เครมลินโวยสหรัฐฯ ส่งจรวดให้เคียฟ ตั้งใจ ‘ราดน้ำมันบนกองไฟ’ ลั่นไม่เชื่อ ‘เซเลนสกี’ จะไม่ใช้โจมตีดินแดนรัสเซีย

โฆษกทำเนียบเครมลินโวยสหรัฐฯ ตั้งใจราดน้ำมันบนกองไฟ หลังตัดสินใจส่งจรวดพิสัยกลางให้ยูเครน ลั่นไม่เชื่อเซเลนสกีจะไม่ใช้อาวุธที่ได้มาโจมตีเป้าหมายในดินแดนรัสเซีย

วันที่ 2 มิ.ย. 2565 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวเมื่อวันพุธ (1 มิ.ย.) ว่า “สหรัฐฯ กำลังราดน้ำมันลงบนกองไฟ” หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศเตรียมส่งอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงมากขึ้นให้ยูเครนใช้ต่อสู้กับรัสเซีย ซึ่งรวมถึง ระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง (HIMARS) พิสัยกลางที่มีระยะโจมตีไกลราว 80 กิโลเมตร

“เราเชื่อว่า สหรัฐฯ ตั้งใจเติมเชื้อเพลิงให้กับกองไฟที่กำลังลุกโชนอย่างตั้งใจและแข็งขัน” นายเปสคอฟกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการแถลงผ่านโทรศัพท์ประจำวัน ภายหลังจากที่มีข่าวการจัดส่งอาวุธจากสหรัฐฯ ให้กับยูเครน

นายเปสคอฟยังระบุด้วยว่า “อาวุธที่สหรัฐฯ ส่งให้กับยูเครนนั้น ไม่ได้ช่วยให้ผู้นำยูเครนเต็มใจที่จะดำเนินการเจรจาเพื่อสันติภาพกับรัสเซีย”

ทางด้านสำนักข่าวทัสส์ของรัสเซียได้รายงานโดยอ้างคำพูดของนายเปสคอฟ ซึ่งระบุในตอนหนึ่งว่า มอสโกไม่เชื่อคำกล่าวอ้างของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่รับปากกับสหรัฐฯ ว่าจะไม่ใช้อาวุธที่ได้รับมาโจมตีเป้าหมายในดินแดนของรัสเซีย

ทัสส์ระบุในรายงานว่า นายเปสคอฟได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวอย่างชัดเจนว่า “ไม่” เมื่อถูกถามว่าเขาเชื่อคำพูดของประธานาธิบดีเซเลนสกีหรือไม่ ขณะเดียวกัน โฆษกเครมลินยังกล่าวด้วยว่า “การจะเชื่อใจผู้นำยูเครนได้นั้น จะต้องดูจากสิ่งที่เขาเคยรับปากมาก่อนหน้านี้ แต่ก็น่าเสียดายว่าอะไรที่เขาเคยพูดไว้นั้นไม่เคยเกิดขึ้นจริง”

“ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วทั้งหมดกลับเป็นข้อพิสูจน์ว่า เริ่มตั้งแต่สิ่งที่เขาเคยสัญญาว่าจะทำให้สงครามในภูมิภาคทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครนยุติลง แต่เขาก็ไม่เคยทำได้  อีกทั้งเรื่องของการปฏิบัติตามข้อตกลงกรุงมินสก์ (Minsk Agreements) พวกเขาก็ยังแกล้งทำเป็นลืม และนี่ก็เป็นข้อผิดพลาดของยูเครน” นายเปสคอฟกล่าว

ก่อนหน้านี้ ยูเครนได้ร้องขอให้สหรัฐฯ และพันธมิตรส่งขีปนาวุธพิสัยไกลมาให้กองทัพใช้ในการสกัดการรุกคืบของรัสเซีย แต่สหรัฐฯ ได้ปฏิเสธคำขอดังกล่าว เนื่องจากกังวลว่ายูเครนจะนำขีปนาวุธดังกล่าวมาใช้ในการโจมตีไปยังดินแดนรัสเซีย และจะทำให้สหรัฐฯ ถูกดึงเข้าไปมีส่วนร่วมในสงครามกับรัสเซียโดยตรง ซึ่งเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ ประกาศมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะไม่เข้าไปข้องเกี่ยวในลักษณะเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ได้ตัดสินใจที่จะจัดส่งระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง (HIMARS) พิสัยกลางที่มีระยะโจมตีไกลราว 80 กิโลเมตร พร้อมทั้งอาวุธเพิ่มเติม เช่น ระบบเรดาร์ตอบโต้การยิง เรดาร์ตรวจการณ์ทางอากาศ จรวดต่อต้านรถถัง กระสุนปืนใหญ่ เฮลิคอปเตอร์ ยานพาหนะทางยุทธวิธี และอะไหล่จำเป็นสำหรับปืนใหญ่ ไปให้ยูเครนเพื่อใช้ในการรับมือกับกองทัพรัสเซีย โดยมีเงื่อนไขว่ายูเครนจะต้องไม่ใช้อาวุธที่ได้รับมาจากสหรัฐฯ ยิงเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย และยูเครนก็รับปากว่าจะไม่นำของอาวุธของสหรัฐฯ มาใช้ทำแบบนั้น