาที

ที่ประชุม ศบค.ชุดเฉพาะกิจวันนี้ ได้ทบทวนมาตรการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรม และพื้นที่ โดยยังคงให้จังหวัดสมุทรสาคร เป็น พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด แต่ผ่อนคลายในพื้นที่จังหวัดอื่นประกอบด้วย ปรับพื้นที่ควบคุมจาก 20 จังหวัดเหลือ 8 จังหวัด ได้แก่กรุงเทพฯ สมุทรปราการ สมุทรสงคราม นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี ตาก ราชบุรี ปรับพื้นที่เฝ้าระวังสูง จาก 17 จังหวัด เหลือ 14 จังหวัด และปรับพื้นที่เฝ้าระวังจาก 38 จังหวัดเป็น 54 จังหวัด สมุทรสาครถือเป็นความยินยอมพร้อมใจของทั้งจังหวัด เพราะหากปรับลดสี ลดความเข้มงวด ทางจังหวัดเกรงว่าสภาพพื้นที่อาจยังไม่พร้อม แต่การปรับระดับพื้นที่เพื่อเตรียมผ่อนคลายกิจการและกิจกรรม โดย EOC ได้ประชุมตั้งแต่ 10 ก.พ.และติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง พบแนวโน้มสถานการณ์ดีขึ้นและควบคุมได้ จึงเป็นแนวโน้มที่กระทรวงสาธารณสุขจะมาตรการผ่อนคลายมาตรการ ซึ่งรวมถึงจะมีการผ่อนคลายกิจการ/กิจกรรมอะไรบ้าง ต้องรอการนำเสนอต่อที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ในวันที่ 22 ก.พ.นี้

นอกจากนี้ยังหารือถึงการกระจายวัคซีนโควิด โดยเป้าหมายการบริการจัดการวัคซีนโควิดให้กับประชาชนทุกคน โดยล็อตแรกวันที่ 24 ก.พ.64 โดยทุกคนในประเทศต้องเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรค เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต ในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว เพื่อปกป้องระบบสุขภาพของประเทศ กลุ่มเป้าหมายคือบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ กลุ่มเป้าหมายคือประชาชนทั่วไป แรงงานในภาคธุรกิจบริการ ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม (กรณีแรงงานต่างด้ว จะเป็นการร่วมจ่ายของเจ้าของกิจการ)

โดย ศบค.เห็นด้วยให้ภาคเอกชนสามารถจัดหาวัคซีนได้ แต่ใครจะเป็นคนจัดหาได้ ต้องเป็นสถานพยาบาลที่ได้มาตราฐาน เช่นโรงพยาบาลที่มีแพทย์ มีการกู้ชีพหากแพ้เฉียบพลัยน วัคซีนต้องเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนกับ อย.ต้องมีความปลอดภัยและขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า