SHARE

คัดลอกแล้ว

รัสเซียแต่งตั้งพล.อ.วาเลรี เกราซิมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหาร เป็นผู้บัญชาการสู้รบคนใหม่ในสมรภูมิยูเครน การเปลี่ยนแปลงนี้ถูกมองว่าเป็นการขยับครั้งสำคัญของกองทัพรัสเซีย หลังจากที่ยูเครนยืนหยัดต้านทานการรุกคืบมาเป็นเวลาหลายเดือน

การเปลี่ยนแปลงผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียในยูเครนครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลาเพียง 3 เดือนเศษ โดย พล.อ.เกราซิมอฟ ได้รับมอบหมายให้มาทำหน้าที่บัญชาการกองทัพรัสเซียในยูเครน แทน พล.อ.เซอร์เก ซูโรวิคิน ที่เพิ่งมารับตำแหน่งนี้เมื่อเดือน ต.ค. ปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้ได้ถูกปรับลงมาเป็นรองผู้บัญชาการภายใต้การนำของ พล.อ.เกราซิมอฟ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียชี้แจงเหตุผลของการปรับเปลี่ยนว่า “การเพิ่มระดับผู้นำในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร มีความเกี่ยวข้องกับการขยายขอบเขตภารกิจ และความจำเป็นในการประสานงานอย่างใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และคุณภาพของการบริหารจัดการกองทัพ” 

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยังถูกตั้งข้อสังเกตว่า เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่รัสเซียกำลังเผชิญความตึงเครียดจากความขัดแย้งของเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีหน้าที่รับผิดชอบในสงครามยูเครน 

หากมองย้อนไปในช่วงเวลาที่ พล.อ.ซูโรวิคิน ซึ่งเป็นนายทหารอาวุโสที่มีชื่อเสียงในด้านความโหดเหี้ยม จนได้รับฉายาว่าเป็น ‘นายพล อาร์มาเก็ดดอน’ (General Armageddon) เข้ารับหน้าที่บัญชาการกองทัพในสมรภูมิยูเครน

ไม่กี่วันหลังจากที่ พล.อ.ซูโรวิคิน เข้ารับตำแหน่ง กองทัพรัสเซียเริ่มแสดงสัญญาณการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในยูเครน ด้วยการยิงขีปนาวุธและโดรนถล่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทั่วยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายเมืองเกิดไฟฟ้าดับและไม่มีน้ำประปาใช้ระลอกแล้วระลอกเล่า

แต่ระยะเวลาผ่านไปแค่ราว 1 เดือนเศษ หลัง พล.อ.ซูโรวิคิน ขึ้นมาบัญชาการกองทัพ ได้เกิดเหตุการณ์ที่กองกำลังของรัสเซียล่าถอยออกจากเมืองเคอร์ซอน หนึ่งในเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ซึ่งรัสเซียยึดมาจากยูเครน ทำให้หลังจากนั้นมา สถานการณ์ในสมรภูมิตกอยู่ในสภาวะคงที่ ไม่มีฝ่ายใดที่สามารถรุกคืบครั้งใหญ่ได้อีกเลย 

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า อาจทำให้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่ค่อยพอใจกับผลงานของนายพลผู้นี้ และการลดตำแหน่งของพล.อ.ซูโรวิคิน ก็ดูเหมือนจะเป็นเครื่องยืนยันถึงข้อสันนิษฐานดังกล่าว 

ในอีกมุมหนึ่ง การตัดสินใจของกระทรวงกลาโหมรัสเซียในครั้งนี้ ยังถูกมองว่าทำให้พล.อ.เกราซิมอฟ ซึ่งรับหน้าที่ดูแลกองทัพรัสเซียทั้งหมดมานานกว่าทศวรรษ ต้องเข้าไปใกล้ชิดกับการกำกับดูแลและต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับปฏิบัติการในยูเครนโดยตรง แม้ก่อนหน้านี้เขาจะเป็นหนึ่งในบุคคลสำคัญในการวางกลยุทธ์สงคราม แต่มีเพียงครั้งเดียวที่มีรายงานออกมาว่าเขาเดินทางไปเยี่ยมกำลังพลในยูเครน และรายงานนี้ก็ไม่เคยมีการยืนยันจากกระทรวงกลาโหมออกมาเลย 

อย่างไรก็ตาม แม้เหตุผลที่แท้จริงของการเปลี่ยนตัวผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียในยูเครนครั้งนี้ยังคงไม่เป็นที่แน่ชัด แต่มีนักวิจารณ์และนักวิเคราะห์หลายรายที่ออกมาแสดงความเห็นถึงเรื่องนี้

เซอร์เกย์ มาร์คอฟ นักวิจารณ์ชาวรัสเซียได้พูดถึงเรื่องนี้ในเทเลแกรมว่า เป็นเรื่องปกติที่นายพลจะถูกย้าย จากแนวหน้าไปเป็นกองบัญชาการ และจากกองบัญชาการสู่แนวหน้า ทั้ง พล.อ.เกราซิมอฟ และพล.อ.ซูโรวิคิน ต่างก็ไม่ได้ถูกลงโทษ พวกเขาอยู่ทีมเดียวกัน แต่แน่นอนว่าการแข่งขันมักจะเกิดขึ้นในกลุ่มสุนัขชั้นนำ 

ทางด้าน มาร์ก กาเลียตติ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงจากสถาบันรอยัลยูไนเต็ดเซอร์วิสในลอนดอน มองว่า “นี่เป็นการลดตำแหน่งของ พล.อ.เกราซิมอฟ หรืออย่างน้อยก็เป็นการยื่นถ้วยที่มีพิษมากที่สุดเข้ามาในมือของเขา ซึ่งผมกำลังสงสัยว่า อาจมีเรื่องอะไรที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของปูตินเกิดขึ้นอีกแล้ว” 

ก่อนหน้านี้ เรื่องของความขุ่นเคืองระหว่างปูตินกับผู้นำกองทัพเคยเป็นที่จับตาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่ พล.อ.เกราซิมอฟ หายตัวไปเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และไม่มาปรากฏตัวในพิธีสวนสนามฉลองวันแห่งชัยชนะเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกิดกระแสคาดเดาต่างๆ นานาถึงตำแหน่งของเสนาธิการทหารรายนี้ 

แต่อีกด้านหนึ่ง นักวิเคราะห์บางคนกลับมองว่า ความเคลื่อนไหวของกระทรวงกลาโหมรัสเซียในครั้งนี้ อาจเป็นความพยายามในการยกระดับความเข้มข้นของปฏิบัติการในยูเครนเพื่อเตรียมการสำหรับการรุกหนักในช่วงฤดูใบไม้ผลิ 

ตามที่นักวิเคราะห์การเมืองจากมอสโกอย่าง ดมิทรี ทรีนิน อธิบายว่า “นี่อาจเป็นการปรับปรุงสายบัญชาการของปฏิบัติการพิเศษในยูเครน การแต่งตั้ง พล.อ.เกราซิมอฟ อาจหมายความได้ว่าปฏิบัตินี้มีความสำคัญมากขึ้น และอาจมีการขยายขอบเขตออกไปมากกว่าที่เห็นในตอนนี้ ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก” 

“สงครามใหญ่กำลังขยายใหญ่ขึ้น อันตรายมากขึ้น และผมคิดว่าสถานการณ์นี้ถูกวางให้อยู่เหนือการบัญชาการของผู้บัญชาการในระดับภาคสนาม ตอนนี้จึงอยู่มือของผู้บัญชาการกองทัพรัสเซีย” ทรีนินกล่าว 

 

ที่มา : Al Jazeera, CNN, TASS

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า