รัสเซียอ้างสกัดการโจมตีครั้งใหญ่ของยูเครนสำเร็จ สังหารทหารเคียฟหลายร้อยนาย

รัสเซียอ้างสกัดการโจมตีครั้งใหญ่ของทหารยูเครนสำเร็จ ขณะเตรียมโต้กลับเพื่อยึดคืนดินแดนในภูมิภาคโดเนตสค์ สังหารกำลังพลกองทัพยูเครนไปหลายร้อยนาย ทำลายรถถังและยุทโธปกรณ์ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก

จากการเปิดเผยของกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ปฏิบัติการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่กองทัพยูเครนส่งกองพันทหารราบยานเกราะ 6 หน่วย และกองพันรถถัง 2 หน่วย บุกเข้าจู่โจมพื้นที่ทางใต้ของภูมิภาคโดเนตสค์ ซึ่งเป็นจุดที่รัสเซียคาดการณ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้ว่ายูเครนจะตีฝ่าจุดนี้เพื่อเข้าไปยังดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย 

“เมื่อเช้าวันที่ 4 มิ.ย. ข้าศึกได้เปิดฉากโจมตีครั้งใหญ่ 5 จุดบริเวณพื้นที่แนวหน้าทางตอนใต้ของโดเนตสค์ เป้าหมายของพวกเขาคือการฝ่าแนวป้องกันในจุดที่พวกเขามองว่าน่าจะเปราะบางที่สุด แต่ภารกิจของพวกเขาไม่ประสบความสำเร็จ และไม่มีทางที่จะสำเร็จได้” กระทรวงกลาโหมรัสเซียโพสต์บนเทเลแกรมเมื่อเวลา 1.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น วันนี้ (5 มิ.ย.) 

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังระบุด้วยว่า กองกำลังของรัสเซียได้สังหารทหารยูเครนไป 250 นาย ทำลายรถถังได้ 16 คัน ยานรบทหารราบ 3 คัน และยานเกราะต่อสู้ 21 คัน โดยพลเอกอาวุโสวาเลรี เกราซีมอฟ เสนาธิการใหญ่ของกองทัพรัสเซีย ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการรบในสมรภูมิยูเครน อยู่ในพื้นที่ขณะปฏิบัติการด้วย 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวยังไม่สามารถยืนยันข้อเท็จจริงของถ้อยแถลงดังกล่าวได้ และกระทรวงกลาโหมยูเครนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาเกี่ยวกับเรื่องนี้ 

โดยมีเพียงรายงานจากนายทหารในสมรภูมิที่ส่งมาประจำวันระบุว่า เมื่อวันอาทิตย์ (4 มิ.ย.) มีการปะทะเกิดขึ้น 29 ครั้งในภูมิภาคโดเนตสค์และลูฮานสค์

ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ซึ่งออกมาปราศรัยผ่านทางวิดิโอเมื่อคืนวันอาทิตย์ ก็ไม่มีการกล่าวถึงการโจมตีตามคำกล่าวอ้างของฝั่งรัสเซีย 

ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า มีการเปิดเผยมาจากบล็อกเกอร์สายทหารของรัสเซียที่อยู่ในสมรภูมิยูเครน รวมถึง เซมซอน เพกอฟ เจ้าของนามแฝง ‘WarGonzo’ กองกำลังของรัสเซียและยูเครนเปิดปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ใกล้กับเมืองเวลิกา โนโวซิลกา ในภูมิภาคโดเนตสค์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย โดยขณะนี้สถานการณ์กำลังยากลำบาก 

ขณะเดียวกันก็มีรายงานจากบล็อกเกอร์สายทหารอีกหลายคนว่า มีการโจมตีครั้งใหญ่เกิดขึ้นใกล้กับเมืองบัคมุต, โซเลดาร์ และวูห์เลดาร์ ในภูมิภาคโดเนตสค์ ด้วยเช่นกัน แต่รอยเตอร์สยังไม่สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ในขณะนี้ 

ที่มา Reuters, Aljazeera