ยังไม่มีหน่วยงานใดแสดงตัว หลังชาวบ้านยโสธร ร้องพบ ถนน-เสาไฟโซลาร์เซลล์ โผล่กลางทุ่งนาและเป็นทางตัน

พบถนนลาดยาง ติดเสาไฟโซลาร์เซลล์ โผล่กลางทุ่งนา จ.ยโสธร  ชาวบ้านระบุไม่เกิดประโยชน์ เป็นทางตัน–แสงไฟกระทบข้าวออกรวง  ยังไม่มีหน่วยงานไหนรับเป็นเจ้าของ

วันที่ 28 พ.ย. 2564 จากกรณีชาวบ้าน ต.ฟ้าหยาด อ. มหาชนะชัย จ.ยโสธร ร้องเรียนการก่อสร้างถนนลาดยางพร้อมระบบไฟส่องสว่างโซลาร์เซลล์ และไปสิ้นสุดบริเวณทุ่งนา ทำให้นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดยโสธร พร้อมด้วยชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดยโสธร ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อวานที่ผ่านมา (28 พ.ย.)

นายอดุลย์  กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนลาดยาง ผิวถนนกว้างประมาณ 5 เมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 1,700 เมตร มีระบบไฟส่องสว่างข้างทางโซลาร์เซลล์ตลอดแนวจำนวนกว่า 30 ต้นก่อสร้างตามแนวเลียบคลองส่งน้ำซึ่งอยู่กลางทุ่งนาไม่ได้เชื่อมต่อกับหมู่บ้านและยังเป็นทางตันไปต่อไม่ได้เนื่องจากเป็นพื้นที่นาข้าวของชาวบ้าน ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานใดที่เข้าไปดำเนินการก่อสร้าง แต่พบว่ามีป้ายประกาศของผู้อำนวยการทางหลวงชนบทติดตั้งอยู่  

ขณะที่ตัวแทนจากแขวงทางหลวงชนบทจังหวัดยโสธร ยืนยันว่า ถนนเส้นดังกล่าวทางหลวงชนบทไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างเนื่องจากไม่ได้เป็นพื้นที่รับผิดชอบของแขวงทางหลวงชนบท และโครงการฯ ของแขวงทางหลวงชนบทจะไม่มีระบบไฟส่องสว่างข้างทางที่เป็นโซลาร์เซลล์ ส่วนที่มีป้ายประกาศผู้อำนวยการทางหลวงชนบทติดตั้งอยู่ตรวจสอบแล้วเป็นป้ายลอกเลียนแบบเพราะหากเป็นของทางหลวงชนบทจริง จะต้องมีตราประทับสัญลักษณ์อยู่ด้านหลังป้ายทุกแผ่น

ขณะที่ตัวแทนจากองค์การบริหารส่วนตำบลฟ้าหยาด เจ้าของพื้นที่ ก็ยืนยันว่า อบต.ฟ้าหยาด ไม่ได้ดำเนินการก่อสร้างและไม่ทราบว่าใครเป็นคนดำเนินการก่อสร้าง ในขณะที่ ป.ป.ช. ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังโครงการชลประทานจังหวัดยโสธรก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่ได้เป็นโครงการฯ ของชลประทาน เช่นกัน

ด้านนายทอง นาคไชยราช ชาวบ้านในพื้นที่ บอกว่า ถนนเส้นนี้ไม่เกิดประโยชน์กับชาวบ้านเลยและสิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินโดยเปล่าประโยชน์ ซ้ำยังเป็นแหล่งมั่วสุมของวัยรุ่นในช่วงกลางคืนมักจะนัดกันไปแข่งรถจักรยานยนต์อยู่เป็นประจำ

ล่าสุดแขวงทางหลวงชนบทยโสธร โพสต์เฟซบุ๊ก ยืนยันว่าถนนดังกล่าวมิใช่ถนนในโครงข่ายของแขวงทางหลวงชนบทยโสธร และได้ประสานสำนักงานชลประทานที่ 7 กรมชลประทานซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงข่ายถนนตามที่ปรากฏในข่าวให้ดำเนินการแก้ไข เพราะหากมิใช่ถนนของกรมทางหลวงชนบท ทางโครงการจะนำป้ายดังกล่าวไปติดตั้งมิได้ เพราะอาจจะสร้างความสับสนและสร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน