ผบ.ทร.ยอมรับกำลังพล 30 นายไม่มีเสื้อชูชีพ สรุปวันนี้ค้นหาผู้ประสบภัยเหตุ ‘เรือหลวงสุโขทัย’ พบ 7 นาย รอดชีวิต 1 นาย

อัปเดตก่อน 3 ทุ่ม สรุปค้นหาผู้ประสบภัยเหตุ ‘เรือหลวงสุโขทัย’ วันนี้ พบ 7 นาย รอดชีวิต 1 นาย  ‘ผบ.ทร.’ ยอมรับ กำลังพล 30 นายบนเรือไม่มีเสื้อชูชีพจริง พร้อมแจงตัวเลขมี 12 นายที่ไม่มีเสื้อชูชีพรอดชีวิตมาได้ 

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ตอบคำถามกรณีกระแสข่าวกำลังพล  30 นาย บนเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางในทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อคืนวันที่ 18 ธ.ค. 65 ไม่มีเสื้อชูชีพ โดยยอมรับว่าเสื้อชูชีพไม่เพียงพอจริง โดยระบุว่า ภารกิจของเรือหลวงสุโขทัย นอกจากการลาดตระเวน เรือหลวงสุโขทัยต้องนำกำลังพล ของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาชายฝั่งหน่วยละ 15 นาย ไปร่วมพิธีครบรอบ 100 ปี “เสด็จเตี่ย” (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์) ที่หาดทรายรี จ.ชุมพร

ในการลงไปเพิ่มของกำลังพล มี 2 ลักษณะ คือ เป็นกำลังพลที่แค่เดินทางไปกับเรือ เพื่อไปร่วมพิธีที่หาดทรายรี ปกติจะต้องมีการนำเสื้อชูชีพ ไปกับกำลังพลที่เพิ่มเติม ในเรือรบปกติจะมีเสื้อชูชีพอยู่ เป็นเสื้อชูชีพที่ประจำ กับกำลังพล เป็นเสื้อชูชีพประจำตัว กับเสื้อชูชีพสำรอง ในกรณีที่เรือไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้วต้องส่งเสื้อชูชีพ หรือโยนชูชีพไปให้กับคนที่ประสบภัย ดังนั้นเรือก็จะมีสำรองอยู่ในจำนวนหนึ่ง นอกจากเสื้อชูชีพ ยังมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตอื่น เช่น แพชูชีพ ห่วงยาง หรือเป็นลูกยางกันกระแทกที่ติดอยู่กับเรือเล็กของเรือ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ทางเรือหลวงสุโขทัยทราบปัญหานี้ดี เพราะว่ามีเสื้อชูชีพไม่เพียงพอกับกำลังพลที่มาเพิ่มเติมจำนวน 30 คน ก็ได้พยายามที่จะนำอุปกรณ์ และสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตได้มาให้กำลังพลที่ไม่มีเสื้อชูชีพ

ตนได้ไปสอบถามกำลังพลบางคนเขาเอาลูกยางที่ผูกติดกับเรือเล็กมาผูกติดกับเอวไว้ ในกรณีที่จมน้ำไปก็ยังมีอะไรพยุงแล้วก็สามารถนำอุปกรณ์อื่นๆ มาดัดแปลงใช้เกาะช่วยชีวิตได้ ทั้งนี้ บนเรือมีแพชูชีพที่สามารถกดด้วยมือ (manual)หรือ อัตโนมัติ เมื่อเรือจมไป หรือได้รับแรงดันถึงระดับหนึ่ง  แพชูชีพจะกางขึ้นมาจุคนได้ 15 คน เขาวางแผนไว้อยู่แล้วว่า ถ้าเรือใกล้เรือจมจะกดแพแบบ manualแล้วเอาคนที่ไม่มีเสื้อชูชีพหรืออุปกรณ์ชูชีพไม่เพียงพอ ขึ้นบนเรือดังกล่าว

“ผมจะชี้แจงตัวเลขที่สำคัญให้ดูว่า มี 30 คนที่ไม่มีเสื้อชูชีพ… มี 18 คนได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาแล้ว มี 12 คนที่ยังอยู่ในทะเล ในขณะเดียวกัน กำลังพลของเรือที่บอกว่า มีเสื้อชูชีพครบทุกคน ยังมีอีก 18 คนที่ยังอยู่ในทะเล เพราะฉะนั้นการมีเสื้อชูชีพไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะ จะสามารถจะ พูดง่ายๆ รอดชีวิต แล้วได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาบนเรือ เพราะเขายังมีมาตรการในการช่วยเหลือ เขามีการกำหนดว่าใครเป็นบัดดี้ใคร ในกรณีที่ไม่มีเสื้อชูชีพ แล้วมีอุปกรณ์อื่นๆ เขามีการกำหนดว่าใครจะขึ้นแพชูชีพก่อน ก็คือผู้ไม่มีเสื้อชูชีพต้องขึ้นแพชูชีพก่อน เป็นมาตรการที่ทางเรือกำหนดขึ้นมาในช่วงของเตรียมการในการสละเรือใหญ่ เพราะฉะนั้นอย่ามองว่า คนไม่มีเสื้อชูชีพ ทั้ง 30 คน จะสูญเสียทั้งหมด เพราะตัวเลขแสดงให้เห็นแล้วว่า 18 คนที่ไม่มีเสื้อชูชีพขึ้นมากับ 75 คนแรกยังเหลือในทะเล 12 คน แล้ว 18 คนที่มีเสื้อชูชีพเองยังอยู่ในทะเลอยู่…”

“เพราะฉะนั้นที่ไปบอกข่าวว่าไม่มีเสื้อชูชีพจะสูญเสียทั้งหมดไม่ใช่ตัวเลขมันชี้ให้เห็นแล้ว แล้วก็มาตรการที่ทางเรือเขาได้กำหนดก็ยืนยันได้ชัดเจนว่าเขามีการเตรียมพร้อมก่อนสละเรือใหญ่แล้วว่า เขาจะทำอย่างไรกัน มีการเกาะเป็นหมู่กัน ตามที่ท่านไปสัมภาษณ์รายบุคคลว่าเขาเตรียมการเกาะเป็นหมู่กัน แล้วจะช่วยกันยังไง ในสภาพอย่างนั้นทุกคนต้องพยายามช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการที่จะให้ทุกคนรอดชีวิตได้ แล้วต้องเรียนจริงๆ ว่ามันเป็นสภาพฉุกเฉิน ซึ่งไม่ได้เตรียมการแล้วเรือจมลงไปรวดเร็ว จนทำให้ทุกคนก็ชุลมุน อย่างที่ว่านะครับแต่ก็ได้มีการทำตามบางส่วน กดแพชูชีพให้คนไม่มีเสื้อชูชีพลงไปในแพดังกล่าว จนกระทั่งแพชูชีพลอยไปแล้วเรือสินค้าเก็บ ขึ้นมาได้ ในส่วนก็ยังสามารถช่วยคนขึ้นมาได้ประมาณ 20 กว่าคน” พล.ร.อ.เชิงชาย ผบ.ทร. กล่าว

สรุปข้อมูล ณ เวลา  20.56 น. ของวันที่ 20 ธ.ค. 65

– ยอดกำลังพล ทั้งหมด 105 นาย

– ค้นพบแล้ว 82 นาย

– รอดชีวิต 76 นาย

– เสียชีวิต 6 นาย

– ยังสูญหาย 23 นาย

ทั้งนี้ กองทัพเรือ ระบุว่า การค้นหากำลังพลที่สูญหายยังคงดำเนินการตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มาและภาพ : กองทัพเรือ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ผบ.ทร. เผยสาเหตุเรือหลวงสุโขทัยล่มก่อนอับปาง เพราะคลื่นสูง ไม่สามารถสูบน้ำออกจากเรือได้ทัน