วันนี้ Samsung (ซัมซุง) ยักษ์ใหญ่แห่งโลกเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปล่อยข่าวสั้นมาว่า ให้จับตาโปรเจคสะเทือนวงการที่จะร่วมมือกับ POP MART (ป๊อปมาร์ท) ร้านขายของเล่น ชื่อดังจากประเทศจีน แบรนด์ยอดนิยมของนักสะสมอาร์ตทอยที่กำลังมาแรงที่สุดในปี 2024
“ซัมซุง ซุ่มเงียบ! เผยภาพ Samsung x POP MART ทำเอาแฟนคลับซัมซุง และ POP MART เดาทางกันไปต่างๆ นานาว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นอะไร โดยคาดว่าจะเป็นปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของวงการที่มาเอาใจสาวกคนรักเทคโนโลยีและแฟนอาร์ตทอย ในเร็วๆ นี้ ห้ามพลาดต้องติดตามว่าจะเป็นอะไร!”
การร่วมมือกันของซัมซุงและป๊อปมาร์ทในครั้งนี้ ในเชิงการตลาดเรียกว่า คอลแลปส์มาร์เก็ตติ้ง (collab marketing)
เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดแบบหนึ่ง Collaboration Marketing คือการที่แบรนด์ 2 แบรนด์หรือมากกว่านั้น ร่วมมือกันสร้างแคมเปญ โปรโมชัน กิจกรรม เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจร่วมกัน ทั้งการขยายฐานลูกค้า เข้าถึงลูกค้าใหม่ และสร้างจุดสนใจให้กับแบรนด์
อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าทุกแบรนด์จะสามารถทำคอลแลปส์กันได้ เพราะจุดที่สำคัญคือต้องมี Common Purpose หรือจุดมุ่งหมายเดียวกัน โดยเฉพาะความสนใจของกลุ่มลูกค้า เป้าหมายทั้งกลุ่มลูกค้าเดิม และกลุ่มลูกค้าใหม่ รวมทั้งบุคลิกของแบรนด์ต้องสอดคล้องกันได้
แน่นอนว่าเมื่อแบรนด์ใช้เครื่องมือทางการตลาด ย่อมต้องการเป็นที่สนใจ เพิ่มกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่จะนำมาซึ่งยอดขาย แต่ทว่ายิ่งไปกว่านั้น ผลจากการทำงานร่วมกับแบรนด์อื่นถือเป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ และยังเป็นการเปิดโอกาสเรียนรู้วิธีการทำงานของแบรนด์อื่น เพื่อนำมาต่อยอดหรือปรับใช้ในการทำงานต่อไปได้อีกด้วย
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 สำนักข่าวยอนฮัป รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเอกสารที่ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ยื่นต่อหน่วยงานกำกับดูแลว่า ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ มีกำไรจากการดำเนินงาน 6.6 ล้านล้านวอน (4.8 พันล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 1/2567 เทียบกับ 6.402 แสนล้านวอน ในปีก่อนหน้า
ด้านยอดขายเพิ่มขึ้น 12.8% สู่ระดับ 71.9 ล้านล้านวอน และกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 329% แตะ 6.75 ล้านล้านวอน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์เฉลี่ยที่ 5.6 ล้านล้านวอน จากการสำรวจของยอนฮัป อินโฟแมกซ์ ซึ่งเป็นบริษัทข้อมูลการเงินของสำนักข่าวยอนฮัป
ขณะที่ ป๊อปมาร์ท ซึ่งประสบความสำเร็จจากการใช้กลยุทธ์อย่าง “แทงสวน” เพื่อหลีกเลี่ยงคู่แข่ง ช่วงไหนที่แบรนด์อื่นนิยมขายออนไลน์ ป๊อปมาร์ทจะเลือกขายแบบออฟไลน์
ก่อนหน้านี้สินค้าในตลาดอาร์ตทอย จะมีราคาค่อนข้างสูงและเน้นเจาะตลาดลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่มีกำลังซื้อ แต่ป๊อปมาร์ทต้องการขยายกลุ่มเป้าเหมาย จึงวางกลยุทธ์การออกแบบของเล่นให้มีขนาดเล็กลง และมีโรงงานผลิตเป็นของตัวเอง ทำให้ราคาถูกลง ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น อีกทั้งจับกลุ่ม “ผู้หญิง” ต่างจากอาร์ตทอยแบรนด์อื่น ที่มักมีลูกค้าเป็นกลุ่ม “ผู้ชาย”
ดังนั้นการที่ทั้ง 2 แบรนด์ มาร่วมมือกันสร้างโปรเจคในเวลานี้ จะเป็นการเขย่าวงการ ‘เทคโนโลยี’ กับ ‘อาร์ตทอย’ ที่กำลังมาแรงในปี 2024 อย่างที่น่าจับตายิ่ง
อ้างอิง :
https://www.smartsheet.com/content/collaboration-marketing
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
เส้นทาง POP MART ร้านของเล่นนักจุ่มจากจีน มูลค่า 200,000 ล้าน