บ้านมือสองพุ่ง ประกาศขาย 1.6 แสนหน่วย กลุ่มไม่เกิน 3 ล้านนำโด่ง

บ้านมือสองประกาศขายพุ่ง 1.6 แสนหน่วย โดยเฉพาะกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ซื้อขายคึกคัก

ผลการสำรวจข้อมูลที่อยู่อาศัยมือสอง ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2565 โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานว่า ที่อยู่อาศัยมือสองประกาศขายเพิ่มขึ้น 13.4% โดยเฉพาะกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมและทาวน์เฮ้าส์

จำนวนประกาศขายที่อยู่อาศัยมือสองที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท พบว่าจำนวนการโอนเพิ่มขึ้น ในช่วง 11 เดือนของปี 2565 โดยกลุ่มที่ถูกประกาศขายมากที่สุดจะเป็นกลุ่มราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.8% รองลงมาคือกลุ่มราคา 1 – 1.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% และราคา 2 – 3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3%

ส่วนทางด้านผู้ซื้อก็ให้การตอบรับบ้านหรือคอนโดมือสอง ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทมากขึ้นเช่นเดียวกัน เห็นได้จากจำนวนโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมือสองที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยระดับราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ขยายตัว 24.9% กลุ่มราคา 1 – 1.5 ล้านบาท ขยายตัว 24.7% ราคา 1.51 – 2 ล้านบาท ขยายตัว 19.4% และกลุ่มราคา 2 – 3 ล้านบาท ขยายตัว 36.2% จากนโยบายลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองจากภาครัฐ ที่ลดเหลือ 0.01% ได้ขยายครอบคลุมตลาดบ้านมือสองราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จากเดิมที่ประกาศใช้กับเฉพาะบ้านมือหนึ่งเท่านั้น

มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง มีส่วนทำให้ตลาดบ้านมือสองกลุ่มไม่เกิน 3 ล้านบาทเข้าสู่ตลาดมากขึ้นและได้รับการตอบรับจากผู้ซื้ออย่างต่อเนื่อง ช่วงสิ้นปี 2565 จำนวนที่อยู่อาศัยมือสองทั้งหมดประกาศขายอยู่ที่ 162,787 หน่วย รวมมูลค่า 860,415 ล้านบาท หากเปรียบเทียบกับไตรมาส 4 ของปีก่อนพบว่าการประกาศขายที่อยู่อาศัยมือสองมีจำนวนหน่วยที่เพิ่มขึ้นถึง 13.4% แต่มูลค่ากลับลดลงร้อยละ -4.7

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาค่าเฉลี่ยต่อไตรมาสในปี 2565 ที่มีจำนวน 162,320 หน่วย และมูลค่า 961,757 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ปี 2564 ถึง 52.6% และ 31.7% ตามลำดับ หากดูเฉพาะจำนวนประกาศขายพบว่า เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่มูลค่ากลับลดลง 7.2%

ในภาพรวม ประเภทที่อยู่อาศัยมือสองที่มีจำนวนและมูลค่าประกาศขายมากที่สุด คือบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม ตามลำดับ

• บ้านเดี่ยว จำนวน 67,907 หน่วย (สัดส่วน 41.7%) มูลค่า 461,011 ล้านบาท (สัดส่วน 53.6%)
• ทาวเฮ้าส์ จำนวน 44,722 หน่วย (สัดส่วน 27.5 %) มูลค่า 109,616 ล้านบาท (สัดส่วน 12.7%)
• ห้องชุด จำนวน 44,016 หน่วย (สัดส่วน 27.0%) มูลค่า 257,896 ล้านบาท (สัดส่วน 30.0%)ส่วนอาคารพาณิชย์และบ้านแฝด พบประกาศขายน้อยที่สุด

ส่วนอาคารพาณิชย์และบ้านแฝด พบประกาศขายน้อยที่สุด

ส่วนพื้นที่ที่มีการประกาศขายบ้านมือสองและมีการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด เรียงตามลำดับ 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี ภูเก็ต ปทุมธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมาและสุราษฎร์ธานี ที่น่าสนใจคือกรุงเทพมหานคร มีบ้านมือสองประกาศขายมากถึง 55,852 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 34.3% มูลค่า 518,480 ล้านบาท สูงที่สุดในประเทศ

ขณะที่จังหวัดอันดับที่ 2 – 10 มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าของแต่ละจังหวัดอยู่ระหว่าง 0.8 – 6.8% ไม่ถึงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับมูลค่าและจำนวนหน่วยทั่วประเทศ แต่ 10 จังหวัดนี้ แต่มีสัดส่วนจำนวนหน่วยเป็น 67.6% และสัดส่วนของมูลค่ารวมกันมากถึง 87.3% ส่วนจังหวัดที่เหลืออีก 67 จังหวัด มีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกัน 32.4% และมีสัดส่วนมูลค่ารวมกันเพียง 12.7% เท่านั้น