SCB เปิดตัว EASY-D แก้ปัญหารายย่อยเข้าไม่ถึงหุ้นกู้ คราวนี้ย่อยแค่ไหนก็ลงทุนได้

SCB เปิดตัวบัญชีหุ้นกู้ EASY-D บริการรับฝากหุ้นกู้แบบไร้ใบบน SCB EASY App ช่วยนักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้มากขึ้น

‘ธนิก ธราวิศิษฏ์’ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Banking and Capital Markets ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2561-2565) ลูกค้าหันมาใช้บริการการเงินผ่านทางออนไลน์มากขึ้น

ยกตัวอย่างการใช้งานโมบายแบงกิ้งที่ในปีล่าสุด (2565) มีผู้ใช้งานกว่า 96 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้น 108% จากปี 2561 ที่ 46 ล้านบัญชี สวนทางกับการให้บริการผ่านสาขาธนาคารที่ทยอยลดลงต่อเนื่อง ปัจจุบันที่ 5,727 สาขา ลดลง 17.5% จากปี 2561 ที่ 6,945 สาขา

แม้ว่าเทรนด์ผู้บริโภคจะหันมาใช้บริการออนไลน์มากขึ้น แต่ตลาดหุ้นกู้กลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะนักลงทุนกว่า 75% ยังคงเลือกถือหุ้นกู้ที่เป็นใบ มากกว่าการฝากหุ้นกู้ไร้ใบ (Scripless Bond) กับผู้รับฝากสินทรัพย์ (Custodian)

เช่นเดียวกับลูกค้า SCB EASY ที่แม้จะจองซื้อหุ้นกู้ออนไลน์กว่า 1 แสนรายในปีที่ผ่านมา แต่ 90% ยังเลือกเก็บหุ้นกู้เป็นใบ เพราะไม่มีบัญชีของบริษัทหลักทรัพย์ที่ทำหน้าที่เป็น Custodian ซึ่งจำเป็นต่อการฝากหุ้นกู้ออนไลน์

โดยธนาคารฯ พบว่า มีช่องโหว่ระหว่างนักลงทุนหุ้นกู้ 1.7 แสนราย และลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) 2.2 ล้านราย เพราะคนที่ซื้อหุ้นกู้ ไม่ใช่คนที่เปิดบัญชีกับบริษัทหลักทรัพย์เพื่อเทรดหุ้นทั้งหมด

จึงเป็นที่มาของ ‘บัญชีหุ้นกู้ Easy-D บริการรับฝากหุ้นกู้แบบไร้ใบ’ บน SCB Easy App ที่อยากให้นักลงทุน ซื้อ ขาย และฝากหุ้นกู้บนดิจิทัล ซึ่งสะดวกและง่ายกว่า ไม่ต้องมีบัญชีโบรกฯ ก็ใช้บริการได้

นอกจากความง่ายและสะดวกแล้ว EASY-D อยากช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้ได้มากขึ้น จากเดิมการจองซื้อหุ้นกู้มักจำกัดให้นักลงทุนที่มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth) และกำหนดมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำไว้ค่อนข้างสูง

โดย SCB มีแผนออกหุ้นกู้ผ่าน EASY-D ซึ่งสามารถจองซื้อขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยใช้ระบบแบบ First Come, First Served หรือ ‘มาก่อนได้ก่อน’ และไม่มีค่าธรรมเนียม

เบื้องต้นจะให้บริการกับหุ้นกู้ที่จองซื้อผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ก่อน และเฟสถัดๆ ไปจะขยายบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

นอกจากความสะดวกสบายของนักลงทุนแล้ว SCB คาดว่า EASY-D จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้การออกหุ้นกู้ในตลาดเพิ่มขึ้นจากการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งผู้ออกหุ้นกู้ (Issuer) มีโอกาสเข้าถึงนักลงทุนกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น

สำหรับภาพรวมตลาดหุ้นกู้ในประเทศ ยังเห็นการเติบโตต่อเนื่อง (ยกเว้นปี 2563 ที่เผชิญกับโควิด-19) โดยเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.3% และในปีที่ผ่านมา (2565) ตลาดหุ้นกู้เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.2 ล้านล้านบาท

ขณะที่แนวโน้มปีนี้ คาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตใกล้เคียงจากปีก่อนที่ประมาณ 1 ล้านล้านบาท ส่วนหนึ่งมาจากหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระประมาณ 7 แสนล้านบาท และที่เหลือเป็นการระดมทุนใหม่เพื่อขยายธุรกิจ

โดยกลุ่มธุรกิจที่เห็นแนวโน้มจะออกหุ้นกู้ปีนี้ค่อนข้างสูง ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มพลังงาน (ทั้งพลังงานรูปแบบเดิมและพลังงานสะอาด) และกลุ่มโรงไฟฟ้า

ในส่วนของความต้องการลงทุน พบว่าในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ นักลงทุนมีความต้องการซื้อหุ้นกู้ค่อนข้างสูง ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน

สะท้อนจากยอดจองหุ้นกู้แต่ละบริษัทที่มากเกินความต้องการขาย (Overbooking) ซึ่งคาดว่าได้แรงหนุนจากภาวะดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้ผลตอบแทนหุ้นกู้จูงใจนักลงทุนมากขึ้น

สำหรับนักลงทุนที่สนใจลองใช้บริการ SCB EASY-D สามารถลงทะเบียนได้ผ่านแอปพลิเคชัน SCB EASY โดยวันที่ 5 เม.ย.นี้ ธนาคารฯ จะเปิดให้จองซื้อหุ้นกู้ออนไลน์ผ่าน SCB EASY-D เป็นครั้งแรก

คุณสมบัติผู้สมัครบัญชีหุ้นกู้ EASY-D

1. สัญชาติไทยและอายุ 20 ปีขึ้นไป

2. มีบัญชีเงินฝากและผูกกับแอป SCB EASY แล้ว

3. มีอีเมลที่ยืนยันแล้ว และ เบอร์โทรศัพท์มือถือ

4. ยืนยันตัวตนกับธนาคารแล้ว

ขั้นตอนการสมัครใช้บริการ SCB Easy-D