แสนสิริ นำร่อง Green Supply Chain ชวนคู่ค้า สู้วิกฤตโลกเดือด สู่การเติบโตเป็นเศรษฐกิจสีเขียวอย่างยั่งยืน 

ภาวะโลกเดือด เป็นสถานการณ์ที่สภาพอากาศของโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว คนทั้งโลกกำลังเผชิญและส่งผลกระทบในวงกว้างต่อสังคม ความรับผิดชอบต่อสภาวะนี้ ไม่เพียงแต่กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด แต่ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ร่วมกัน แสนสิริ ชวนคู่ค้าและพันธมิตรสร้างความยั่งยืนด้วย Green Supply Chain เพื่อรับมือกับภาวะโลกเดือด ที่ส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ตอกย้ำผู้นำของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายแรกของไทย ที่ตั้งเป้าสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) ร่วมกัน

[ แสนสิริ นำร่องโมเดล Green Supply Chain เติบโตอย่างยั่งยืน ] 

‘อุทัย อุทัยแสงสุข’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)

‘อุทัย  อุทัยแสงสุข’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) พูดถึง Green Supply Chain โมเดล  ในงาน SANSIRI ECOLEADERSHIP FORUM: Change Today, Chance Tomorrow ไว้ว่า ภาวะโลกเดือดไม่ใช่เรื่องไกลตัว ทั้งโลกกำลังเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ภาคธุรกิจเป็นหนึ่งภาคส่วน ที่ต้องมีบทบาทในการแก้ไขปัญหานี้ และเป็นบทพิสูจน์สำคัญของแสนสิริ และ Green Leadership ที่จะร่วมกันปรับธุรกิจ กำหนดเส้นทาง สู่อนาคตที่ยั่งยืน และเติบโตไปด้วยกัน ด้วยการเปลี่ยนผ่านการดำเนินธุรกิจบน แนวทาง ESG (Environment – Social – Governance) โดยนำความยั่งยืนมาเป็นกลยุทธ์ ในการดำเนินงานของบริษัทอย่างจริงจัง ร่วมมือกับพันธมิตรและสนับสนุนให้ Green Partner เติบโตไปด้วยกัน

โดยมีการวางแผนดำเนินการ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกองค์กร 3 ระดับ

แผนระยะสั้นในปี 2025 เพื่อลดคาร์บอนลง 20% (ล่าสุดปี 2023 ทำได้ 15%)

แผนระยะกลางปี 2033 ตั้งเป้าที่ 50%  พร้อมมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในแผนระยะยาวปี 2050

แสนสิริ มีผู้ประกอบการที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานทั้งสามด้าน คือ Green Architecture and Design, Green Construction, Green Procurement ราว 4,000 ราย สามารถผลักดันให้เกิดเครือข่ายการทำงานใน Green Ecosystem ที่แข็งแกร่ง ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่เปิดโอกาสใหม่ ๆ ในการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาด Green Economy มากขึ้น

[ เตรียมพร้อมรับกติกาใหม่ ‘พ.ร.บ.โลกร้อน’ ]

‘ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช’ อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม

‘ดร. พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช’ อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า เป็นเรื่องใกล้ตัว และส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนทั้งทางตรงและทางอ้อม ในส่วนของภาคธุรกิจ การปรับตัวเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้จากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรวมถึงการปรับเปลี่ยนธุรกิจ และอุตสาหกรรมให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เท่าทันกระแสการบริโภคและการค้ายั่งยืน  ประเทศไทยตั้งเป้าสู่ net zero ในปี 2065 โดยกติกาใหม่ ของร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ นั้นประกอบด้วย 14 หมวด เป็นการปรับปรุงจากเดิมและเพิ่มเติมเข้ามาใหม่

Change Today, Chance Tomorrow  

[ SME  คือฟันเฟืองเชื่อมเศรษฐกิจ ]

‘แสงชัย ธีรกุลวาณิช’ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย

‘แสงชัย ธีรกุลวาณิช’ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า SME มีส่วนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก การปรับเปลี่ยนธุรกิจ SME ทำให้เกิด Green Economy ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องร่วมมือกัน ความยั่งยืนพื้นฐานการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philosophy; SEP) ให้ความสำคัญกับคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ ที่มีการพัฒนาและจัดการองค์ความรู้ในทุกระดับขององค์กร มุ่งสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นคุณธรรมในการบรรลุยุทธศาสตร์และกลยุทธ์องค์กรที่รองรับการเปลี่ยนแปลง นำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability) โดยสร้างการมีส่วนร่วมทุกระดับขององค์กร มุ่งยกระดับขีดความสามารถ เพื่อเพิ่มคุณค่าและก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มกับระบบนิเวศธุรกิจที่ตอบโจทย์เศรษฐกิจและสังคมพอเพียงเพื่อความยั่งยืน (Sufficiency for Sustainability)

[ การดีไซน์ ต้องโอบรับความยั่งยืน ]

‘ศรีอำไพ รัตนมยูร’ ประธานผู้บริหารสายงานการตลาด บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)

‘ศรีอำไพ รัตนมยูร’ ประธานผู้บริหารสายงานการตลาด แสนสิริ กล่าวว่า การออกแบบเป็นการขับเคลื่อนความยั่งยืนเพราะการออกแบบถือเป็นต้นน้ำในการพัฒนาโครงการ   การร่วมมือกันสามารถสร้างความยั่งยืนระยะยาวได้  ในโอกาสปีที่ 40 แสนสิริเราได้ Challenge ตัวเอง ภายใต้แนวคิด Design for Future และหนึ่งในแกนหลักการออกแบบที่สำคัญคือ Design for Sustainability ที่พร้อมโอบรับความยั่งยืน รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ผสานแนวคิดความเข้าใจธรรมชาติ  มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้งานได้จริง เช่น การนำเศษวัสดุจากการสร้างบ้านมาต่อยอด กลับมาใช้ประโยชน์อีกครั้งผ่านโครงการ Waste to Worth (หินอ่อน กระเบื้อง ไม้), ออกแบบบ้านประหยัดพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ติดตั้งโซลาร์เซลล์ เป็นต้น ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการออกแบบ ที่มีเป้าหมายมุ่งสู่ความยั่งยืน

[ ภาคอสังหาฯ ถูกตั้งคำถามว่า เป็นกลุ่มที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ]

‘องอาจ สุวรรณกุล’ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงการแนวสูง บริษัท แสนสิริ จํากัด (มหาชน)

‘องอาจ สุวรรณกุล’ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาโครงการแนวสูง แสนสิริ กล่าวว่า แม้อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์จะไม่ใช่กลุ่มที่มีสัดส่วน การปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยตรง แต่ในห่วงโซ่ของธุรกิจนี้ ต้องใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง แสนสิริและคู่ค้าเราคำนึงถึงสิ่งนี้มาโดยตลอด และได้หาแนวทางและปรับกลไกการทำงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดความเสี่ยงทางธุรกิจในอนาคต แสนสิริ เรามีโรงงานพรีคาสท์สีเขียว เป็นรายแรกของอสังหาฯ ไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO9001 & ISO14001 ทั้งระบบบริหารงานคุณภาพ และระบบจัดการสิ่งแวดล้อม ได้รับการรับรองฉลากเขียวจากกระทรวง สามารถลดขยะจากโรงงานผลิตแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปได้มากถึง 98% รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยวางรากฐานให้การก่อสร้างยั่งยืน เช่น นำระบบ BIM (Building Information Modelling) มาใช้สำหรับการทำแบบก่อสร้าง และการวางแผนก่อสร้างเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพที่สูงที่สุด ลดการใช้ทรัพยากรมากที่สุดตลอดจนการพัฒนาแอปพลิเคชัน เพื่อติดตามความก้าวหน้าและบริหารจัดการทรัพยากรของโครงการ

[ Green Ecosystem คีย์ไดรฟ์สู่การเปลี่ยนแปลง ]

‘ประเสริฐ ตระการวชิรหัตถ์’ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดซื้อส่วนโครงการ สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย

‘ประเสริฐ ตระการวชิรหัตถ์’ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อส่วนโครงการ แสนสิริ กล่าวทิ้งท้ายว่า หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของแสนสิริ คือ การคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดและผลักดันให้คู่ค้า พัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อต่อยอดการพัฒนาที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ในเรื่องการจัดซื้อ เราให้ความสำคัญกับการคัดเลือกวัสดุโดยต้องผ่านการตรวจสอบ และรับรองตามมาตรฐานที่กำหนด วัสดุบางประเภทต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ ในการตรวจสอบและรับรองการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นอกจากนี้แสนสิริยังสนับสนุนการใช้วัสดุ ที่มีการรับรองจากองค์กรอื่น ๆ หรือการรับรองด้วยตัวเอง (Self-Certified) เพื่อให้มั่นใจว่าทุกกระบวนการ ในการพัฒนาโครงการ จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม อีกทั้งในแง่ของการผลิตวัสดุ คู่ค้าของเราเองก็ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมื่อเรานำผลิตภัณฑ์เหล่านี้มาใช้ บ้านที่เราส่งมอบให้กับลูกค้า และแสนสิริ พร้อมเปิดรับพาร์ทเนอร์เพิ่มขึ้น เพื่อแลกเปลี่ยนการสร้างนวัตกรรม ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปรับตัวเพื่อโลกของเราอีกด้วย

‘แสนสิริ’ ถ่ายภาพร่วมกับพาร์ทเนอร์กลุ่ม Green Architecture and Design

‘แสนสิริ’ ถ่ายภาพร่วมกับพาร์ทเนอร์กลุ่ม Green Construction

‘แสนสิริ’ ถ่ายภาพร่วมกับพาร์ทเนอร์กลุ่ม Green Procurement