‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ วิธีลงทะเบียน ‘ทางรัฐ’ เพื่อรับเงินหมื่นใช้ในปลายปี 2567

‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ คือโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เป็นนโยบายเศรษฐกิจระยะเร่งด่วนที่สำคัญ ถือเป็นนโยบายเรือธงของรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน ภายใต้การกำกับดูแลโดยกระทรวงการคลัง เป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยใช้หาเสียงเลือกตั้งในปี 2566

ภาพจาก กระทรวงการคลัง

สรุปความชัดเจนของโครงการนี้ล่าสุด จากการแถลงข่าวของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567

[ เกณฑ์ผู้ได้รับเงิน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ]

1. คนไทยอายุตั้งแต่ 16 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป ก่อนวันที่ 16 กันยายน 2561

2. ไม่เป็นผู้มีรายได้เกิน 840,000 บาทต่อปี (สำหรับปีภาษี 2566)

3. ไม่เป็นผู้ที่มีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมกันเกิน 500,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567

4. ไม่เป็นผู้ที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการ อื่นๆ ของรัฐ

5. ต้องไม่เป็นผู้ที่อยู่ระหว่างต้องโทษในเรือนจำ

คาดมีผู้เข้าร่วมโครงการ 45 ล้านคน ใช้งบประมาณ 450,000 ล้านบาท

[ แหล่งที่มาของเงินโครงการฯ 450,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ]

กลุ่มที่ 1 จำนวน 165,000 ล้านบาท

– งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

– การบริหารการคลัง และการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

กลุ่มที่ 2 จำนวน 285,000 ล้านบาท

– งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

– การบริหารการคลังและการบริหารจัดการงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

ภาพจาก กระทรวงการคลัง

[ การลงทะเบียนรับเงิน ] 

– กลุ่มที่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ลงทะเบียน วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567

– กลุ่มที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนวันที่ 15 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 *จะมีการแถลงรายละเอียดการลงทะเบียนกลุ่มนี้อีกครั้ง

– ลงทะเบียนร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567

– เริ่มใช้จ่ายเงิน ปลายปี 2567 *ยังไม่ระบุวันที่

– รับเงินผ่านแอปฯ ‘ทางรัฐ’ เท่านั้น ไม่มีการส่งลิงก์เชื้อเชิญใดๆ

[ ขั้นตอนสมัครใช้งานแอปฯ ‘ทางรัฐ’ ]

1. ดาวน์โหลดแอปฯ ‘ทางรัฐ’ ได้ทั้ง iOS และ Android

2. เปิดแอปฯ ทางรัฐ กดปุ่ม “สมัครสมาชิก/เข้าสู่ระบบ”

3. กดที่คำว่า “สมัครสมาชิก”

4. กดปุ่ม “สมัครด้วยบัตรประชาชน” บนแอปฯ ทางรัฐที่เดียว

5. อ่านข้อกำหนดและความเป็นส่วนตัว จากนั้นคลิกเครื่องหมายถูกต้องที่ “ฉันยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข” แล้วกด “ยอมรับ”

6. อ่านข้อแนะนำในการถ่ายรูปบัตรประชาชน จากนั้น กดปุ่มเพื่อถ่ายรูป

7. กรอกข้อมูลและตรวจสอบให้ถูกต้องตามบัตรประชาชน แล้วกดปุ่ม “ยืนยันตัวตน”

8. อ่านข้อแนะนำการสแกนใบหน้า จากนั้นเริ่ม สแกนใบหน้า

9. กำหนด “ชื่อบัญชีและรหัสผ่าน” ในการเข้าสู่แอปฯ แล้วกด “ยืนยัน”

10. ตั้งค่า PIN code 6 หลัก แล้วกดยืนยัน Pin code อีกครั้ง

11. เปิดใช้งานการสแกนใบหน้าโดยกดที่ “ใช้งาน”

12. จากนั้นกด “เริ่มใช้งาน” และรอวันที่ 1 สิงหาคมเพื่อเข้าสู่การลงทะเบียนรับสิทธิโครงการฯ ดิจิทัลวอลเล็ตอีกครั้ง

ในกรณีที่สแกนใบหน้าไม่ผ่าน สามารถสร้างบัญชีและเข้าใช้งานแอปฯ ทางรัฐได้ก่อน แล้วค่อยทำการสแกนใบหน้าภายหลัง โดยกดปุ่ม “สร้างบัญชี”

[ ชมคลิป ขั้นตอนการสมัคร เข้าใช้แอปฯ ‘ทางรัฐ’ ] 

[ สินค้า 18 ประเภทนี้ ใช้ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ซื้อไม่ได้ ]

1. สลากกินแบ่งรัฐบาล

2. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3. ยาสูบ

4. กัญชา

5. กระท่อม

6. พืชกระท่อม

7. ผลิตภัณฑ์จากกัญชา และกระท่อม

8. บัตรกำนัล

9. บัตรเงินสด

10. ทองคำ

11. เพชร

12. พลอย

13. อัญมณี

14. น้ำมันเชื้อเพลิง

15. ก๊าซธรรมชาติ

16. เครื่องใช้ไฟฟ้า

17. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

18. เครื่องมือสื่อสาร

[ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ใช้ซื้อสินค้าต่อไปนี้ได้เท่านั้น ]

– สินค้าอุปโภคบริโภค เป็นสินค้าที่ถูกซื้อเพื่อนำไปสนองความต้องการของตนเองหรือบุคคลในครอบครัว เช่น ข้าวสาร อาหารแห้ง อาหารสด เครื่องดื่ม (ไม่มีแอลกอฮอล์) เสื้อผ้า เครื่องสำอาง ยารักษาโรค

– ของใช้ภายในบ้าน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก กะปิ น้ำปลา ซอสปรุงรส

– สินค้าเพื่อการศึกษา เช่น เครื่องแบบนักเรียน เครื่องเขียน สมุด ปากกา ดินสอ เป็นต้น

– วัตถุดิบเพื่อการเกษตร เช่น ปุ๋ย ยาปราบศัตรูพืช เมล็ดพันธุ์พืช เป็นต้น

– สินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ผักสด ผลไม้ อาหารสด เครื่องจักสาน

– ธูปเทียนและเครื่องสักการะ ชุดถวายสังฆทาน เป็นต้น