‘สว.พลเดช’ แฉ ‘สัมภเวสี’ รีดกล้วย แลกถอนอายัดยาง ด้าน ‘ธรรมนัส’ ท้าเปิดข้อมูล

‘พลเดช’ ซัด ทีมเฉพาะกิจ ก.เกษตรฯ ส่อทุจริต อายัดยางพารา ใช้อำนาจตั้งด่านซ้อนด่าน พร้อมทิ้งท้าย “ที่นี่ยางพาราไม่ใช่แป้ง” ด้าน ‘ธรรมนัส’ ยัวะ ท้า มีข้อมูลส่งมา ถามกลับคนที่ร้องเรียนเป็นเครือญาติหรือไม่

ในการประชุมวุฒิสภา (สว.) เพื่อพิจารณาญัตติด่วน ขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริง หรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 153

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป สว. อภิปรายตอนหนึ่ง ได้กล่าวถึงหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ ‘พญานาคราช’ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้อายัดยางของชาวบ้าน กรณีตัวอย่าง ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้มีการเซ็นคำสั่งให้ฝ่ายนิติกรในพื้นที่ ดำเนินคดีกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) แห่งหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถแสดงเอกสารที่มาของยางก้อนจำนวน 29 ตัน เอกชนดังกล่าวเป็นผู้รับซื้อยางก้อนจากชาวบ้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่อายัดยางก้อนไว้ 600 ตันเศษ (6 แสนกิโลกรัม) มูลค่าประมาณ 15 ล้านบาทเศษ ผ่านไป 1 เดือนไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา เพราะชาวบ้านสามารถยืนยันว่ายางก้อนเหล่านั้นไม่ผิดกฎหมาย แต่ไม่ถอนอายัด ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ จนยางก้อนความเสียหายไปตามธรรมชาติ

สว.พลเดช กล่าวต่อว่า คณะที่ปรึกษา ของ สว. ได้ลงพื้นที่ช่วยหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ทางนายอำเภอเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกัน ผลการหารือมีการลงนามความเข้าใจร่วมกัน ให้ถอนอายัดยางก้อน 600 ตันเศษ แต่หลังจากนั้นล่วงเลยมา 6 เดือน ยังไม่มีการถอนอายัดใดๆ ผู้ประกอบการประสานไปยังรองอธิบดีผู้เซ็นคำสั่ง เพื่อขอทราบสาเหตุที่ไม่ทำตามที่บันทึกความเข้าใจร่วมกัน แต่คำตอบที่ได้คือ ให้ไปเคลียร์กับที่ปรึกษารัฐมนตรี แล้วที่ปรึกษารัฐมนตรีคนไหนไม่มีใครบอกว่าจะใช่คนที่กำลังวุ่นวายกับ ที่ดิน ส.ป.ก. อุทยานฯ เขาใหญ่หรือไม่ ไม่ทราบ รัฐมนตรีคงจะมีงานยุ่งมาก ไหนจะเรื่อง ส.ป.ก. หมูเถื่อน เรื่องเหล่านี้พอเข้าใจกันได้

คณะทำงานยังได้ทราบจากเจ้าทุกข์เพิ่มเติมว่า นอกจากชุดเฉพาะกิจนี้แล้ว ยังมีทีมงานอีกชุดที่ประกบตามเข้ามา ทีมนี้มีคำขวัญว่า “เจอ จ่าย จบ ไม่จ่าย เป็นเจ็บ” ชาวบ้านเรียกว่า “ชุดสัมภเวสี” ในวันที่ผู้ประกอบการเข้ามาร้องทุกข์ร้องเรียนต่อ สว. อยู่นั้น ทีมงานชุดสัมภเวสี ได้เชิญผู้ประกอบการไปคุย และเรียกรับกล้วย 1 กิโลเป็นเครื่องเซ่น ให้เหตุผลว่าเพื่ออำนวยความสะดวกในการถอนอายัด แม้เจ้าทุกข์จะขอต่อรอง เหลือ 7 ขีดก็ไม่ยอม นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มอิทธิพล มาจาก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เข้ามาแจ้งความดำเนินคดี เอกชนดังกล่าว ต่อ สภ.สังขละบุรี ซ้ำไปอีกดอก โทษฐานนำยางเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต

สว.พลเดช กล่าวอีกว่า นับจากชุดเฉพาะกิจเข้ามาทำงาน ในพื้นที่ อ.สังขละบุรี วิถีชีวิตของประชาชนเปลี่ยนไปอย่างมาก จนถึงอย่างมากที่สุด เพราะด้านหนึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามจากประเทศเพื่อนบ้านแล้วอีกด้านยังถูกซ้ำเติมจากอิทธิพลของบรรดาพญานาคสายพันธุ์ไทยอีกด้วย ฉก.พญานาคราช ตั้งด่านเข้มงวดยิ่งขึ้น จนเกิดสภาพด่านซ้อนด่าน คือหมายถึงด่านเกษตรไปซ้อนด่านความมั่นคงที่มีอยู่แล้ว ซื้อหอมหัวแดง 10 กิโลเมตร ซื้อหมากพลู 5-10 ใบต้องมีเอกสารแสดง ถ้าไม่มีก็ต้องถูกอายัดทันที

สว.พลเดช กล่าวด้วยว่า มีเสียงเล็ดลอดออกมาว่าที่มีการตั้งด่านเข้มงวด เพราะมีการแอบแฝงต้องการใช้อำนาจอิทธิพล จัดการคู่แข่ง ใครจ่ายก็ผ่านได้ เริ่มเดือนมกราคมปีใหม่ที่ผ่านมา ก็จัดคิวใหม่ ราคา 1 พันบาท กลายเป็น 5 พันบาท ต่อรถบรรทุกยางพารา 1 คัน

“กระผมอยากขอฝากไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหัวหน้าพรรคการเมืองที่รับผิดชอบ รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก ขอจงบำบัดปัดเป่า ความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน และชาติบ้านเมืองของเราด้วยเทอญ เพราะที่นี่คือยางพาราไม่ใช่แป้ง ขอบคุณครับท่านประธาน” สว.พลเดช กล่าวทิ้งท้าย

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ลุกขึ้นชี้แจงโดยสรุปกล่าวว่า เรื่องยางพาราที่นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะด่านสังขละบุรี เป็นประเด็นที่รัฐบาลติดตามให้ความสนใจ ตนเคยประกาศว่าจะทำสงครามกับสินค้าเถื่อนทุกประเภท แต่มีความศรัทธาต่อองค์กรนี้ แต่พอฟัง นพ.พลเดช พูดถึงความเดือดร้อนของประชาชน ใน อ.สังขละบุรี ทำให้ตนรู้สึกในทางที่ไม่ค่อยจะดี

“เพราะทุกคำพูดที่ท่านพูด แม้กระทั่งคำพูดสุดท้าย ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านของเมือง ท่านเป็นอดีตถึงนายแพทย์ ท่านทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำที่ทิ่มตำตัวผม ผมไม่สามารถที่กลับย้อนไปอดีตได้ ผมเลือกที่จะอะไรเพื่อบ้านเพื่อเมืองเพื่อแผ่นดิน ท่านบอกว่าประชาชนใน อ.สังขละบุรีเดือดร้อน ผมถามกลับไปหาท่านว่าประชาชนตรงไหนเหรอครับ เพราะสิ่งที่รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในสินค้าผ่านทางทุกประเภทไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ คือประชาชนชาวสังขละบุรีเขาร้องมาว่าเดือดร้อน เนื่องจากยางที่กองอยู่ตรงนั้นมันส่งกลิ่นเหม็น กระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้น”

“ผมทราบว่าผู้ประกอบการที่มาร้องท่านก็เป็นเครือญาติของพวกท่านนั่นแหละครับ ดังนั้นสิ่งที่ท่านบอกว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยชุดพญานาคราช มีการเรียกร้องรับผลประโยชน์ ท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ อีกไม่กี่วันท่านก็จะหมดหน้าที่ไปแล้ว ขอให้ท่านช่วยผมเถอะครับ ช่วยชี้แจงว่าบุคคลใดที่ผมแต่งตั้งเป็นชุดพญานาคราช เป็นชุดเฉพาะกิจในการปราบปรามสินค้าเถื่อนประพฤติด้วยมิชอบ เรียกรับผลประโยชน์ท่านอย่ากล่าวหาแบบคลุมเครือไม่ชัดเจน เมื่อท่านกล้าเปิดหน้าแล้ว ต้องพูดให้สุดว่ามันผู้นั้นคือใคร ที่บังอาจเรียกรับผลประโยชน์” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ท่านกล่าวหาว่าชุดพญานาคราช ตั้งด่านซ้ำแล้วซ้ำอีก ซึ่งการตั้งด่านไม่ใช่ของชุดพญานาคราช แต่เป็นด่านของกรมวิชาการฯ ที่ตนเดินทางไปตรวจสอบเอง เพราะชาวบ้านร้องเรียนมาว่า มีพ่อค้าหัวใสไปปลูกยางฝั่งเพื่อนบ้านแล้วลักลอบนำเข้ามาขายในบ้านเรา สินค้าบางล๊อตส่งขายประเทศมาเลเซีย ท่านทราบหรือไม่ว่าสร้างความเสียหายเท่าไหร่ ในรอบกี่ปีที่ราคายางสูงขึ้น รัฐบาลเดินทางมาถูกต้อง แต่เมื่อท่านกล่าวหาว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ ท่านแจ้งมาเลย ยุคนี้ไม่มีมีบัญชีนาย บัญชีลูกน้อง การทำงานย่อมกระทบผู้เสียผลประโยชน์ กลุ่มพ่อค้านักธุรกิจหัวใส ที่ทำมาหากินเพราะความทุกข์ยากของเกษตรกร