Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

นายกฯ ยืนยันคนเสนอข่าวเฟคนิวส์สร้างผลกระทบมากต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย กระทรวงดีอีเล็งออกหมายเรียก ขณะที่โฆษกพรรคเพื่อชาติชี้แจงบริสุทธิ์ใจอย่าให้ผ้าอนามัยราคาถูกลง

วันที่ 17 ธ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงข่าวภาษีผ้าอนามัย ว่า มีการชี้แจงไปแล้ว ตนเสียใจอยู่อย่างหนึ่งที่เรื่องนี้ปล่อยมาจากฝ่ายการเมือง

เรื่องนี้จะมีคดีความอะไรหรือเปล่าก็ต้องไปว่ากัน ใครเสนอข่าวเฟคนิวส์ (Fake News) ออกมาถ้ามันมีผลกระทบมาก ๆ ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้าไม่ทำก็จะเป็นแบบนี้กันไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งมีประมาณ 20-30 ข่าว กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(กระทรวงดีอี) ก็รายงานมา อยู่ดี ๆ อุปโลกน์กันขึ้นมาได้อย่างไรข่าวแบบนี้

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมกางค้าภายในได้ชี้แจงแล้วว่า ไม่ได้มีการเก็บภาษีผ้าอนามัยเพิ่มเติม และยังเป็นสินค้าควบคุม ทั้งเรื่องราคา คุณภาพ เพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องไปดำเนินคดีต่อผู้ปล่อยข่าว ยืนยันอีกครั้งว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่เคยมีแนวคิดขึ้นภาษีผ้าอนามัย

ขณะที่ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอี ระบุว่า หลังจากมีการยืนยันชัดเจนแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเร่งนำหลักฐานทั้งหมดไปดำเนินคดี โดยอยู่ระหว่างเก็บรวบรวมข้อมูล คิดว่าเร็ว ๆ นี้ จะได้เห็นการขอหมายศาลออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และขอศาลออกหมายจับต่อไป

(พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ / แฟ้มภาพ)

ด้าน น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ชี้แจงว่า จากกรณีที่ดิฉันออกมาให้ข่าวเรื่องผ้าอนามัย อันดับแรกดิฉันขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจที่พูดถึงประเด็นนี้ว่า ไม่ได้ต้องการเล่นเรื่องนี้เป็นดราม่าหรือโจมตีรัฐบาล ดิฉันทำหน้าที่ในฐานะเป็นนักการเมือง เป็นปากเสียงประชาชน ที่ต้องการเปลี่ยนแปลง โดยคิดว่าผู้หญิงควรได้ราคาผ้าอนามัยที่ถูกกว่านี้ เพราะปัจจุบันในหลายประเทศได้มีการผ่านกฎหมายยกเลิกภาษีผ้าอนามัยแล้ว

นอกจากนี้ ยังเป็นการท้วงติงไปยังรัฐบาล เพื่อพิจารณาเปลี่ยนหมวดหมู่ของผ้าอนามัยไปอยู่ในเวชภัณฑ์ หรือหมวดที่เหมาะสมมากกว่าหมวดเครื่องสำอาง เพราะไม่อยากให้ประชาชนต้องแบกรับภาระที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ รวมถึงถือว่าเป็นการช่วยให้สังคมช่วยกันจับตาในประเด็นนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของผ้าอนามัยที่เป็นสินค้าที่จัดอยู่ในหมวดของเครื่องสำอาง ซึ่งถือว่า เป็นสินค้าฟุ่มเฟือยสามารถมีเพดานภาษีได้ถึง 40% นั้น ซึ่งในส่วนนี้ดิฉันไม่ได้ก้าวล่วงไปบอกว่า รัฐได้จัดเก็บภาษีในส่วนตรงนี้เเล้ว เพียงเเต่เเสดงความเป็นห่วงว่า เพดานภาษีที่ 40% สำหรับสินค้าฟุ่มเฟือยนั้น เป็นปลายเปิดทางช่องกฎหมายที่สำคัญ พ.ร.ก. ควบคุมราคา 2562 มีอายุความเพียง 1 ปี ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็จะหมดแล้ว

ทั้งนี้ในหลายประเทศยังมีการเรียกร้องให้ ผ้าอยามัยเป็นสินค้าปลอดภาษี  หรือ Tax Free เนื่องจากผ้าอนามัยถือเป็นสินค้าที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของผู้หญิง

(เกศปรียา แก้วแสนเมือง พรรคเพื่อชาติ)

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า