รีด เฮสติ้ง CEO ของ NETFLIX เขียนบทความเล่าถึงแนวคิดการจ้างพนักงานมาร่วมทีม โดยบอกว่า NETFLIX มุ่งหมายดึงบุคลากรที่เก่งที่สุดในท้องตลาด เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญในการนำความสำเร็จมาเข้าสู่ทีม
โดยเขาเล่าถึงหลัก Rock-star principle ที่ถือกำเนิดในช่วงปี 1968 โดยย้อนไปถึงการเฟ้นหาโปรแกรมเมอร์ชั้นยอดในคาลิฟอร์เนีย ซึ่งมีการแข่งขันออกแบบโปรแกรมระหว่างโปรแกรมเมอร์เก่งๆ 9-10 คน
ซึ่งผลจากการแข่งขันนี้ทำให้สามารถเฟ้นหาบุคลากรระดับร็อคสตาร์ที่เก่งที่สุด ที่สามารถถอดโค้ดได้เร็วกว่าคนอื่น 20 เท่า และวางระบบโปรแกรมเร็วกว่าคนอื่นถึง 10 เท่า
ผลจากการทดลองในครั้งนั้นได้เปลี่ยนวิธีการรับพนักงานในแวดวงเทคโนโลยี และรีดก็บอกว่า ในประสบการณ์การทำงานของเขา พนักงานที่เก่ง ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทได้เป็นร้อยเท่าตัวกว่าคนทั่วๆ ไป
รีด ยังบอกด้วยว่าการจ้างพนักงานที่มีทักษะไม่โดดเด่น เป็นคนที่มีอยู่อย่างดาษดื่นในตลาด นอกจากจะไม่ทำให้องค์กรไปข้างอย่างก้าวกระโดดแล้ว ยังจะทำให้พนักงานคนอื่นต้องมาเสียเวลาสอนงาน แก้งาน ทำให้เสียมากกว่าได้เสียอีก
โดยเขาบอกว่า “เรายอมจ่ายเงินเดือนมากกว่าเป็นสิบเท่า จ้างคนเก่งที่สุดในวงการ ดีกว่าต้องเสียแรงเสียเวลากับคนธรรมดาๆ ที่มีอยู่ดาษดื่นทั่วไปในตลาด เราพิสูจน์แล้วว่ามันคุ้มกว่ามาก วิธีคิดนี้มาจากหลักการที่ชื่อว่า Rock-star principle”
รีดเล่าย้อนไปในปี 2003 โดยเขาบอกว่าในปีนั้น NETFLIX ยังไม่มีงบจ้างคนมากมาย ทำให้แต่ละคนต้องเป็นคนที่มีคุณภาพจริงๆ โดยเฉพาะกับตำแหน่งงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งหลักการคิดแบบนี้ส่งผลให้ NETFLIX ในยุคแรกถือกำเนิดด้วยความกระทัดรัด
“ประสบการณ์สอนผมว่าเราต้องพึ่งพาคนเก่งอย่างมาก และเราก็ยินดีจ่ายเงินมหาศาลจ้างคนที่เก่งที่สุดมาร่วมทีม” รีดกล่าวปิดท้าย