SHARE

คัดลอกแล้ว

ทุกวันนี้เวลาเข้าร้านอาหาร โดยเฉพาะพวกร้านเชนในห้าง ร้านสุกี้เจ้าดังๆ สิ่งที่เราเห็นมากขึ้นคือหลายร้านเอา ‘หุ่นยนต์’ มาใช้เสิร์ฟอาหารมากขึ้น

จนเอาจริงๆ บางร้าน ‘หุ่นยนต์’ ที่วิ่งไปมาส่งอาหารให้ลูกค้า กลายเป็น ‘พนักงาน’ คนหนึ่งไปแล้ว

ถามว่าทำไมร้านอาหารถึงนิยมใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟมากขึ้น แล้วต่อไปแรงงานกลุ่มพนักงานเสิร์ฟจะตกงาน แล้วถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือไม่

TODAY Bizview ชวนหาคำตอบเรื่องนี้ไปด้วยกัน

————

หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารใช้มานานแค่ไหน

ย้อนไปในปี 2014 ข่าวนึงที่เรียกเสียงฮือฮาคือข่าวที่ภัตตาคารแห่งหนึ่งในประเทศจีน นำหุ่นยนต์กว่า 10 ตัวมาใช้ต้อนรับลูกค้ารวมถึงเสิร์ฟอาหาร

เรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารแห่งแรกเลยก็ว่าได้ ที่นำหุ่นยนต์มาใช้บริการ

และยิ่งนับวันก็ยิ่งดูเหมือนว่าหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารมากขึ้นเรื่อยๆ

โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่ทำให้คนต้องรักษาระยะห่าง ร้านอาหารต้องลดสัมผัสกับผู้บริโภค หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารในจีนก็เติบโตอย่างรวดเร็ว

จนช่วงกลางปี 2021 ที่ผ่านมา ประมาณการว่าในจีนมีการนำหุ่นยนต์มาใช้ในร้านอาหารกว่า 10,000 ตัวแล้ว

ไม่เพียงแค่ในจีน แต่ร้านอาหารในหลายประเทศทั่วโลกก็เริ่มนำหุ่นยนต์มาใช้ในร้านอาหารเช่นกัน ทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย, สหรัฐอเมริกา, อิตาลี, สเปน, ออสเตรีย, เนปาล ฯลฯ

รวมทั้งในประเทศไทยที่หลายร้านจากแรกเริ่มนำหุ่นยนต์มาเป็นกิมมิกสร้างสีสัน แต่ตอนนี้เอาหุ่นยนต์มาใช้เสิร์ฟอย่างจริงจังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น MK สุกี้ ที่บอกว่าปี 2022 นี้จะนำหุ่นยนต์บริกรมาใช้ 500 ตัว

นอกจากนี้ยังมีร้านอื่นๆ อีก เช่น บาร์บีคิวพลาซ่า, ซิซซ์เล่อร์, สุกี้ตี๋น้อย เป็นต้น

ความแพร่หลายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี้เอง ส่งผลให้ธุรกิจผลิตหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารก็ขยายตัวไปด้วย

โดยเฉพาะในจีนที่เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ มีบริษัทใหม่ๆ รวมถึงสตาร์ทอัพเกิดขึ้นเพียบ เพื่อคิดค้นหุ่นยนต์รุ่นใหม่ๆ และผลิตให้ทันกับดีมานด์

หลายบริษัทในจีนประสบความสำเร็จในประเทศ และยังส่งออกไปต่างประเทศด้วย เช่น Pudu Robotics ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2016 ตอนนี้ก็ทำตลาดไปแล้ว 60 ประเทศทั่วโลก

แล้วถามว่าทำไมหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารถึงฮิตได้ขนาดนี้?

————

แม้ประโยชน์อย่างหนึ่งของหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร จะเป็นการที่ช่วยลดการสัมผัสและใกล้ชิดกับผู้บริโภค ซึ่งตอบโจทย์มากๆ ในช่วงโควิด

แต่อันที่จริง ที่ร้านอาหารมากมายทั่วโลกใช้หุ่นยนต์มากขึ้น ก็เพราะต้องการแก้ปัญหา ‘ขาดแคลนแรงงาน’ และ ‘ต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้น’

การขาดแคลนแรงงานในธุรกิจร้านอาหาร เป็นปัญหาที่หลายประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ และช่วงการระบาดครั้งใหญ่ ปัญหานี้ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

อย่างในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลจากสมาคมร้านอาหารแห่งชาติ ที่เมื่อปลายปี 2021 ได้สำรวจผู้ประกอบการร้านอาหาร 3,000 แห่ง พบว่า 7 ใน 10 บอกว่าร้านของตนมีพนักงานไม่เพียงพอ และไม่คิดว่าสถานการณ์แรงงานจะดีขึ้นภายในปีนี้

โดยในสหรัฐฯ ช่วงโควิดที่ผ่านมาเกิดการลาออกครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและโรงแรม ที่เดือน พ.ย. 2021 ที่ผ่านมา มีพนักงานลาออกถึง 1 ล้านคน

และจำนวนมากบอกว่าจะไม่กลับไปทำงานในอุตสาหกรรมนี้ แม้หลายร้านจะประกาศเพิ่มค่าจ้างให้ก็ตาม

สาเหตุสำคัญของการลาออกในสหรัฐฯ มาจากการถูกต่อว่าหรือตำหนิติเตียนมากขึ้นจากทั้งลูกค้าและนายจ้าง แต่กลับได้รับค่าจ้างน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่น

นอกจากนี้ในช่วงการระบาด ก็ยังเผชิญกับการถูกลูกค้ากลั่นแกล้งหรือทำร้ายร่างกาย เพราะทัศนคติในเรื่องการใส่หน้ากากอนามัยและการฉีดวัคซีน

รวมถึงแรงงานเองก็อยากจะทำงานที่มีตารางเวลาและรายได้สม่ำเสมอ และมีโอกาสในการพัฒนาทักษะทางวิชาชีพและการเลื่อนตำแหน่งด้วย

ส่วนสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้แรงงานในร้านอาหารขาดแคลนในหลายประเทศ ก็มีอีกหลายประการด้วยกัน คือ

-หนุ่มสาวยุคใหม่ในประเทศนั้นๆ ไม่อยากทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟแล้ว

-หลายประเทศ เช่น อังกฤษ ออสเตรเลีย ธุรกิจร้านอาหารพึ่งพาแรงงานต่างชาติเป็นหลัก เมื่อเกิดโรคระบาด ทำให้แรงงานต้องกลับประเทศบ้านเกิด และเมื่อยังไม่เปิดพรมแดน แรงงานเหล่านี้ก็ยังไปทำงานไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงาน

และยิ่งในช่วงที่ใกล้เปิดประเทศแบบเต็มที่ ผู้คนจะออกมาใช้ชีวิตกันมากขึ้น แต่ร้านอาหารไม่สามารถหาแรงงานกลับเข้ามาได้ทัน ทำให้นำหุ่นยนต์มาใช้ เพื่อเตรียมพร้อมรับดีมานด์มหาศาลที่กำลังจะเกิด

“ประชาชาติธุรกิจ” รายงานด้วยว่า การใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารมาเสริม ยังช่วยให้พนักงานที่เป็น ‘คน’ ไม่เหนื่อยจนเกินไป มีเวลาได้พักบ้าง

ท้ายที่สุดคือช่วยลดการเทิร์นโอเวอร์ที่ปกติอยู่ในระดับสูงมากลงได้นั่นเอง

—————-

แต่นอกเหนือจากการขาดแคลนแรงงาน อีกหนึ่งประเด็นที่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารช่วยได้ ก็คือ ‘การลดต้นทุน’

โดยในจีน ค่าจ้างแรงงานในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มยังอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนเฉลี่ยของต้นทุนแรงงานต่อรายได้คิดเป็นร้อยละ 21.35 และยังคงรักษาอัตราการเติบโตร้อยละ 3.69 เรียกได้ว่าเติบโตเร็วมาก

ส่วนค่าจ้างพนักงานเสิร์ฟในไทยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 11,000 บาท/เดือน แต่ลองนึกดูว่าสำหรับร้านอาหาร โดยเฉพาะพวกร้านบุฟเฟ่ต์หรือชาบูที่เปิดมากกว่า 8 ชั่วโมง ทำให้ต้องใช้พนักงานจำนวนมาก เพราะมีหลายกะ

กับหุ่นยนต์ที่ชาร์จ 1 ครั้ง (ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4 ชั่วโมง) สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 10 ชั่วโมง บางรุ่น 24 ชั่วโมง แถมถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ คือทำงานได้นานกว่ามนุษย์นั่นเอง

โดยหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 400,000 บาท/ตัว หรือบางเจ้าก็มีบริการเช่าใช้ที่เดือนละ 15,000 บาท/ตัว ถ้าทำสัญญาหลายปี ก็ยิ่งได้ราคาถูกลงอีก

ทำให้ในระยะยาว การใช้หุ่นยนต์นั้นมีต้นทุนต่ำกว่า ยิ่งในประเทศที่ค่าจ้างสูงๆ เช่น โซนยุโรป และอเมริกา ก็ยิ่งช่วยประหยัดต้นทุนไปได้มาก

———————-

แล้วถามว่าอนาคตหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่พนักงานเสิร์ฟไปเลยได้หรือไม่?

สำหรับผู้เขียนคิดว่า “มีโอกาสเป็นไปได้” จากด้วยปัญหาต่างๆ ดังที่กล่าวมา และการศึกษาของหลายร้านที่พบว่าหุ่นยนต์ดังกล่าวนำมาใช้แทนคนได้จริง

ขณะที่เทคโนโลยีก็จะยิ่งถูกพัฒนาให้อัจฉริยะมากขึ้น ผู้เล่นในตลาดมีมากขึ้น การแข่งขันสูงขึ้น ราคาสินค้าก็จะถูกลงเรื่อยๆ ตามกลไกการแข่งขัน

การใช้ ‘หุ่นยนต์’ ก็จะยิ่งน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคุ้มค่ามากกว่านั่นเอง

แต่อีกนานแค่ไหนถึงจะเห็นการใช้หุ่นยนต์แทนพนักงานเสิร์ฟแบบ 100%

คงเป็นสิ่งที่เราต้องจับตาดูกันต่อไป…

อ้างอิง:

https://www.businessinsider.com/restaurant-worker-shortage-continuing-through-2022-survey-2022-2

https://www.businessinsider.com/labor-shortage-california-restaurant-sugar-mediterranean-bistro-robot-richtech-robotics-2021-7

https://www.restaurantdive.com/news/why-arent-restaurant-workers-coming-back-heres-what-the-data-shows/606198/

https://www.salika.co/2022/01/13/bellabot-smart-delivery-robot-pudu/

https://www.bbc.com/news/business-57555608

https://www.prachachat.net/marketing/news-895780

https://www.prachachat.net/marketing/news-901044

http://omni-recipes.com/2020/01/20/robot-restaurant-foodom/

https://ditp.go.th/ditp_web61/article_sub_view.php?filename=contents_attach/690747/690747.pdf&title=690747&cate=592&d=0

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า