Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่านในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสร้างความกังวลต่อประชาชนชาวไทยในวงกว้าง มีการตั้งคำถามว่าจะกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนโดยทั่วไปหรือไม่

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์ สัมภาษณ์ รศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช คณะบดีคณะเศรษฐศาสตร์และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้า ว่าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจริง ๆ ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างน้อย 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการส่งออกข้าว ราคาน้ำมัน และการส่งออกโดยรวมอันเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่อาจไม่เติบโตเท่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก

1.อาจส่งออกข้าวได้น้อยลง

การส่งออกข้าว ปกติแล้วอิหร่านไม่ใช่ตลาดค้าข้าวหลักของไทย แต่ส่วนที่เป็นความท้าทายคือตลาดในประเทศตะวันออกกลางอื่น ๆ ซึ่งหากเหตุการณ์ในอิหร่านพัฒนาความรุนแรงขึ้น จะส่งผลกระทบถึงรายได้ของกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่มาจากทั้งน้ำมันและการท่องเที่ยว หากมีกำลังซื้อลดลงการซื้อข้าวจากประเทศไทยก็น่าจะลดลง

ปัจจุบันประเทศในตะวันออกกลางที่ไทยส่งออกข้าวหลัก ๆ คือประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต และกาตาร์

“อันนี้ผมว่าเป็นโจทย์ใหญ่เลย ถ้าเกิดว่าเหตุการณ์อิหร่านกับสหรัฐฯถูกพัฒนาไปถึงขั้นรุนแรงยิงกันนี่ มันจะทำให้กำลังซื้อภายใต้สถานการณ์ว่ากลุ่มประเทศตะวันออกกลางขายน้ำมันออกมาไม่ได้ก็ทำให้รายได้เขาลดลง รายได้ของประเทศตะวันออกกลางลดลง พอลดลงเขาก็ไม่มีกำลังซื้อ ข้าวไทยใน UAE หรือสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ข้าวไทยในกาตาร์”

ทีมข่าวเวิร์คพอยท์สืบค้นการส่งออกข้าวไทยไปยังตะวันออกกลางของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ พบว่าตัวเลขมูลค่าการส่งออกของปี 2562 อยู่ที่  7,026.1 ล้านบาท

“ในสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กินข้าวขาวเพื่อจะขายให้กับคนอาเซียนที่เข้าไปทำงาน คนแอฟริกาที่เข้าไปทำงานในนั้น เพราะฉะนั้นถ้าเศรษฐกิจของ สาธารณรัฐ อาหรับ เอมิเรต ไม่ดี ซาอุดิอาระเบียไม่ดี คูเวตไม่ดี ข้าวซึ่งเป็นข้าวขาวน่าจะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อของต่างประเทศในตะวันออกกลางที่ลดลง” รศ.ดร.อัทธ์อธิบาย

ส่วนการที่กลุ่มประเทศตะวันออกกลางซื้อข้าวได้น้อยลงจะกระทบต่อราคาข้าวหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการผลิตข้าวของอินเดียและเวียดนามด้วย หากทั้งสองประเทศผลิตข้าวออกมาได้ในปริมาณมากในช่วงที่ตลาดส่วนนี้หดตัวพอดีราคาข้าวในต่างประเทศก็อาจจะตกลงได้

“ถ้าเขามีข้าวออกมาเยอะ ออกมาสู่ต่างประเทศเยอะ ราคาข้าวก็ลดลง แล้วถ้าเขามีของออกมาเยอะ ยิ่งกำลังซื้อในตะวันออกกลางหดลง ราคาข้าวก็จะลดลง แต่ในขณะเดียวกันถ้าเขาชายข้าวออกไปน้อย กำลังซื้อก็หดไปด้วย ข้าวอาจจะไม่ตกมาก เพราะว่าปริมาณขายก็ออกน้อยอยู่แล้ว กำลังซื้อก็ไม่ได้มาก ก็อาจจะไม่ตกมาก แต่ถ้าออกมาเยอะด้วย ของออกไปขายในตลาดเยอะด้วยแล้วยิ่งคนไม่ซื้ออีก นี่ราคาข้าวอาจจะตกในตลาดต่างประเทศ”

2. ราคาน้ำมันอาจแพงขึ้น

ราคาน้ำมันปัจจุบันขึ้นมาแล้วเป็น 68 เหรียญสหรัฐ (ต่อบาร์เรล) กระทบราคาน้ำมันของประเทศไทยขึ้นไปแล้ว หากเหตุการณ์พัฒนาความรุนแรงขึ้นไปอีกก็อาจพัฒนาขึ้นไปเรื่อย ๆ เป็น 80 เหรียญสหรัฐฯ (ต่อบาร์เรล) ได้ จะกระทบสองส่วนด้วยกัน โดยส่วนแรกคือตัวผู้บริโภคและส่วนที่สองคือ SME

“เดิมเรามีเงินร้อยบาท เราจ่ายน้ำมัน สมมติ 30 บาท เมื่อราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเราก็จ่ายน้ำมันเป็น 40 บาท เราเพิ่มขึ้นไปอีก 10 บาท 10 บาทแทนที่เราจะไปกินไปใช้ ซื้อของจาก SME ก็ซื้อได้ลดลงนะ เพราะฉะนั้นเราก็ซื้อของ SME ได้ลดลง SME ก็ขายของให้เราไม่ได้เพราะคนซื้อลดลง”

นอกจากขายของได้ฝืดเคือง SME ยังจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการขนส่งที่จะขึ้นตามราคาน้ำมันด้วย และยังนำไปสู่การกระทบการส่งออก

“SME นอกจากจะขายของตัวเองแล้วเป็นหนึ่งข้อต่อของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยกันที่จะต้องขายวัตถุดิบ ขายสินค้ให้กับอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ เพื่อที่จะไปต่อส่งออกไปข้างหน้า ก็กระทบเป็นสองโซ่ สองส่วนก็คือราคาน้ำมันอย่างที่ว่า สองคือการส่งออก”

3.เศรษฐกิจโลกอาจโตต่ำกว่าคาด

ข้อสุดท้ายหากมีความรุนแรงยกระดับขึ้นเศรษฐกิจโลกก็จะไม่ฟื้นอย่างที่คาดหวังไว้ และจะส่งผลกับการส่งออก

“แต่พอมาเจอเหตุการณ์ที่เป็นอิหร่านกับสหรัฐอเมริกา ผมเรียกว่า(เศรษฐกิจโลก)มันอาจจะไม่ขึ้นมาแล้ว ก็ขึ้นเหมือนกัน แต่ว่าอาจจะไม่มากหรือสูงอย่างที่เราคาดหวัง เศรษฐกิจโลก ถ้าเรามองสถานการณ์วันนี้ ถ้ามันไม่คลี่คลายนะ ผมว่ามันก็เพิ่มขึ้นนะเพียงแต่ว่าเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่เราคาดการณ์เอาไว้ เดิม IMF บอกว่า 3%ปีที่แล้ว 3.4% ปีนี้ ผมว่ามันอาจจะเป็น 3.1-3.2 มันก็ไม่ถึง 3.4%”

“การที่เศรษฐกิจโลกดีขึ้นก็คือคนมีรายได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจประเทศต่าง ๆ ดีขึ้น ก็น่าจะกินจะใช้มากขึ้น”

รศ.ดร.อัทธ์อธิบายว่าดังนั้นแล้ว การที่เศรษฐกิจโลกโตมากน้อยเพียงใดจึงส่งผลต่อราคาสินค้าที่ไทยต้องส่งออกด้วย เช่น ราคาสินค้าเกษตรฯ หากเศรษฐกิจโลกโตขึ้นราคาสินค้าเกษตรอย่าง ข้าว ยางพาราก็จะขยับขึ้น แต่เมื่อเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวน้อยลงก็หมายความว่าราคาสินค้าก็อาจ “ผงกหัว” น้อยลงด้วย

“ขณะเดียวกันก็ต้องไปดูว่าแล้วสินค้าเกษตรของประเทศต่าง ๆ จะออกมาเยอะไหม เขา(เวียดนาม-อินเดีย)มีในหน้าตักแค่ไหนด้วย”

อย่างไรก็ดี ทั้งสามข้อที่กล่าวมาคือกรณีที่มีความขัดแย้งรุนแรงระหว่างสหรัฐฯและอิหร่านเกิดขึ้น ส่วนผลกระทบจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยเพียงใด รศ.ดร.อัทธ์ชี้ว่าจะแปรผันตามสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากนี้ว่ามีความรุนแรงเพียงใด

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า