ชาวสวนยางร้องรัฐบาลยังช่วยน้อยเกินไป ทนไม่ไหวขายที่-ตัดไม้ขาย

วันที่ 31 ต.ค. นายสมพงษ์ สีทอง เกษตรกรชาวสวนยางพารา ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง นำผู้สื่อข่าวดูสวนยางพาราเนื้อที่ประมาณ 9 ไร่เศษ ที่หยุดกรีดปล่อยรกร้างมายาวนานตั้งแต่เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากราคายางพาราตกต่ำต่อเนื่องยาวนาน ไม่คุ้มการกรีด และปุ๋ยที่ปกติใส่ปีละ 2 ครั้ง ก็ไม่ได้ใส่

นายสมพงษ์ กล่าวว่า สวนยางของตนเองเนื้อที่รวม 9 ไร่ 3 งาน หยุดกรีดมาตั้งแต่เดือน ม.ค. เพราะราคายางเหลือกิโลกรัมละ 30 – 31 บาท ไม่คุ้มต้นทุนการผลิตก็เลยหยุดพักยางพาราไว้ก่อนชั่วคราว สถานการณ์ในเวลานี้เกษตรกรชาวสวนยางเดือดร้อนกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะชาวสวนยางที่ไม่มีอาชีพเสริม มีเพียงสวนยางพาราอย่างเดียว ราคาจะถูกแพงอย่างไรก็จำเป็นต้องกรีด เพราะค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันสูง ลูกเรียนหนังสือ

นอกจากนั้นพบว่าหลายรายต้องโค่นต้นยางพาราขายทิ้ง เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว บางรายมีหลายไร่ก็ทยอยโค่นขายไม้ยาง เพื่อพยุงครอบครัว หากยางพารากิโลกรัมละ 50 – 60 บาท ชาวสวนก็อยู่ได้ และขณะนี้ในภาคใต้ยังเป็นฤดูฝน ฝนตกแทบทุกวันทำให้ไม่มีรายได้และราคายังตกต่ำอีก จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือด้วยการประกันราคายางพาราตามที่ได้แถลงนโยบายเอาไว้ว่าจะทำให้ราคายางอยู่ที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท โดยการประกันราคายางทุกกิโลกรัม เพราะเกษตรกรชาวสวนยางเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ส่วนที่รัฐบาลประกาศมาตรการประกันรายได้ช่วยเหลือเกษตรกรจำนวน 25 ไร่นั้น ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เนื่องจากเท่ากับเป็นการเหมาจ่ายคือ การจ่ายขาดไปครั้งเดียว แต่อยากให้รัฐบาลใช้วิธีประกันราคายางทุกกิโลกรัมจะกิโลกรัมละ 50 หรือ 60 บาท ก็ให้ประกันราคาออกมาเลย ไม่ต้องมาชดเชย ซึ่งหากได้ราคาตามนี้เกษตรกรชาวสวนยางก็สามารถลืมตาอ้าปากได้ในการดำรงชีพแต่ละวัน

ทั้งนี้ ส่วนตัวเชื่อว่าหากรัฐบาลไม่ทำตามที่เคยหาเสียงเอาไว้ เชื่อว่าจะต้องเกิดการชุมนุมของชาวสวนยางภาคใต้เกิดขึ้นแน่นอน ตอนนี้สมัชชาชาวสวนยางภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็เริ่มรวมตัวกัน เพื่อเตรียมประท้วงรัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงหรือแถลงนโยบายเอาไว้ว่าจะประกันราคายางที่กิโลกรัมละ 50 – 60 บาท ตอนนี้เจ้าของสวนยางจำนวนมากขายไม้ยางทิ้ง และอีกจำนวนมากขึ้นป้ายประกาศขายสวนทิ้งเช่นกัน

สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งข้อมูลการปลูกยางกับการยางแห่งประเทศไทย ระยะที่ 1 สรุปล่าสุด กำหนดช่วยเหลือเกษตรกรที่มีสวนยางอายุ 7 ปีขึ้นไปที่เปิดกรีดแล้ว รายละไม่เกิน 25 ไร่ โดยกำหนดราคาประกันยางแผ่นดิบคุณภาพดี 60 บาท/กก. น้ำยางสด (DRC 100%) 57 บาท/กก. และยางก้อนถ้วย (DRC 50%) 23 บาท/กก. แบ่งสัดส่วนการจ่ายเงินให้กับเจ้าของสวนยาง 60% และคนกรีดยาง 40% คาดว่าจะสามารถโอนเงินในงวดแรกให้เกษตรกรได้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้