วันที่ 15 ม.ค.63 สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 ม.ค.63) ทางการฟิลิปปินส์ได้ประกาศให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับบริเวณภูเขาไฟตาอัล ทางใต้ของเกาะลูซอน รัศมี 14 กิโลเมตร อย่างน้อย 20,000 คน อพยพไปอาศัยอยู่ตามศูนย์พักพิงต่างๆ เป็นการชั่วคราวโดยด่วน หลังภูเขาไฟลูกดังกล่าวเกิดปะทุอย่างรุนแรง พ่นกลุ่มควันและเถ้าถ่านจากปากปล่องสูงขึ้นไปในอากาศ 10-15 กิโลเมตร
แต่ทว่ามีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งยังมีความกังวลต่อความปลอดภัยของม้า ที่พวกเขาเลี้ยงไว้เพื่อคอยบริการนักท่องเที่ยว ในการขี่ม้าเที่ยวชมรอบภูเขาไฟตาอัล ด้านนาย Alfredo Daet หนึ่งในผู้ประกอบกิจการม้านำเที่ยวเผยว่า “ชีวิตของพวกเราขึ้นอยู่กับม้า มันเป็นอาชีพของพวกเรา ที่สำคัญคือเรารักม้าของเรา นั่นคือสาเหตุที่เราต้องการช่วยพวกมัน” ซึ่งแม้ว่าทางการจะประกาศเตือนห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าใกล้เขตภูเขาไฟตาอัล แต่ก็ไม่สามารถหยุดเหล่าผู้ประกอบกิจการม้านำเที่ยวเหล่านี้ในการเข้าไปช่วยม้าของพวกเขาออกมาได้
ปัจจุบันมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่มีรายได้หลักจากธุรกิจม้านำเที่ยว พวกเขาสามารถสร้างรายได้จากม้านำเที่ยวได้รอบละ 7 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 211 บาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่ดีกว่าอีกแรงงานชาวฟิลิปปินส์อีกหลายคนล้านที่มีรายได้เฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 2 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 60 บาทเท่านั้น ด้านนาย Pejay Magpantay หนึ่งในผู้ประกอบกิจการม้านำเที่ยวกล่าวกับสื่อ หลังจากที่เขาสามารถช่วยม้าของเขาจำนวน 14 ตัว ออกมาได้อย่างปลอดภัยว่า “ถ้าเราปล่อยให้ม้าตายบนเกาะแห่งนี้ เราจะเป็นคนที่สูญเสียทุกอย่างในที่สุด”