มีงานวิจัยจาก Adalytics บริษัทวิเคราะห์และวิจัยข้อมูล เกี่ยวกับธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของ Google เผยว่า โฆษณา YouTube ถึง 80% ละเมิดมาตรฐานคุณภาพที่ตัวเองตั้งเอาไว้ และอาจไม่เป็นธรรมต่อผู้ซื้อโฆษณา 

ถือเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ และชวนให้ตั้งคำถามถึงความโปร่งใสของธุรกิจโฆษณาออนไลน์ ที่มี Google ครอบครองส่วนแบ่งมากที่สุดในโลกตอนนี้

ก่อนเข้าเนื้อหาวิจัย มาทำความรู้จัก รูปแบบโฆษณาบน YouTube กันก่อน

โฆษณาบน YouTube มีหลายแบบ เช่น Mastheads แบนเนอร์บน YouTube ที่ปรากฏบนหน้าแรกหรือ Homepage ของเว็บไซต์เลย และแบนเนอร์ล่างคลิป ยังมีโฆษณาอีกแบบของ YouTube คือ Trueview ที่จะเริ่มคิดเงินก็ต่อเมื่อมีการกดเล่นคลิปโฆษณา โดยไม่กดข้าม อย่างเช่น คลิปโฆษณาก่อนเริ่มคลิป กลางคลิป ซึ่งคนที่ไม่ได้ใช้ YouTube Premium จะคุ้นเคยกันดี

Trueview ยังมีแสดงโฆษณานอก YouTube ด้วย เช่น ในเว็บไซต์อื่นและแอปพลิเคชั่นอื่นที่เป็นพาร์ทเนอร์หรือ third party ของ Google ซึ่ง Google วางนโยบายไว้ว่าจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ โดยผู้ลงโฆษณาหรือลูกค้า จะจ่ายเงินก็ต่อเมื่อมีการกดเล่นคลิปโฆษณา 30 วินาที โดยไม่กดข้าม หรือจ่ายเงินเมื่อมีการดูโฆษณาจริงเท่านั้น ส่วนโฆษณาของลูกค้านั้น ต้องเป็นคลิปวิดีโอที่กดข้ามได้ มีเสียงฟังได้ 

วิจัยพบ YouTube ละเมิดมาตรฐานตัวเองในการลงโฆษณาลูกค้า

สิ่งที่ Adalytics เจอจากการตามดูคลิปโฆษณากว่า 1,000 แบรนด์ ยอด impression กว่าพันล้านครั้ง ตั้งแต่ช่วง 2020-2023 คือโฆษณาประเภท TrueView skippable in-stream ads ประสบการณ์ของผู้บริโภคไม่เป็นไปตามนั้น และไม่ตรงตามมาตรฐานคุณภาพที่ระบุไว้ของ Google

ยกตัวอย่างเช่น วิดีโอโฆษณาหลายตัว แสดงแบบ muted หรือปิดเสียงไว้เป็นค่าเริ่มต้น หรือมีวิดีโอโฆษณาแบรนด์อื่นมาบัง และแสดงเป็นป๊อบอัพเล็กมาก ไปจนถึงแสดงคลิปเป็นป๊อบอัพหลายๆ แบรนด์ในหน้าเว็บไซต์ และมีหลายเว็บไซต์ที่เป็นเว็บไร้คุณภาพ คลิกเบท และเว็บไซต์ขโมลผลงานละเมิดลิขสิทธิ์

 Adalytics ยังกางตัวเลขให้เห็นว่า งบประมาณโฆษณาวิดีโอ TrueView แบบกดข้ามได้ประมาณ 16% เท่านั้นที่ใช้ไปกับ YouTube.com หรือแอปของ YouTube (ซึ่งมักไม่มีปัญหาเรื่องประสบการณ์ใช้งาน) แต่งบประมาณส่วนใหญ่ถูกใช้ไปกับเว็บไซต์หรือแอปหลายหมื่นรายการ ซึ่งประกอบกันเป็นเครือข่าย Google Video Partner (GVP) 

และสิ่งที่ Adalytics ค้นพบคือ ads ที่ไปวางตามเว็บไซต์อื่นละเมิดมาตรฐาน YouTube เสียเอง อย่างที่ได้เล่าไป ลูกค้าจ่ายเงินแพงเกินความจำเป็น โดยที่ประสบการณ์ผู้ใช้งาน ในการรับชมโฆษณานั้นไม่ดี ซึ่งกระทบภาพลักษณ์แบรนด์โฆษณาเองด้วย

ซึ่ง Adalytics คนลงโฆษณามีหลายระดับ ตั้งแต่บริษัทเล็ก และใหญ่ใน Fortune 500 ไปจนถึงเอเจนซี่

Google โต้กลับงานวิจัยไม่เป็นความจริง ไม่น่าเชื่อถือ 

ทันทีที่งานวิจัยนี้เป็นข่าวขึ้นมา Google ก็ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า งานวิจัยดังกล่าว ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างและพร็อกซีที่ไม่น่าเชื่อถือ อ้างสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับเครือข่ายพันธมิตรวิดีโอของ Google (GVP)

Google ยังยืนยันว่า ads ของ YouTube ส่วนใหญ่อยู่ใน YouTube มากกว่าเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งตรงข้ามกับที่งานวิจัยกล่าวอ้าง ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกได้ว่าจะลงผ่าน GVP ถ้ามันทำให้เข้าถึงผู้ชมเพิ่มเติม แต่ Google ก็ยังยืนยันว่ามีปริมาณน้อย

Google บอกด้วยว่าที่ผ่านมา บริษัทรายงานลูกค้าเสมอว่าโฆษณาไปปรากฏที่ไหนบ้าง ได้ผลเท่าไร และเลือกได้ว่าอยากให้โฆษณาตัวเองโผล่บนเว็บไซต์ไหน นอกจากนี้ Google ยังมีมาตรฐานสูงที่บังคับใช้กับ YouTube และบังคับใช้กับผู้เผยแพร่ที่เป็นบุคคลที่สามทั้งหมด รวมถึงพันธมิตรวิดีโอของ Google ที่จะต้องปฏิบัติตามด้วย โดยในปี 2022 Google หยุดแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์มากกว่า 143,000 แห่งเนื่องจากละเมิดนโยบาย

ที่มา : Adalytics, NY Post, Google