ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยวันนี้ (15 พ.ค. 2566) ดัชนี SET (SET Index) ปรับตัวลง 19.97 จุด หรือ 1.28% มาอยู่ที่ 1,541.38 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 68,382.81 ล้านบาท ระหว่างวันสูงสุดที่ 1,570.62 จุด และต่ำสุดที่ 1,536.82 จุด
โดยหุ้นที่มีการซื้อขายมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ
1. GULF ปิดที่ 48.00 บาท/หุ้น ลดลง 4.50 บาท หรือ 8.57%
2. CPALL ปิดที่ 64.75 บาท/หุ้น ลดลง 1.75 บาท หรือ 2.63%
3. ADVANC ปิดที่ 211.00 บาท/หุ้น ลดลง 10.00 บาท หรือ 4.52%
4. KBANK ปิดที่ 137.00 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.11%%
5. AOT ปิดที่ 73.25 บาทต่อหุ้น ทรงตัวจากวันก่อนหน้า
‘สรพล วีระเมธีกุล’ หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับลงเป็นส่วนใหญ่จากผลการเลือกตั้ง หลังนักลงทุนประเมินว่า แม้ 5 พรรครัฐบาล จะรวมกันได้ 310 เสียงตามที่เป็นข่าว ก็ยังมีความเสี่ยงเสียงไม่พอเลือกนายก
ซึ่งประเด็นการเมืองที่ยังคงเป็น Deadlocks หรือประเด็นที่ยังไม่สามารถหาความชัดเจนที่ยุติได้ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติกังวลต่อความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล โดยมองว่ามี 3 เงื่อนไขหลักที่จะทำให้ไทยจัดตั้งรัฐบาลได้ คือ
1. พรรคภูมิใจไทยต้องย้ายข้างมาโหวตนายกให้พรรครัฐบาล
2. สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต้องย้ายข้างมาโหวตนายกให้พรรครัฐบาล
3. การจัดตั้งรัฐบาลผสม
สำหรับหุ้นที่ปรับตัวลงแรงวันนี้ มีหลายกลุ่มด้วยกัน แต่กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) ที่อยู่ในดัชนี SET50 ซึ่งมีน้ำหนักกดดันตลาดมาก แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ
1. กลุ่มโรงไฟฟ้า ซึ่งไม่ว่ากลุ่มไหนจะขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ถูกกระทบโดยตรงอยู่แล้ว เนื่องจากแต่ละพรรคการเมืองมีนโยบายปรับลดค่าไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือประชาชนผ่านการขอความร่วมมือหรือออกคำสั่ง เป็นต้น
2. กลุ่มโรงกลั่น โดยมีสาเหตุคล้ายกับกลุ่มโรงไฟฟ้า คือ พรรคการเมืองแต่ละพรรค มีนโยบายต้องการปรับลดค่าน้ำมันค้าปลีกหน้าสถานีบริการเพื่อช่วยเหลือประชาชนเช่นกัน
3. กลุ่มสื่อสาร (ICT) กล่าวคือ ADVANC และ TRUE ภายหลังจัดตั้งรัฐบาลอาจเจอความเสี่ยงที่รัฐบาลจะขอให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พิจารณาการแข่งขันภายหลัง TRUE ควบรวมกับ DTAC และค่าบริการอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็มีกลุ่มหุ้นที่ปรับขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกลุ่มเช่าซื้อ (Leasing) ไม่ว่าจะเป็น KTC AEONTS TIDLOR ฯลฯ แต่ถูกกลุ่ม Big Cap กดดัน ส่งผลให้ SET Index ติดลบอย่างที่เห็น