‘เสรี’ ประเดิมจวกรัฐบาล แก้ระเบียบให้คนไม่ติดคุก แนะเลิกแจกเงิน ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ พร้อมติงเรื่องบริหารเวลา นายกฯ จิบไวน์-สูดฝุ่น เมิน สว. ขอเปิดอภิปรายปัญหาบ้านเมือง ด้าน ‘เศรษฐา’ ยันให้ความสำคัญ พร้อมแจงเดินทางต่างประเทศจำเป็น ไปเชียงใหม่ครั้งล่าสุดไม่ได้ดื่มไวน์ เหตุไม่สบาย
การประชุมวุฒิสภา (สว.) วันนี้ (25 มี.ค. 67) เปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 153 โดยจะมี สว. จำนวน 27 คน อภิปรายรัฐบาล แบ่งออกเป็น 8 กลุ่มปัญหา
โดยสรุป นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. เริ่มแถลงต่อที่ประชุม ติงการบริหารเวลาของรัฐบาล ไม่ให้ความสำคัญต่อการขอเปิดอภิปรายของ สว. แทนที่จะมารับฟังว่าการบริหารราชการแผ่นดินมีปัญหาอะไร กลับให้เวลากับเรื่องอื่นที่มีความสำคัญน้อยกว่า เช่น การเดินทางไปต่างประเทศ หลายประเทศหลายครั้ง และยังเอาเวลาไปสูดฝุ่นควัน จิบไวน์ที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้พรรคฝ่ายค้านชิงตัดหน้าลงไปตรวจดูการดับไฟป่า
“ท่านนายกฯ มาเองวันนี้ ก็เป็นไปตามที่ผมภาวนา ผมก็ห่วงท่านนายกฯ จะอยู่ไม่ถึงวันที่ 25 มีนาคม คือวันนี้ แต่สิ่งที่ผมภาวนานั้นได้ผล ทำให้ท่านนายกฯ และคณะมาประชุมกันร่วมกันกับวุฒิสภาวันนี้ถือว่าเป็นประโยชน์กับรัฐบาลเอง” นายเสรี กล่าว
ส่วนการจ่ายเงินดิจิทัล ก็เห็นว่า อาจจะมีปัญหาในเรื่องข้อกฎหมายและมีองค์กรทักท้วง โดยเฉพาะเงินที่จะก่อหนี้มากถึง 5 แสนล้านบาท พร้อมแนะทำโรงทานดีกว่าแจกเงิน การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไม่ใช่อย่างที่รัฐบาลทำ เช่น กระทรวงพาณิชย์ ไปจัดอีเวนต์ ตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งไม่ได้ช่วยเหลือคนมีรายได้น้อยอย่างแท้จริง ถ้าจะทำจริงๆ รัฐบาลต้องเปิดตลาดชุมชนให้คนขายของทุกวัน ส่วนการไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ใช่ไปแบบเซลล์แมน แต่ต้องไปแบบซีอีโอ (CEO) เซลล์แมนควรให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ทำเพราะกระทรวงพาณิชย์มีทูตพาณิชย์ ไม่ได้ประโยชน์ในภาพลักษณ์ภาพรวมอย่างเต็มที่
ส่วนเรื่องกระบวนการยุติธรรม ผลงานดีเด่นของรัฐบาลที่ทำอยู่ มีอยู่เรื่องเดียว คือช่วยคนทำผิดแล้วไม่ต้องรับโทษ กรมราชทัณฑ์มีการออกระเบียบหลายฉบับ ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย กลายเป็นผลงานของนายกรัฐมนตรี แต่กระบวนการยุติธรรมเสียหาย บอกว่าทำตามกฎหมาย แต่ออกกฎหมายออกระเบียบกันมาเอง กฎหมายที่ออกมาเหมาะสมหรือไม่ เป็นธรรมหรือไม่ สิ่งนี้เป็นปัญหา ตนต้องทักท้วงสิ่งที่ทำกันเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรมในประเทศ
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ลุกขึ้นชี้แจง หลังการอภิปรายของ สว.เสรี สุวรรณภานนท์ โดยนายกฯ ได้ลุกขึ้นชี้แจง ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ รัฐมนตรีทุกคนให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ ยินดีมาตอบด้วยความเต็มใจครับ ไม่เคยมีความคิดว่าทำไม 8-9 ปีมา ไม่เคยมีการเรียกอภิปรายในมาตรานี้ แล้วทำไมมาแค่ 7 เดือนถึงต้องมีเราทราบหน้าที่ดีอยู่ครับว่าเรามีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ที่ระบุไว้ เป็นเคยน้อยเนื้อต่ำใจ เป็นหน้าที่ของเราที่ต้องมาทำงาน มาตอบให้ทุกท่านกระจ่าง
ส่วนการที่เดินทางไปต่างประเทศ หลายครั้งเป็นความจำเป็นเป็นการไปประชุมระดับอาเซียน รวมทั้งขนบธรรมเนียม ที่ผู้นำใหม่ต้องไปเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆ ตนตระหนักถึงการใช้เวลาในการบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันมีการใช้เทคโนโลยีติดต่อรัฐมนตรี ข้าราชการเพื่อบริหารงานต่างๆ ส่วนการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ตนเดินทางไปก่อนหน้านี้หลายครั้ง เพื่อเตรียมการแก้ปัญหาฝุ่น แม้ยังมีอยู่แต่ปัจจุบันลดลงไปมาก สำหรับการลงไปพื้นที่ครั้งล่าสุด ได้ไปหลายจังหวัดด้วยก่อนประชุมครม.สัญจร ที่ว่ารับประทานไวน์นั้น วันนั้นรับรองได้ว่าไม่ได้ทาน เพราะตนไม่สบาย
“ที่บอกว่าวันนั้นผมไปทานไวน์ ผมจำได้นะครับ ธรรมดาก็ทาน แต่วันนั้นรับรองได้ว่าไม่ได้ทาน เพราะว่าไม่สบายอาจสับสนเรื่องการตั้งแก้ว” นายเศรษฐา กล่าว
เรื่องการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติ นายเศรษฐา ชี้แจงย้ำว่า การลงทุนเป็นแสนล้านหรือล้านล้านบาท ต้องใช้เวลามากกว่า 7 เดือนที่รัฐบาลนี้ได้บริหารประเทศ แต่ในวันพรุ่งนี้ (26 มี.ค. 67) 11.30 น. ประธานผู้แทนการค้า เลขาธิการบีโอไอ จะมีการแถลงข่าวจะทราบความคืบหน้าในการเดินทางนำคณะไปต่างประเทศ แม้งบประมาณยังไม่ออกมา ยืนยันไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้ช่วยเหลือประชาชน แต่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลักดันได้ไม่เต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน ขณะที่เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ซึ่งบ่ายวันนี้ รมช.คลัง จะแถลงไทม์ไลน์รายละเอียด
ผม และคณะรัฐมนตรีทุกท่านพร้อมชี้แจงและตอบข้อซักถามกับวุฒิสภาตามหน้าที่ โดยวันนี้ ผมได้ชี้แจงหลายประเด็นครับ
1. เรื่องการเดินทางไปต่างประเทศ ผมเดินทางตามความจำเป็น เนื่องจากต้องไปร่วมการประชุมที่สำคัญ เช่น UNGA และมีการเยือนตามธรรมเนียมการเข้ารับตำแหน่งใหม่ ผมเข้าใจถึงข้อกังวล… pic.twitter.com/wHk0RUkLOI
— Srettha Thavisin (@Thavisin) March 25, 2024