ย้อนดู มาตรา 44 เด้งข้าราชการหลายร้อยตำแหน่ง ผู้ว่าฯ กกต. ยัน องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น

หลังจาก ม.44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พุทธศักราช 2557 ประกาศใช้แทนกฎอัยการศึก ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2558 เป็นต้นมา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะ หัวหน้า คสช. ได้ใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ออกคำสั่งอำนาจตามความใน ม.44 ปลด โยกย้ายลดตำแหน่ง ระงับการปฏิบัติหน้าที่ ไปแล้วกว่า 34 ฉบับ ในเกือบๆ 500 ตำแหน่ง ส่วนมากระบุว่าเพื่อประสิทธิภาพความเหมาะสมในการทำงาน และเพื่อเปิดทางให้ตรวจสอบการทุจริตของเจ้าหน้าที่

หากย้อนประกาศดูคำสั่งพบว่า หัวหน้า คสช. ให้อำนาจ ม.44 สั่งปลด โยกย้ายเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ 3 ตำแหน่ง สั่งปลด ผู้ว่าฯ กทม. ที่มาจากการเลือกตั้ง 1 ตำแหน่ง โยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด 11 ตำแหน่ง

สั่งปลด โยกย้าย ระงับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน รวม 24 ตำแหน่ง ส่วนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นโดนไปกว่า 304 ตำแหน่ง

องค์กรอิสระ 3 ตำแหน่ง

สั่งปลด นายสมชัย ศรีสุทธิยากร พ้นกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2561 โดยอ้างว่าพูดเป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้ง

ปลด นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ พ้นประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2558 เพื่อให้การทำงานของ ป.ป.ช. เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ

ย้าย นายประเสริฐ อภิปุญญา พ้นตำแหน่งกรรมการติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงาน สํานักงาน กสทช. ย้ายไปประจำที่สำนักงานปลัดกระทรวงไอซีที (ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2558 ให้เหตุผลว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อกล่าวหาทุจริตและประพฤติมิชอบ

ที่มา ราชกิจจานุเบกษา

ผู้ว่าฯ กทม.- ผู้ว่าฯ จังหวัด 12 ตำแหน่ง

สั่งปลด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้น ผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2559 อ้างเพื่อเปิดทางตรวจสอบข้อกล่าวหาต่างๆ และให้การทำงานมีประสิทธิภาพ

ย้าย ผู้ว่าราชการจังหวัดรวม 11 จังหวัด ได้แก่ ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ,ตาก, จันทบุรี, ปัตตานี, กาญจนบุรี, กาฬสินธุ์, เชียงราย, ภูเก็ต, ราชบุรี, สิงห์บุรี ไปเป็นผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อ้างให้เกิดความเหมาะสมในการทำงาน และย้ายผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ไปประจำสํานักงานปลัดกระทรวง เนื่องจากถูกร้องเรียนปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริต

ที่มา ราชกิจจานุเบกษา

รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน รวม 24 ตำแหน่ง

สั่งย้าย นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร พ้นผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจําสํานักนายกรัฐมนตรี และปลดกรรมการการ รฟท. ยกชุด 7 ตำแหน่ง เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2560 อ้างอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อร้องเรียนทุจริตการประมูลจัดซื้อจัดจ้างโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ ของ รฟท.

ปลดกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 7 ตำแหน่ง อ้างเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของงาน อันเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปราชการแผ่นดิน

ปลดกรรมการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) 4 ตำแหน่ง โดยอ้างว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นไปตามสมควร

ย้ายผู้มีตำแหน่งใน สสว. 3 ตำแหน่ง ไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐประจําสํานักนายกรัฐมนตรี อ้างเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน

ปลด ผอ. และรอง ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) รวม 2 ตำแหน่ง เพื่อให้การบริหารภายในเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ที่มา ราชกิจจานุเบกษา

องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 304 ตำแหน่ง

สั่งปลด กรรมการพนักงานส่วนตำบล จ.สมุทรสาคร 7 ตำแหน่ง พักงานเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรวม 193 ตำแหน่ง และโยกย้ายปฏิบัติราชการในตำแหน่งอื่นรวม 104 ตำแหน่ง

อ้างว่าเพื่อประสิทธิภาพเหมาะสมในการทำงาน ข้าราชการบางตำแหน่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ หรือถูกร้องเรียนปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในพื้นที่

ที่มา ราชกิจจานุเบกษา