SHARE

คัดลอกแล้ว

การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบที่ 2 ยังคงเป็นงานหนักสำหรับทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย เมื่อผลของการลงสนามนัดที่ 3 จบลงที่ไทยพ่ายแพ้เซอร์เบียไป 0-3 เซต 23-25, 17-25, 15-25 หมดโอกาสเข้ารอบต่อไปแน่นอนแล้ว เท่ากับว่าการแข่งขันในรอบที่ 2 นี้ทีมชาติไทยยังไม่สามารถควานหาชัยชนะได้เลย ลงสนามมา 3 นัดแพ้รวด

ซึ่งปัญหาของไทยในนัดนี้ก็ยังคงไม่ต่างจากการเจอกับแคนาดาและเยอรมนี คือการต้องรับมือกับความสูงใหญ่ของคู่ต่อสู้ ซึ่งถือว่าเป็นความเสียเปรียบที่สาวไทยต้องพบเจออยู่แล้วในการแข่งขันในเวทีระดับโลก และเนื่องจากสภาพร่างกายที่อ่อนล้าสะสมมาจนถึงนัดนี้ จึงทำให้ความเสียเปรียบดังกล่าวสามารถเป็นตัวชี้ขาดผลแพ้ชนะได้

 

ความสูงและบอลบุกที่รวดเร็วจุดเด่นเซอร์เบีย

สำหรับทีมชาติเซอร์เบียแล้ว ถือเป็นคู่แข่งที่หนักที่สุดเท่าที่ไทยต้องเจอมาในศึกชิงแชมป์โลกครั้งนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมีดีกรีเป็นเจ้าของแชมป์เก่ารายการนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้ว พ่วงด้วยเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ครั้งล่าสุดที่มหานครโตเกียว และเป็นทีมอันดับ 3 ของโลก ประสบการณ์ในเวทีระดับนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย

แม้จะมีการพักผู้เล่นหลักในช่วงแรกของเกมอย่าง เบียนกา บูซา มือตบหัวเสาคนสำคัญ และทิยานา บอสโกวิช ตัวตบตรงข้ามหัวเสา เจ้าของส่วนสูง 194 เซนติเมตร แต่ผู้เล่นคนอื่นๆ ที่โค้ช ดานิเอเล ซานตาเรลลี ส่งลงสนามไปแต่ละคนล้วนมีความอันตรายทั้งนั้น 

โดยผู้เล่นของเซอร์เบียที่ลงเจอกับไทย ต่างมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 190 เซนติเมตรขึ้นไป ซึ่งความสูงในระดับนี้ย่อมสร้างความได้เปรียบในการโจมตีจากหน้าเน็ต ซึ่งหากไทยจะป้องกันการจู่โจมในรูปแบบนี้ อาจจะต้องใช้ผู้เล่น 2-3 คนในการขึ้นบล็อก ซึ่งก็จะทำให้เป็นการเปิดพื้นที่ในแดนตัวเองไปด้วย

และรูปเกมก็เป็นอย่างที่ได้กล่าวมา เซอร์เบียอาศัยการเปิดเกมบุกที่รวดเร็วและหลากหลายทั้งจากหัวเสาและการบุกจากเส้น 3 เมตร การได้เปรียบเรื่องความสูงทำให้ในจังหวะจู่โจม สามารถเลือกเอาบอลไปลงยังตำแหน่งที่ต้องการได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ โดยดูได้จากสถิติที่ทีมชาติเซอร์เบียสามารถทำคะแนนได้จากการโจมตีถึง 48 คะแนน คิดเป็น 64 เปอร์เซ็นต์ของคะแนนที่ทำได้ทั้งหมด  

เซอร์เบียสามารถทำเกมบุกจู่โจมไทยได้จากทุกจุดของสนาม โดย โบจานา มิเลนโควิช และ อนา บีเจลิกา คือ 2 ผู้เล่นกำลังสำคัญ ทำคะแนนรวมกันในเกมบุก 24 คะแนน ขณะที่ลำดับ 3-5 ก็ทำคะแนนกันได้คนละ 7 คะแนนขึ้นไปทั้งนั้น 

ในทางกลับกัน ผู้เล่นของไทยที่ทำคะแนนได้เกิน 7 แต้ม มีเพียงแค่ พิมพิชยา ก๊กรัมย์ คนเดียวเท่านั้น

กล่าวได้ว่านอกจากเซอร์เบียจะมีผู้เล่นที่มีความสูงใหญ่แล้ว ผู้เล่นแทบทุกคนก็สามารถจู่โจมและทำคะแนนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นจึงเป็นสาเหตุว่าทำไมในการแข่งขันครั้งนี้ พวกเธอยังไม่เคยแพ้ใครเลย หากรวมนัดนี้ที่เจอกับไทย ก็จะเป็นการชนะรวด 8 นัดเข้าไปแล้ว

 

ผนึกเกมบุกสาวไทย

ความสูงของผู้เล่นเซอร์เบียนอกจากจะทำให้เกมรุกมีประสิทธิภาพน่าเกรงขามแล้ว ก็ยังเป็นการป้องกันเกมรุกของทีมชาติไทยได้เป็นอย่างดี โดยเซอร์เบียสามารถทำคะแนนจากการขึ้นบล็อกได้ 11 คะแนนในเกมนี้

หลายครั้งที่การจู่โจมของไทยไม่สามารถผ่านบล็อกของเซอร์เบียได้ ทำให้ในเกมนี้ ไทยทำคะแนนจากการบุกจู่โจมเพียง 26 คะแนนเท่านั้น 

พิมพิชยา ก๊กรัมย์ และ อัจฉราพร คงยศ 2 ผู้เล่นตัวทำคะแนนสำคัญของไทยทำคะแนนรวมกันได้เพียง 13 คะแนน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับนัดที่ผ่านมา

 

ได้คะแนนจากความผิดพลาดของเซอร์เบีย

คะแนนของไทยที่ทำได้ในนัดนี้กว่าครึ่งหนึ่งมาจากการเล่นผิดพลาดของเซอร์เบีย ที่เสียคะแนนให้ไทยถึง 25 คะแนน นั่นเป็นเพราะเซอร์เบียตั้งใจเปิดเกมบุกอย่างเต็มที่ กล้าได้กล้าเสียเพราะพวกเธอเองสามารถปิดผนึกเกมรุกของทีมชาติไทยได้อย่างเด็ดขาด 

ความผิดพลาดของเซอร์เบียแม้จะทำให้เสียคะแนนมาก แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก เพราะไทยเองก็ไม่สามารถฉวยโอกาสหรือสร้างความกดดันให้กับเซอร์เบียได้ในนัดนี้ ซึ่งเป็นการบ้านสำคัญที่ทีมงานของไทยจะต้องหาทางแก้ไขต่อไป เพราะคู่แข่งของเราในเวทีระดับโลกล้วนมีรูปร่างที่สูงใหญ่ทั้งสิ้น

 

แม้จะตกรอบแต่ก็สร้างความประทับใจ

หลังจากจบการแข่งขันในนัดนี้ คงต้องยอมรับกันตามตรงว่าทีมชาติไทยตกรอบแบบแน่นอนแล้ว แม้ผลการแข่งขันในรอบที่ 2 จะไม่เป็นไปตามหวังโดยเฉพาะการพ่ายแพ้ต่อแคนาดาที่เราเป็นฝ่ายเอาชนะมาได้ตลอดหรือการแพ้ต่อเยอรมันที่มีอันดับโลกต่ำกว่าทีมชาติไทย

แต่เราต้องไม่ลืมว่าการแข่งขันชิงแชมป์โลกคือเวทีใหญ่ไม่ต่างจากโอลิมปิกเกมส์ ทุกทีมต่างเตรียมพร้อมและศึกษาข้อมูลทีมชาติไทยมาเป็นอย่างดี การลงสนามในแต่ละนัดจึงไม่ใช่งานง่าย อันนี้คือสิ่งที่อยากให้กองเชียร์ทุกคนเข้าใจ

นักกีฬาละทีมงานทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างเต็มที่แล้ว ผลการแข่งในรอบแรกคือสิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดี การเอาชนะได้ทั้งตุรกี โครเอเชีย เกาหลีใต้และโดมินิกัน ถือว่าเป็นผลงานที่วงการกีฬาไทยและโลกวอลเลย์บอลต้องจารึกไว้ ความผิดพลาดหรือข้อบกพร่องต่างๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชั้นดีที่จะถูกรวบรวมและนำกลับมาแก้ไขเพื่อพัฒนาวงการวอลเลย์บอลไทยต่อไป 

และทีมชาติไทยยังเหลือการลงสนามในนัดสุดท้ายกับสหรัฐอเมริกา โดยจะแข่งขันกันในวันเสาร์ที่ 8 ตุลาคมนี้ เวลา 19.45 น. ทางเวิร์คพอยท์ 23 เรามาร่วมส่งกำลังใจให้สาวไทยทิ้งทวนวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งนี้ไปด้วยกันครับ

 

บทความโดย : เต้นคุง แฟนพันธุ์แท้ฮีโร่เอเชียนเกมส์

*ที่มาภาพปก Volleyball World

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า