SHARE

คัดลอกแล้ว

สมาคมภัตตาคารไทย เรียกร้องนายกรัฐมนตรี ขอให้ทบทวนคำสั่งห้ามนั่งทานในร้าน 14 วัน เหลือเพียง 6 วัน หวั่นสร้างผลกระทบ เสี่ยงต่อการต้องปิดกิจการ ขอวันที่ 7 พ.ค. 2564 อนุญาตให้ลูกค้ากลับมานั่งทานในร้านได้ พร้อมจัดมาตรฐานความปลอดภัยเข้มงวด

วันที่ 2 พ.ค. 2564 สมาคมภัตตาคารไทย ได้เสนอ 2 ข้อเรียกร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร ได้รับผลกระทบจากมาตรการของ ศบค.จำนวนมาก เนื่องจาก คำสั่งของ ศบค. ในวันที่ 29 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดให้ร้านอาหารในพื้นที่ 6 จังหวัด ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ห้ามมีการให้บริการนั่งรับประทานอาหารในร้านเป็นเวลา 14 วัน นั้น

ทางสมาคมภัตตาคารไทย ในฐานะผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร ได้รับข้อร้องเรียน ปรับทุกข์ จากผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก เนื่องด้วยมาตรการดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการร้านอาหารอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของการระบาดโรคโควิด-19 และจากมาตรการควบคุมใน 2 ระยะการระบาดที่ผ่านมา ทำให้มีร้านจำนวนไม่น้อย ต้องยอมเลิกกิจการพร้อมกับหนี้สิน และอีกจำนวนมากกำลังเข้าสู่จุดวิกฤติ ของกิจการสุ่มเสี่ยงต่อการต้องปิดกิจการจากมาตรการครั้งนี้ หากปล่อยให้เป็นเช่นนั้น จะสร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบเศรษฐกิจประเทศตามมา ซึ่งมูลค่าความเสียหายของธุรกิจร้านอาหารโดยประมาณการจากคำสั่งล่าสุดนี้ อยู่ที่ 1,400 ล้านบาทต่อวัน อีกทั้งธุรกิจร้านอาหารมีห่วงโซ่เชื่อมโยงต่อธุรกิจอื่นๆ มากมาย โดยเฉพาะภาคการเกษตรอันจะสร้างผลกระทบเป็นลูกโซ่ตามมาได้ จึงมีข้อเรียกร้องเพื่อขอให้มีการพิจารณา 2 ข้อ ดังต่อไปนี้

1.อนุญาตให้ร้านอาหารสามารถนั่งรับประทาน ในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. และงดนั่งดื่มแอลกอฮอล์ ขอให้พิจารณาอนุญาต ในวันที่ 7 พ.ค. 2564 ทั้งนี้ในช่วงการระบาดของโรคโควิด -19 ที่ผ่านมา ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขจัดทำมาตรฐาน SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) ขึ้นมา เป็นมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ของสมัชชาการท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council หรือ WTTC) มีร้านอาหารกว่า 2,000 ร้านได้รับมาตรฐานนี้ ใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อทำมาตรฐานสาธารณสุขทุกข้อ แสดงออกถึงการให้ความร่วมมือกับศบค.ด้วยดีตลอดมา

ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่า มีมาตรฐานป้องกันการติดเชื้อ มีความปลอดภัย สามารถเปิดให้บริการให้นั่งรับประทานได้ ในช่วงที่เปิดหน้ากากรับประทานอาหาร สามารถเว้นระยะของโต๊ะ การเว้นให้ลูกค้าในโต๊ะนั่งห่างกัน มีฉากพลาสติกกั้น และการจำกัดจำนวนลูกค้าเทียบกับพื้นที่ สำหรับร้านอาหารที่ยังไม่ได้ตราสัญลักษณ์SHA ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีในการเชิญชวนให้เข้าร่วมมาตรฐาน SHA เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ

ส่วนอาหารที่เป็นอาหารจานเดียวริมทางหรือร้านเล็กๆ ที่เป็นตึกแถว ขอให้พิจารณาอนุญาตกลับมาให้นั่งทานในร้านได้เช่นกันในวันที่ 7 พ.ค. 2564 โดยมีข้อกำหนดบังคับให้ร้านอาหารประเภทดังกล่าว ต้องลดที่ลงอย่างน้อย 50% ของที่นั่งเดิม ต้องมีการเว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 1 เมตร ไม่อนุญาตให้ลูกค้าที่ไม่ได้มาด้วยกันนั่งรวมโต๊ะเดียวกันเด็ดขาด ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของสาธารณสุขก่อนเข้าร้านอย่างเคร่งครัด หากตรวจพบว่าไม่ปฏิบัติตาม มีสิทธิ์ที่ใช้อำนาจในการตักเตือนแก้ไขทันทีในครั้งที่ 1 หากยังไม่สามารถปฏิบัติตามได้อีก สามารถใช้อำนาจในการสั่งปิดต่ออีก 7 วัน ตามคำสั่งของ ศบค. ได้ทันที

ส่วน ร้านอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู บุฟเฟ่ต์ ไม่อนุญาตในนั่งโต๊ะเดียวกันเกิน 4 คน และต้องเว้นระยะห่างโต๊ะไม่ต่ำกว่า 2 เมตร หรือ 1 เมตร แต่มีฉากกั้น รวมทั้งไม่อนุญาตให้ตักอาหารบุฟเฟ่ต์เอง หากไม่มีมาตรการดูแลป้องกันอย่างถูกวิธี เช่น ลูกค้าต้องใส่แมสปิดปากปิดจมูกทุกครั้งที่ไปรับอาหารหรือตักอาหาร และร้านต้องให้ลูกค้าใส่ถุงมือพลาสติกส่วนตัวด้วยทุกครั้ง รวมทั้งจำกัดจำนวนคนในการเดินตักอาหารให้เหมาะสมด้วย

ข้อเรียกร้องที่ 2 ประกอบด้วย มาตรการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการร้านอาหาร ขอให้ท่านนายกรัฐมนตรีได้กรุณาพิจารณาเยียวยา ค่าจ้าง เงินเดือนพนักงาน 50% งดการจัดเก็บภาษีในรอบระยะเวลาบัญชี 1 ปีที่ผ่านมา ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผ่อนผันการชำระดอกเบี้ย เป็นเวลา 6 เดือน และพักการชำระเงินต้นเป็นเวลา 1 ปี อีกทั้งขอความกรุณารัฐบาลโดย ศบค.ประสานเจ้าของห้างสรรพสินค้าลดค่าเช่าอย่างน้อย 50% โดยเจ้าของพื้นที่ที่ให้ส่วนลดสามารถนำไปลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลในรอบบัญชีถัดไป ซึ่งเป็นการช่วยประคับประคองร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบมาตลอดทั้งปี

ทางสมาคมภัตตาคารไทยในฐานะผู้แทนผู้ประกอบการธุรกิจภัตตาคาร และร้านอาหาร ทราบดีมาตลอดถึงความห่วงใยของท่านนายกรัฐมนตรี ที่มีมายังผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร และเราเองตระหนักในความสำคัญของการมีส่วนร่วมแก้ไขวิกฤตการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทางสมาคมภัตตาคารไทยในฐานะผู้แทนผู้ประกอบการธุรกิจภัตตาคาร และร้านอาหาร ทราบดีมาตลอดถึงความห่วงใยของท่านนายกรัฐมนตรี ที่มีมายังผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหาร และเราเองตระหนักในความสำคัญของการมีส่วนร่วมแก้ไขวิกฤตการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19

จึงให้ความร่วมมือด้วยดีตลอดมา แม้จะต้องแบกรับความเสียหายทางธุรกิจไว้โดยลำพังก็ตาม จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกรัฐมนตรี จะพิจารณาผ่อนปรนมาตรการในส่วนของร้านอาหาร และพิจารณามาตรการช่วยเหลือต่างๆ ตามข้อเสนอดังกล่าวนี้

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า