ศบค. เผยไทยติดโควิดเพิ่ม 71 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ลุ้น ศบค.ชุดเล็กชงมาตรการผ่อนคลาย

ศบค. เผยไทยติดโควิดเพิ่ม 71 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม แจง ศบค.ชุดเล็กชงมาตรการผ่อนคลาย เล็งใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถึง 31 พ.ค. 64 ก่อนเปลี่ยนใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อแทน แนะอยากเที่ยวสงกรานต์ ต้องห้ามการ์ดตก

วันที่ 8 มี.ค. 2564 พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทย 71 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 48 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 23 ราย ซึ่งการติดเชื้อในประเทศ 48 รายนั้น แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในระบบเฝ้าระวัง และระบบบริการ 41 ราย ประกอบด้วย กทม. 1 ราย ปทุมธานี 1 ราย ปราจีนบุรี 3 ราย ตาก 2 ราย และสมุทรสาคร 34 ราย และการติดเชื้อจากระบบคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 7 รายคือ ปทุมธานี 1 ราย และสมุทรสาคร 6 ราย ขณะที่ผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 รายประกอบด้วย เดนมาร์ก 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 10 ราย  อิตาลี 1 ราย  ปากีสถาน 1 ราย เลบานอน 1 ราย สหราชอาณาจักร 4 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย บาร์เรนห์ 2 ราย และสาธารณรัฐแซมเบีย 1 ราย

พญ.อภิสมัย กล่าวอีกว่า การประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการพิจารณาหลายเรื่อง อาทิ กรณีที่กระทรวงศึกษาธิการมีการประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2564 เกี่ยวกับมาตรการควบคุมป้องกันโรคในการจัดสอบหลายประเภท โดยในวันที่ 20 มี.ค. 2564 จะมีการสอบ GAT/PAT ทั้งประเทศ มีผู้เข้าสอบ 257,274 ราย สนามสอบ 209 แห่ง สอบวิชาสามัญ 175,003 ราย สนามสอบ 176 ราย สอบ ONET 387,139 ราย สนามสอบ 397 แห่ง ทั้งนี้ พิจารณาแล้วไม่จำเป็นต้องเลื่อนสอบ แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด เช่น จัดให้มีผู้เข้าสอบห้องละไม่เกิน 30 คน นอกจากนี้ ศบค.ชุดเล็ก ยังหารือกันถึงมาตรการผ่อนคลายภาคส่วนต่างๆ โดยภาคสังคม เศรษฐกิจต้องมีการขับเคลื่อน ซึ่งศบค.ชุดเล็กเตรียมเสนอผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ออกเป็นระยะ โดยระยะแรก 1 เม.ย. 2564 จะมีการพิจารณาปรับสีของพื้นที่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การรับวัคซีนในประเทศ รวมถึงการผ่อนคลายการเข้าประเทศ และการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ถึง 31 พ.ค. 2564 จากนั้นใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ที่จะเสนอให้ใช้ในระยะที่ 2 คือ 1 มิ.ย. 2564

พญ.อภิสมัย กล่าวด้วยว่า กระทรวงการต่างประเทศมีการหารือกันเรื่องวัคซีนพาสปอร์ต เมื่อมีการเปิดประเทศ มีเดินทางหลายๆ ประเทศจะมีการใช้วัคซีนพาสปอร์ตเพื่อแสดงตัวตนว่าฉีดวัคซีนแล้ว อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ขณะนี้องค์การอนามัยโลกอยู่ระหว่างการจัดทำวัคซีนพาสปอร์ตที่เป็นมาตรฐานโลก ดังนั้น หากออกมาเราก็สามารถปรับให้สอดคล้องกันได้ ส่วนการกระจายวัคซีนนั้น นายกฯ ย้ำว่า ต้องกระจายอย่างมีประสิทธิภาพ คนทำงานด่านหน้า และกลุ่มเสี่ยง ตลอดจนเมืองเศรษฐกิจ เมืองท่องเที่ยว จะได้รับวัคซีนเป็นจังหวัดแรกๆ ด้วย ทั้งนี้ วัคซีนเป็นตัวช่วยลดการติดเชื้อ ลดการเสียชีวิต แต่ยังไม่มีหลักฐานลดการแพร่ระบาด ดังนั้น ขอให้ปฏิบัติมาตรการควบคุมโรคส่วนบุคคลอย่างเข้มข้น

“สำหรับเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนั้น หลายพื้นที่เตรียมจัดกิจกรรมต่างๆ แล้ว แต่ได้ให้กระทรวงวัฒนธรรมหามาตรการวิธีการจัดประเพณีสงกรานต์วิถีใหม่ ขณะที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาก็หามาตรการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย โดยย้ำผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยว ให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด และทำงานอย่างหนักในการเน้นย้ำเรื่องการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย แต่ถ้าการ์ดตก ตัวเลขติดเชื้อเพิ่มขึ้น ก็อาจจะต้องเว้นสงกรานต์อีก ก็จะเศร้ากัน” พญ.อภิสมัย กล่าว