รายย่อยเทรดคริปโตน้อยลง ยอดบัญชีเคลื่อนไหวร่วงต่ำสุดในรอบ 17 เดือน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยภาพรวมตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล โดยพบว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั่วโลกมีมาร์เก็ตแคปที่ 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 37 ล้านล้านบาท)

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายล่าสุด อยู่ที่ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน (ราว 3.7 ล้านล้านบาท) ซึ่งสัดส่วนกว่า 39% มาจากการซื้อขายบิตคอยน์ (BTC)

ที่น่าสนใจ คือ มูลค่าการซื้อขายในเดือน ส.ค. 2565 ที่ 6.6 หมื่นล้านบาท ถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของนักลงทุนรายย่อยในประเทศเป็นหลัก แถมเป็นการลดลงต่อเนื่องอีกด้วย

แต่ส่วนที่เพิ่มเข้ามา คือ มูลค่าการซื้อขายของนักลงทุนนิติบุคคลในประเทศ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา

ถึงอย่างนั้น นักลงทุนนิติบุคคลต่างประเทศ ยังเป็นผู้ซื้อสุทธิหลักตั้งแต่เดือน มี.ค. เป็นต้นมา ส่วนกลุ่มที่ขายสุทธิหลักในเดือนที่ผ่านมา คือ กลุ่มบุคคลธรรมดา หรือนักลงทุนรายย่อยนั่นเอง

มูลค่าการซื้อขายที่ลดลง สอดคล้องยอดบัญชี Active ที่ลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะบัญชีของนักลงทุนรายย่อยที่ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2564 หรือต่ำสุดในรอบ 17 เดือน ซึ่ง ก.ล.ต.สังเกตว่า ยอดบัญชี Active ที่ลดลง เป็นไปตามทิศทางราคาบิตคอยน์ (BTC) ที่ลดลง

และถึงแม้จำนวนบัญชีซื้อขายทั้งหมดในแต่ละเดือนจะยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่จำนวนบัญชีที่เปิดใหม่ เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (มิ.ย. – ส.ค.)

เมื่อดูผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมในไทย พบว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ยังคงติดลบ ไม่ว่าจะเป็น อีเธอเรียม (ETH) ติดลบ 53.93% BTC ติดลบ 54.97% ริพเพิล (XRP) ติดลบ 58.11% และคับ (KUB) ติดลบ 87.31%