ซัมซุงเผยอินไซต์และการใช้ชีวิตของ Gen MZ พร้อมกลยุทธ์การตลาดที่จะลุยต่อในปี 2023

บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด นำโดย นางสาวปารมี ทองเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร ออกมาเปิดเผยอินไซต์ พฤติกรรมของคนกลุ่ม Gen MZ (Gen Millenials หรือ Gen Y ที่มีอายุระหว่าง 25-39 ปี และกลุ่ม Gen Z ที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี) ซึ่งจะเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักในอนาคต และเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักในเอเชียแปซิฟิก สถิติชี้ด้วยว่า คนกลุ่ม Gen MZ มีอัตราการเติบโตสูงถึงสามในสี่ส่วนของประชากรทั้งหมดในภูมิภาค

โดยกลุ่มนี้จะมีกำลังในการขับเคลื่อนเทรนด์ใหม่ๆ และมีกำลังซื้อ ทางซัมซุงจึงทำการวิจัยพฤติกรรม เจาะอินไซต์และแนวคิดของคน Gen MZ ได้คีย์หลักๆ 5 ข้อคือ

1. ด้วยสถานการณ์โลกที่มีความกังวลความเครียด พวกเขาจึงมองหาอะไรบางอย่างที่เป็น A Space to Call My Own หรือการมีพื้นที่ตรงกลางให้สามารถทำงานได้ และหลีกหนีจากความเครียด รวมถึงงต้องเป็นพื้นที่ที่มีความผ่อนคลาย
2. เป็นกลุ่มที่มุ่งหวังความสำเร็จ Gen Millennials มองหาความสำเร็จในอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว ในขณะที่คน Gen Z เป้าหมายความสำเร็จ คือ Rich Life Experiences ที่สามารถสร้างเส้นทางของตัวเอง เป็นเจ้านายของตัวเอง
3. เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กล้าพูด กล้าแสดงออก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคิดเห็นเกี่ยวกับสังคมและสิ่งแวดล้อม และนี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่พวกเขาสนใจแบรนด์ที่มีจุดยืนอุดมการณ์ที่แข็งแกร่งและยืนหยัดอยู่ข้างๆพวกเขาได้ อาทิ เรื่องความเท่าเทียม เสมอภาค ในเรื่องเพศ, ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม, การรวมกลุ่มเพื่อความหลากหลาย หรือการเป็นตัวแทนของคนในสังคม
4. การปรับแต่ง Personalization และ Customization เพื่อบ่งบอกตัวตนโดย 55% สำหรับ Gen MZ ต้องการซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่สะท้อนตัวตน และมากกว่า 45% ของ Gen MZ ที่สนใจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ Personalized Electrical Products และช่วยให้เร่งการตัดสินซื้อได้ง่ายขึ้น

ส่วนกลยุทธ์การตลาดที่ซัมซุงจะลุยต่อในปี 2023 มี 5 กลยุทธ์คือ

1. เน้นสร้างการรับรู้ SmartThings มากขึ้น โดย SmartThings คือแพลตฟอร์มของซัมซุงควบคุมการใช้งานดีไวซ์ภายในบ้าน ตั้งแต่หลอดไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งสอดคล้องกับอินไซต์ข้อแรกคือ A Space to Call My Own คือการทำบ้านให้ฉลาด สะดวก ซึ่งที่ผ่านมา ซัมซุงจับมือกับแสนสิริ เปิดตัวบ้านอัจฉริยะ ที่มีเทคโนโลยี “Smarthings”  ติดตั้งภายในบ้านทำให้บ้านเป็นสมาร์ทโฮม Home Automation ครบวงจรครั้งแรกของประเทศไทย รวมถึงจะเน้นดีไวซ์พรีเมี่ยมอย่างสมาร์ทโฟนจอพับได้ Galaxy Z Flip4, Galaxy Z Fold4 หรือ นวัตกรรม TV Odyssey Ark ด้วย
2. การปรับแต่ง Personalization และ Customization เพื่อบ่งบอกตัวตน (Product design matches lifestyle) โดยซัมซุงมี สินค้าที่ปรับแต่งสีได้ตามชอบเช่น ตู้เย็น Bespoke และมือถือ Galaxy Z Flip ที่เลือกโทนสีบนล่างได้
3. ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้นและอนาคตที่ยั่งยืน (Sustainability & Incorporate recycled materials to the product & Eco packaging) โดยซัมซุงประกาศกลยุทธ์ด้านสิ่งแวดล้อม Net Zero เพื่อให้การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 รวมถึงการเข้าร่วม RE100 ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มระดับโลกที่ซัมซุงทุ่มเทแสวงหาพลังงานหมุนเวียน 100% นอกจากนี้ ซัมซุง มีนโยบายการใช้วัสดุรีไซเคิลในผลิตภัณฑ์ อาทิ Galaxy Z Fold4 และ Galaxy Z Flip4 นอกจากนี้ยังได้สร้าง Eco packaging นำกลับมาใช้ใหม่เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม หรือเอามาประดิษฐ์เป็นของใช้ที่มีประโยชน์ เช่น กล่องใส่ทีวี ที่นำมาดัดแปลงเป็นของใช้ในบ้านที่หลากหลาย, จัดทำ Solar Cell Remote เพื่อประหยัดหลังงาน รวมถึง โครงการ Young Talent Contest เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ ในการแสดงความสามารถด้านการออกแบบและวาดภาพดิจิทัล เพื่อแสดงออกศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังร่วมกับ ศิลปิน BTS ทำโครงการ Galaxy of the planetเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนอีกด้วย
4. คอลแลบกับแบรนด์อื่น สร้างการรับรู้ผ่านการตลาด เช่นทีผ่านมา ซัมซุง ร่วมกับ Google มอบบริการ Google Photos ให้กับผู้เข้าร่วมงาน Flexperience, ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน WAAP ครั้งที่ 4 เพื่อ empower นักเทนนิสหญิงสมัครเล่นจากทั่วโลก , ร่วมกับ Prime Video เปิดฉายตัวอย่าง ซีรีส์ยอดนิยมรอบพิเศษ The Lord of the Rings: The Rings of Power, ร่วมกับ McDonald และ After You  มอบสิทธิพิเศษให้กับผู้ใช้งาน Galaxy Gift ผ่านแอปพลิเคชัน Samsung Members,  ร่วมกับ Aristotle x AIS มอบโปรโมชั่นพิเศษ Galaxy Z Flip4 ที่เอไอเอส เป็นต้น
5. มอบโอกาสและทางเลือกให้กับคนรุ่นใหม่ได้ร่วมงาน (Employer of choice) เนื่องจากกลุ่ม Gen MZ จะเป็นกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนโลก ทางบริษัทก็ตั้งใจจะจ้างคนที่อยู่ในกลุ่มดังกล่าวเพื่อพัฒนาโปรดักต์และทำการตลาดให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย