‘SAMMii’ ศิลปิน GEN Z อัลเทอร์เนทีฟป๊อป ที่อยากเห็นความหลากหลายในวงการเพลงไทย

ย้อนกลับไปช่วงปลายเมษายน 2564 ชื่อของ SAMMii เริ่มปรากฏให้เห็นมากขึ้นผ่านหน้าสื่อ เมื่อเธอเข้ามาเดบิวต์เป็นศิลปินเต็มตัวในค่ายเพลง ยูนิเวอร์ซัล มิวสิค (ประเทศไทย) เปิดตัวซิงเกิลแรกได้อย่าง เพลง ทานตะวัน แนวเพลงสไตล์อินดี้ ผสมกลิ่นไอ Bedroom Pop พูดถึงอารมณ์ของคนแอบรัก แต่ความรักกลับไม่สมหวังอย่างที่ตั้งใจ เป็นผลงานเพลงชิ้นแรกที่เธอใส่ความละเมียดละไมผ่านทุกตัวอักษรของบทเพลง

ถัดมาอีกสองเดือน SAMMii ปล่อยซิงเกิลที่สองเธอนิยามให้ชื่อว่า ปราสาทวังวน ให้ความรู้สึกนึกคิดวนลูปไปมาไม่จบไม่สิ้น ผ่านปลายปากกาของเธอ

              ล่าสุด SAMMii ปล่อยซิงเกิลที่สาม Plaster ฝีไม้ลายมือการแต่งเนื้อร้อง และท่วงทำนอง พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในซิงเกิลสไตล์ป็อปร็อก  กลิ่นไอ 90s เล่าถึงความสัมพันธ์ คนโดยตัวเอกทำหน้าที่เป็น พลาสเตอร์  คอยเยียวยารักษาบาดแผลของเพื่อนที่มักเกิดจากคนรัก

SAMMii หรือ แซมมี่ – ภัคธีมา ชิลเลอร์ กำลังศึกษา คณะดุริยางค์ศาสตร์ สาขาธุรกิจดนตรีและบันเทิง มหาวิทยาลัยศิลปากร เธอเป็นลูกสาวคนโตของนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง เกริก ชิลเลอร์ ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จมากมายในชีวิตของเธอ และแซมมี่ ถือเป็นอีกหนึ่งศิลปิน GEN Z   ที่มีมุมมองถึงวงการเพลงไทยอย่างน่าสนใจ

workpointTODAYPLAY พูดคุยกับศิลปิน SAMMii

ความรักในเสียงเพลงของ SAMMii

“แซมเล่นดนตรีมาตั้งแต่ 4 ขวบค่ะ แซมเล่นเปียโนมาก่อน แซมเติบโตมากับการเล่นดนตรี แต่แซมไม่ได้เติบโตมากับการชอบร้องเพลงขนาดนั้น ตอนเด็ก ๆ แซมไม่ได้เป็นคนชอบร้องเพลง แซมไม่มั่นใจในเรื่องเสียงตัวเอง แต่ว่ามันก็ชอบแบบมีฮัม ๆบ้างตามประสาคนเล่นดนตรี พอมันมาถึงช่วงหนึ่งที่แซมมีความมั่นใจ กล้าที่จะร้องเพลงมากขึ้น เราก็เริ่มที่จะร้องเพลงจริง ๆ จัง ๆ แล้วก็เริ่มที่จะเขียนเพลงจริงจังช่วง ม.ปลาย”  

เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่ง จะมาเป็นศิลปิน และมีซิงเกิลเป็นของตัวเอง แม้ว่าจะรักการเล่นดนตรีมาตั้งแต่เด็กก็ตาม  แต่ด้วยความที่เธอออกตัวว่า เป็นคนที่ชอบจะลองอะไรใหม่ๆ ทำให้แซมมี่เริ่มที่จะแต่งเพลงและคัฟเวอร์ลงในพื้นที่โซเชียลของตัวเองและได้รับการชักชวนเข้ามาเป็นศิลปิน

“ก่อนหน้านี้เราไม่เคยคิดเลยว่า เราจะมาทำงานอยู่ตรงนี้ เราคิดมาตลอดว่าเราอยากทำงานเบื้องหลังด้วยซ้ำ ก็ไม่คิดเหมือนกันว่า วันหนึ่งจะมาทำงานเบื้องหน้าด้วย แต่เอาจริง ๆ ความฝันตอนเด็ก ๆ อยากเป็นครูสอนวิทยาศาสตร์ (หัวเราะ) พอโตมาก็ไม่ได้เรื่องเลยวิทยาศาสตร์ ก็คือตัดทิ้งไปเลย แต่โตมาอีกหน่อยก็อยากจะมาทำงานตรงนี้แหละค่ะ คืออะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับศิลปะ ดนตรี เป็นคนทำงานศิลปะ”

ตัวตนและความเป็น SAMMii

“แซมชอบเขียนเพลงหลายแบบมาก แต่ที่แซมจะชอบมาก ๆ เลย ก็คือโฟลค กับอัลเทอร์เนทีฟป๊อปค่ะ แซมอยากให้มันออกมาเป็นตัวแซมมากที่สุด อย่างตอนก่อนที่จะปล่อยเพลงพลาสเตอร์ ความเป็นแซมมันก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ตอนปล่อยเพลงพลาสเตอร์มันก็เป็นอีกแบบหนึ่ง เหมือนความชอบมันก็เปลี่ยนไปด้วยเมื่อเราโตขึ้น เพราะฉะนั้น เราไม่ได้วางเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าจะต้องเป็นยังไง วัยของเราที่มันเปลี่ยนไปมันก็สื่อออกมาผ่านดนตรีด้วย ดนตรีที่หนักขึ้นอะไรอย่างนี้”

เรื่องราวที่แซมเล่าออกมา มันไม่ได้เป็นเรื่องราวของแซม ในสตอรี่ของมัน แซมจะเป็นเหมือนคนที่สามในเรื่องราวนั้นตลอด ไม่ได้เป็นเหมือนคนสองคนอะไรอย่างนั้น เพราะฉะนั้นเหมือนแบบแซมชอบเขียนเพลงรักสามเศร้า พึ่งมาสังเกตด้วย แซมเป็นคนชอบเปรียบเทียบค่ะ ทานตะวัน เราก็เปรียบเทียบตัวเองเหมือนทานตะวัน ปราสาทวังวนก็เปรียบเทียบความคิดของเรา พลาสเตอร์ก็เปรียบเทียบเป็นเรา เคยคุยกับวงที่เล่นด้วยกันว่า เพลงแซมมันเหมือนซิมโบลิคป๊อป เอาสัญลักษณ์อะไรสักอย่างหนึ่งมาเปรียบเทียบอย่างนี้ค่ะ ที่เห็นได้ชัด ๆ เกี่ยวกับตัวเองคือชอบเปรียบเทียบตัวเองเป็นอะไรสักอย่าง

อยากให้คนฟังมองเราเป็นศิลปินแบบไหน ?

อยากให้มองเราเป็นคนสร้างงานศิลปะ เป็นคนที่สนุกกับการทำเพลงดีกว่า เป็นคนที่สนุกกับการที่จะทดลองงานศิลปะต่าง ๆ อะไรอย่างนี้

ในฐานะที่ SAMMii เป็นศิลปิน GEN Z อยากเห็นวงการเพลงไทยเป็นแบบไหน ?

“เราว่าเราอยากเห็นคนกล้าที่จะสร้างความหลากหลายให้กับวงการเพลงไทยมากขึ้น ทุกวันนี้แซมเรียน  ดุริยางคศาสตร์ แล้วแซมก็มีเพื่อนที่ทำเพลงอยู่อย่างนี้ตลอด แล้วเขาก็แบบแชร์ ๆ เพลงกัน อันนี้มันเป้นเรื่องที่สนุกมากเลย เวลาเห็นเพื่อนทำเพลง คนวัยเดียวกันทำพลงออกมาแบบ แม้ว่ามันจะเป็นแบบไม่ซีเรียสมาก หรือออกมาแบบซีเรียส คือแซมชอบที่จะได้เห็นความหลากหลายตรงนี้มากเลย เพราะแซมรู้สึกว่า GEN Z เป็น GEN ที่ยอมรับความหลากหลายตรงนี้มาก ๆ แล้วมันสนุกอ่ะ มันสนุกมากเลย”

“การเป็นศิลปิน เราว่าคุณไม่ต้องรอใครเลยก็ได้ คุณเป็นศิลปินได้ด้วยตัวของคุณเอง คำว่าศิลปิน มันคือการสร้างความแปลกใหม่ให้กับโลกใบนี้ สร้างสิ่งที่คนยังไม่เคยเห็นขึ้นมาในโลกใบนี้ เอาจริง ๆ ไม่ต้องรอใครเลยก็ได้ค่ะ คุณสามารถเป็นศิลปินได้ด้วยการนั่งอยู่เฉยๆ แล้วก็คิดงานอะไรสักอย่าง สร้างเพลงสักเพลงคุณก็เป็นศิลปินได้ไม่ต้องรอใครเลย”

Plaster ซิงเกิลล่าสุด ลำดับที่ 3 จาก SAMMii

ล่าสุดบนเส้นทางศิลปินของ SAMMii เดินทางมาถึงซิงเกิลที่ 3  ซึ่งทำให้ได้เห็นการเติบโตขึ้นไปอีกขั้น ในพาร์ทของดนตรีที่หนักขึ้น กลิ่นอายยุค 90s  อย่างเพลง Plaster  และยังได้ แทน ลิปตา มานั่งแท่นคุมงานโปรดิวซ์เพลงนี้ให้ “SAMMii” ด้วยตัวเอง  อีกทั้งยังมีเนื้อหาใน MV ที่น่าสนใจ ไม่น้อย เพราะไลน์การเล่าเรื่องราวถูกหยิบยกถึงมุมมองรักสามเศร้า สถานะคลุมเครือ ไร้ความชัดเจน

“เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่แซมพุดถึงความสัมพันธ์ ที่มันเป็นไปไม่ได้ เหมือนกับเพลงทานตะวันเลย เพลงนี้แซมได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อเพลลิสต์ของคนแปลกหน้าคนหนึ่งค่ะ ใครไม่รู้ คือเขาตั้งชื่อเพลย์ลิสตืของเขาว่า พลาสเตอร์ แล้วลิสต์เพลงของเขา เขาเขียน Discerption เอาไว้ว่า แด่ฉัน การเยียวยาจิตใจของฉัน อะไรประมาณนี้ แล้วก้อีกใจเราก็รู้สึกว่าเราชอบคำว่าพลาสเตอร์มากๆ เราอยากรู้ว่าถ้าเอามาร้องแล้วมันจะเพราะไหม เราก็เลยเอามาเขียน แล้วมันก้ดันตรงกับชีวิตของตัวเองค่ะ  เพลงพลาสเตอร์มันก็เหมือนฮีลใจให้กับอีกคนหนึ่ง ฮีลเขามากเท่าไหร่ สุดท้ายเขาก้ไม่เลือกเรา พลาสเตอร์มันเป็นอะไรที่แบบ เหมือแปะแผลได้แค่ชั่วคราว สุดท้ายเราก้ต้องดึงมันออก”

“แซมพูดตลอดเลยว่า ดนตรีทุก ๆ เพลงเลย มันมีหน้าที่ของมัน แซมเชื่อว่าทุกคนก็จะมีเพลงที่ชอบมันเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเพราะเหตุผลอะไรก็ตาม เพราะฉะนั้นแซมรู้สึกว่า คนที่มาฟังเพลงแซม เขาก็อาจจะรู้สึกแบบนั้นกับเพลงของแซม ใครสักคนหนึ่งก็ได้ จริง ๆ ก็ดีใจที่เพลงของแซมได้ปล่อยออกไป เพราะมันจะได้ทำหน้าที่ของมัน เราแค่เป็นคนที่สร้างมัน แล้วก็ปล่อยให้มันออกไปทำหน้าที่ของมัน”