Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) (SIRI) ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของ Standard International (สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล) ในสัดส่วนร้อยละ 71 โดยแสนสิริ ได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในปี พ.ศ. 2560 โดยมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจเรื่อยมา ทั้งนี้ Standard International  เป็นเจ้าของเครือโรงแรม The Standard (เดอะ สแตนดาร์ด) และ Bunkhouse (บังค์เฮาส์) ซึ่งเป็นแบรนด์โรงแรมสัญชาติอเมริกา และเป็นโรงแรมระดับ  Top 10 จากการจัดอันดับของ Travel + Leisure’s World Best Awards 2023

แสนสิริ เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการเจรจากับ Hyatt (ไฮแอท) ผู้ประกอบการโรงแรมระดับโลก เพื่อเข้าลงทุนใน Standard International และยังเข้าลงทุนใน Future Growth Business (ธุรกิจที่มีมูลค่าการเติบโตในอนาคต)  คาดว่าแสนสิริและ Hyatt จะสามารถปิดบิ๊กดีลนี้ได้ภายในปี 2567 นี้ โดยราคาซื้อขายรวมประมาณไม่เกิน 355,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา หรือราวๆ 12,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ตกลงร่วมกันระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ประกอบไปด้วย….

(1) ค่าตอบแทนเริ่มแรก (Upfront) จำนวน 150,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา โดยจะชำระเมื่อธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์

(2) ค่าตอบแทนตามผลการดำเนินงาน (Earnout) จำนวนไม่เกิน 175,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา สำหรับโรงแรมและโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ภายใต้แบรนด์ของ SIM และ Bunkhouse ซึ่งจะชำระโดยมีเงื่อนไขว่าโครงการใหม่ ดังกล่าวจะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการภายในกรอบเวลาที่กำหนด หลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์ (“Earnout Period”)

(3) ค่าตอบแทนพิเศษตามผลการดำเนินงาน (Earnout Bonus) จำนวนไม่เกิน 10,000,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะมีสิทธิได้รับเงินต่อเมื่อเหตุการณ์ที่กำหนดไว้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายหลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์

(4) ค่าตอบแทนการใช้แบรนด์ของ SIM และ Bunkhouse เฉพาะโครงการที่พักอาศัยภายใต้แบรนด์ SIM และ Bunkhouse ที่ดำเนินการอยู่แล้วก่อนวันเข้าทำรายการทั้งหมดไม่รวมอยู่ในธุรกรรมนี้ โดยผู้ซื้อจะดำเนินการให้มีการส่งผ่านค่าตอบแทนดังกล่าวให้แก่ผู้ขาย เมื่อ SIM และ Bunkhouse ได้รับรายได้จากโครงการดังกล่าวภายในกรอบเวลา ที่กำหนดหลังจากการทำธุรกรรมเสร็จสมบูรณ์

การเข้าลงทุนซื้อกิจการ Standard International ของ Hyatt ครั้งนี้ จะส่งผลดีและสร้าง value added ต่อแสนสิริเป็นอย่างมาก เนื่องจาก Hyatt มีโครงสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งทั่วโลก โดยเฉพาะโปรแกรมสมาชิก World of Hyatt ที่ประกอบไปด้วยสิทธิพิเศษและข้อเสนอมากมาย จะเป็นส่วนสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่พร็อพเพอร์ตี้ของแสนสิริ เนื่องจากดีลซื้อขายที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ แสนสิริยังคงเป็นเจ้าของพร็อพเพอร์ตี้ ประกอบไปด้วย

  • The Standard, Hua Hin (เดอะ สแตนดาร์ด หัวหิน)
  • The Standard Residences, Hua Hin (เดอะสแตนดาร์ด เรสซิเดนซ์ หัวหิน)
  • The Peri Hotel, Hua Hin (เดอะ เภรี โฮเต็ลหัวหิน)
  • The Peri Hotel, Khao Yai (เดอะ เภรี โฮเต็ล เขาใหญ่)
  • และเป็นเจ้าของ The Manner โรงแรมระดับลักซ์ชัวรี่ที่กำลังจะเปิดตัวในย่านโซโหของเมืองนิวยอร์กในเดือนกันยายน 2567

นายอุทัย อุทัยแสงสุข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาแสนสิริได้รับการติดต่อจากเชนโรงแรมขนาดใหญ่ระดับโลกหลายแห่ง  ซึ่งเราวิเคราะห์ว่ายังไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดี เนื่องจากพิจารณาจังหวะโอกาส ปัจจัยพื้นฐาน สภาวะตลาด ตลอดจนนโยบายในการบริหารว่าสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ที่แสนสิริกำหนดไว้ คือการสร้างการเติบโตให้กับ Standard International ได้อย่างแข็งแกร่งและมีความมั่นคงในระยะยาว

ปัจจุบันโอกาสทางธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาขยายตัวอีกครั้ง จากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ส่งผลให้แนวโน้มความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวเริ่มฟื้นกลับ ถือเป็นเวลาที่เหมาะสม มีโมเมนตัมเชิงบวกต่อภาพรวมของธุรกิจ และแสนสิริยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจ Hospitality และมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ในอนาคตเช่นกัน

“แสนสิริในฐานะ No.1 แบรนด์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนําของประเทศไทย ขอขอบคุณ Hyatt แบรนด์โรงแรมชั้นนำชั้นนำระดับโลก ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตของ Standard International หนึ่งในธุรกิจทางด้าน Hospitality ของแสนสิริ  ถือเป็นก้าวสำคัญในแผนพัฒนาเชิงกลยุทธ์ของ Standard International โดยมั่นใจว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ของ Hyatt นอกจากจะสะท้อนถึงความสำเร็จในการลงทุน Standard International ของแสนสิริแล้ว ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ในหลากหลายด้านให้กับลูกค้าและทีมงานของ Standard International อีกด้วย” นายอุทัย กล่าว

ทั้งนี้ สัญญาจะซื้อจะขายดังกล่าว ยังครอบคลุมสัญญาบริหารและแฟรนไชส์สำหรับโรงแรมมากถึง 21 แห่ง  มีห้องรวมกันราว 2,000 ห้อง มีทั้งโรงแรมที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว อาทิ The Standard, London (เดอะ สแตนดาร์ด ลอนดอน) The Standard, High Line (เดอะ สแตนดาร์ด ไฮไลน์) ในเมืองนิวยอร์ก The Standard, Bangkok Mahanakhon (เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร) และโรงแรมบูติคอย่าง Hotel Saint Cecilia (โฮเทล เซนต์ เซซิเลีย) ในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส และ Hotel San Cristóbal (โฮเทล ซาน คริสโตบัล) ในเมืองบาฮากาลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก

หลังจากที่บรรลุข้อตกลงตามสัญญาดังกล่าว Hyatt จะชำระค่าตอบแทนเริ่มแรกจำนวน 150 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มเติมอีกสูงสุดไม่เกิน 185 ล้านดอลลาร์ สำหรับโรงแรมแห่งใหม่ที่เกิดขึ้นภายใต้การบริหารโดย Hyatt

ขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 แสนสิริมีผลงานยอดขายที่โดดเด่นจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของทางรัฐบาล ที่ทำให้ตลาดเริ่มกลับมามีสัญญาณบวก โดยสามารถสร้างยอดขายรวมได้ถึง 25,000 ล้านบาท คิดเป็น 48% ของเป้าทั้งปีที่ 52,000 ล้านบาท ทางด้านรายได้ ครึ่งปีแรกทำได้ร่วม 20,000 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าทั้งปีที่ 43,000 บาท โตขึ้น 8% (เทียบ Year on Year) กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ทั้งในด้านรายได้และกำไรสุทธิเมื่อเทียบในกลุ่มบริษัทจดทะเบียนหมวดพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของประเทศไทย  

 

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า