SHARE

คัดลอกแล้ว

สำนักงาน ก.ล.ต.ยกเครื่องปรับปรุงหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ฟื้นความเชื่อมั่นตามแผนยุทธศาสตร์ที่มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อถือ (Trust & Confidence)

‘พรอนงค์ บุษราตระกูล’ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า หลังจาก ก.ล.ต. ได้จัดทำโครงการ ‘บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์เข้มแข็ง’ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. ที่มุ่งสร้างความเชื่อมั่นและเชื่อถือ (Trust & Confidence) เพื่อยกระดับคุณภาพของบริษัทจดทะเบียนและบุคลากรในตลาดทุน

ในการประชุมครั้งที่ 2/2567 เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2567 มีมติเห็นชอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เสนอมา โดยมีรายละเอียดดังนี้

(1) ปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่กำหนดคุณสมบัติของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) โดยจะมีการปรับเกณฑ์พิจารณาฐานะการเงิน 

 สำหรับบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนใน SET 

– กำไรล่าสุดถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 75 ล้านบาท จากเดิมที่ 30 ล้านบาท

– กำไรในช่วง 2-3 ปีล่าสุด ต้องอยู่ที่ 125 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องมี 50 ล้านบาท

– ส่วนผู้ถือหุ้นหลัง IPO ต้องอยู่ที่ 800 ล้านบาท จากเดิม 300 ล้านบาท

– ทุนชำระแล้วหลัง IPO ลดลงมาอยู่ที่ 100 ล้านบาท จากเดิม 300 ล้านบาท

– การกระจายการถือหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย กรณีทุนจดทะเบียนชำระแล้วน้อยกว่า 300 ล้านบาท จากเดิมที่ไม่มีกำหนด ปรับเป็น รวมกันไม่น้อยกว่า 30% ของทุนชำระแล้ว

– จำนวนเสนอขาย IPO หากทุนจดทะเบียนชำระแล้วน้อยกว่า 300 ล้านบาท จากเดิมที่ไม่กำหนด ปรับเป็นต้องเสนอขายไม่น้อยกว่า 20% หรือ 60 ล้านบาท

ส่วนบริษัทที่จะเข้ามาจดทะเบียนใน mai 

– กำไรล่าสุดถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 25 ล้านบาท จากเดิมที่ 10 ล้านบาท

– กำไรในช่วง 2-3 ปีล่าสุด ต้องอยู่ที่ 40 ล้านบาท จากเดิมที่ไม่กำหนด

– ส่วนผู้ถือหุ้นหลัง IPO ต้องอยู่ที่ 100 ล้านบาท จากเดิม 50 ล้านบาท

– การกระจายการถือหุ้นรายย่อย กรณีทุนจดทะเบียนชำระแล้วน้อยกว่า 300 ล้านบาท จากเดิมที่ไม่มีกำหนด ปรับเป็นรวมกันไม่น้อยกว่า 30% ของทุนชำระแล้ว

– จำนวนเสนอขาย IPO ปรับให้ใช้เกณฑ์เดียวกับ SET คือ ทุนจดทะเบียนชำระแล้วน้อยกว่า 300 ล้านบาท ต้องเสนอขายไม่น้อยกว่า 20% หรือ 60 ล้านบาท ทุน 300-500 ล้านบาท เสนอขาย 15% และมากกว่า 500 ล้านบาท ต้องเสนอขายไม่น้อยกว่า 10% หรือ 75 ล้านบาท

การปรับกฏเกณฑ์การเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีความมุ่งหวังเพื่อให้บริษัทที่เข้ามาผ่านการคัดกรองที่ดีและเข้มงวดมากขึ้นตั้งแต่ประตู่ด่านแรก

(2) ปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อทำให้กระบวนการพิจารณาคุณสมบัติของบริษัทที่จะจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) และการย้ายกลับมาซื้อขาย (Resume Trade) มีความเข้มข้นเทียบเท่ากับการเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO)

(3) ปรับปรุงกฎเกณฑ์เพื่อยกระดับการแจ้งเตือนผู้ลงทุน และการเพิกถอนบริษัทที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยหลังจากวันที่ 1 เมษายน 2567 จะมีการยกระดับมาตรการการขึ้นเครื่องหมาย ซึ่งทาง ก.ล.ต. และ ตลท. ได้เพิ่มเกณฑ์ขึ้นเครื่องหมาย ได้แก่

– บริษัทจดทะเบียน (บจ.) ขาดทุนสุทธิ 3 ปีติดต่อกันจนส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าทุนชำระแล้ว

– มีการผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงินหรือตราสารหนี้งบการเงินที่ไม่มีการแสดงความคิดเห็นใดๆ 

– มีรายได้จากการดำเนินงานประจำปีต่ำ สำหรับ SET ต่ำกว่า 100 ล้านบาท และ mai ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากบจ.เข้าข่ายผิดเกณฑ์ดังกล่าว จะถูกขึ้น C เป็นอันดับแรก และจะมีการกำหนดระยะเวลาเพื่อปรับแก้ไข แต่หากบจ.ไม่สามารถแก้ไขได้ตามระยะเวลาจะมีการยกระดับเครื่องหมายเพิ่มเติมทั้ง SP และ NC ซึ่งจะนำไปสูเหตุเพิกถอนในท้ายที่สุด

(4) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นและผู้ถือหน่วยสำหรับบริษัทจดทะเบียน ทรัสต์ และกองทุนต่าง ๆ

โดยการปรับเกณฑ์พิจารณาฐานะการเงินจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 ส่วนกรณี Backdoor Listing และ Resume Trade รวมถึงการยกระดับการแจ้งเตือน จะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 2567

ส่วนกรณีสุดท้ายการปรับปรุงหลักเกณฑ์การเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้น คาดว่าจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังอยู่ระหว่างการทบทวนหลักเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อยกระดับคุณภาพของบริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เช่น ปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำรายการที่มีนัยสำคัญ (MT) และการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน (RPT) เพื่อกำหนดหน้าที่ให้บริษัทจดทะเบียนต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนให้ชัดเจนเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เพื่อกำหนดให้ต้องยื่นงบการเงินย้อนหลัง 3 ปีล่าสุดที่ผ่านการตรวจสอบและเป็นไปตามมาตรฐานการจัดทำรายงานทางการเงิน Publicly Accountable Entities (PAE) เริ่มบังคับใช้แล้ว สำหรับบริษัทที่จะขอยื่นเสนอขายหุ้น IPO ในปี 2567

รวมทั้งการยกระดับการทำหน้าที่ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนเพื่อส่งเสริมให้บุคลากรซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในบริษัทจดทะเบียน (Line of defense) เช่น กรรมการ กรรมการตรวจสอบ กรรมการอิสระ ผู้บริหารและเลขานุการ

รวมถึงผู้ประกอบวิชาชีพ (Gatekeeper) เช่น ผู้สอบบัญชีและที่ปรึกษาทางการเงิน ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องและเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทจดทะเบียน พร้อมทั้งเดินหน้าส่งเสริมความรู้และความคุ้มครองให้ผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ยังรวมถึงการทบทวนหลักเกณฑ์และมาตรการในการซื้อขายหลักทรัพย์ให้รัดกุมมากยิ่งขึ้น เช่น ทบทวนเกณฑ์การกำหนดวงเงินลูกค้า การพิจารณาคุณภาพหลักประกัน และการปรับปรุงหลักเกณฑ์เพื่อไม่ให้คนไทยซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิงไทย หรือ Non-Voting Depositary Receipt (NVDR)

รวมทั้งร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ศึกษาแนวทางการออกเกณฑ์ Auto Halt หรือหยุดการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราวสำหรับหุ้นที่มีการซื้อขายผิดปกติ โดยคาดว่าจะมีการออกหลักเกณฑ์และนำมาปฏิบัติได้ภายในปี 2567

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า