น้ำท่วมภาคอีสานยังน่าห่วง ‘กาฬสินธุ์’ เตือนประชาชนพร้อมอพยพ

หลายจังหวัดภาคอีสานได้รับผลกระทบน้ำท่วม จังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุกทกภัยส่วนหน้าเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำปาว และ แม่น้ำชีขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และ เตรียมอพยพย้ายไปอยู่สถานที่ปลอดภัย

วันที่ 3 ก.ย.2562 ทหารกองพลทหารม้าที่ 3 ค่ายเปรมติณสูลานนท์ ฝ่ายปกครอง และ ประชาชนเร่งกรอกกระสอบทรายเพื่อนำไปวางตามจุดเสี่ยงริมตลิ่งแม่น้ำปาว ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน และ เขตเศรษฐกิจของเมืองกาฬสินธุ์ หลังแม่น้ำชีเริ่มหนุน และ อ่างเก็บน้ำห้วยสีทนยังคงระบายน้ำทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เบื้องต้นจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุกทกภัยส่วนหน้าที่วัดสว่างคงคา ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการและจุดรับการสนับสนุนกำลังพล การบริจาคสิ่งของ และเป็นที่พักอาศัยของผู้ประสบภัย พร้อมกับประกาศเตือนให้ประชาชนในเขตชุมชนเศรษฐกิจ และ ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำปาว และ แม่น้ำชีขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและเตรียมอพยพย้ายไปอยู่สถานที่ปลอดภัย

ส่วนฝนที่ตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงประกอบกับมีปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงมาสมทบ/ทำให้ปริมาณน้ำในลำเซบายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และ หมู่บ้านตามแนวลุ่มน้ำเซบายในพื้นที่ตำบลเชียงเพ็ง อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร จำนวน 4 หมู่บ้าน /บ้านเรือนถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ระดับน้ำยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่บ้านเซ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดริมตลิ่งลำน้ำเซบาย ปริมาณน้ำได้ไหลบ่าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านทั้งหมู่บ้านที่มีประชาชนอาศัยอยู่กว่า 110 ครัวเรือน ระดับน้ำบางจุดสูงตั้งแต่ 1-2 เมตร

จ.อำนาจเจริญ ฝนที่ตกหนักส่งผลให้น้ำท่วมชุมชนบ้านนาอุดม ตำบลไร่ขี อำเภอลืออำนาจ กว่า 20 หลังคาเรือน โดยระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และ น้ำไหลเชี่ยว หน่วยงานราชการต้องแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ออกมายังศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

จ.อุดรธานี หลังจากที่มีฝนตกหนักในเขตพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเวลา 12.30น. ทำให้ตามลำห้วยต่างๆ มี น้ำไหลเข้าจำนวนมาก และมีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดเล็ก บางส่วนน้ำไหลลงลำห้วยไม่ทันทำให้น้ำเอ่อท่วมในหลายพื้นที่และถนนสายหลัก ที่บริเวณทางหลวงหมายเลข210อุดรธานี- หนองบัวลำภูฝั่งขาออก ที่เป็นภนน 4 เลนฝั่งละ 2 เลน บริเวณบ้านหนองหลักไปถึงบ้านปากดง มีน้ำล้นลำห้วยเอ่อขึ่นมาท่วมขังพื้นผิวถนนสูงประมาณ 30-40 ซม.ช่องเดินรถทางด้านซ้ายขาไป จ.หนองบัวลำภูถูกน้ำท่วมขังต้องใช้ช่องทางขวาเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้รถติดเป็นระยะทางกว่า 2กิโลเมตร

นอกจากนี้มวลน้ำที่ไหลมาได้ไหลเข้าท่วมโรงเรียนหนองขุ่นเหล่าหลัก,หมู่บ้านหนองหลัก,บ้านหนองขุ่นและพื้นที่นา ซึ่งน้ำที่ไหลมาท่วมนี้เป็นน้ำที่ จะไหลไปลงอ่างเก็บน้ำลำป่าค้าวบ้านห้วยสำราญต.หนองไฮ อ.เมืองอุดรธานี แต่หลังจากที่มีพายุและฝนตกติดต่อกันทำไห้น้ำไหลลงอ่างไม่ทันเอ่อท่วมถนนดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงอุดรธานีและอาสากู้ภัยทางหลวงได้นำเสาสะท้อนแสงและป้ายแจ้งเตือนผู้ขับขี่เพื่อป้องกันอันตราย น้ำในลำน้ำห้วยหลวงยังมีระดับสูงขึ้นและล้นตลิ่งหลายจุด เนื่องจากระดับน้ำในลำห้วยหลวงที่ต้องไหลไปลงแม่น้ำโขงที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ไหลช้า ทำให้น้ำไหลเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรและเข้าไปท่วมหมู่บ้านหลายแห่งโดยเฉพาะที่ ต.สามพร้าว อ.เมือง ประชาชนบางส่วนต้องย้ายอยู่กับญาติ หลังจากระดับท่วมเข้าไปถึงบ้าน ไม่สามารถอยู่ในบ้านได้ แต่ต้องกลับไปเข้าดูบ้านของตัวเองเป็นระยะ เพราะเกรงว่าทรัพย์สินสิ่งของมีค่าจะถูกขโมย แต่ก็มีประชาชนบางรายยังอาศัยอยู่ในบ้านตนเองไม่ออกไปไหน
เพื่อเฝ้าทรัพย์สินของตนเองอีกทั้งระดับน้ำท่วมสูงทำให้ไม่กล้าออกจากบ้าน