ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโก (SFO) ประกาศอย่างเป็นทางการว่าห้ามร้านค้าทุกแห่งภายในท่าอากาศยานขายน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง
วันที่ 22 ส.ค. 2562 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า วันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกกล่าวผ่านบัญชีทวิตเตอร์ทางการว่า “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกจะยุติการขายน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง” โดยระบุว่าปีที่ผ่านมาในสนามบินมีการขายน้ำดื่มบรรจุขวดพลาสติกราว 4 ล้านขวด และส่วนมากไม่ได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่
“ทุกๆ วันจะมีน้ำดื่มบรรจุขวดขายออกไปเฉลี่ยวันละ 9,000 ขวด และเราต้องการทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น” ท่าอากาศยานฯ กล่าวผ่านทวิตเตอร์ พร้อมระบุว่า มีขวดพลาสติกจากทั่วโลกเพียงร้อยละ 25 เท่านั้นที่ถูกนำกลับมารีไซเคิล และขวดพลาสติกใช้แล้วทิ้งนั้นต้องใช้เวลาย่อยสลายนานถึง 450-1,000 ปี พลาสติกที่กลายเป็นชิ้นเล็กๆ เมื่อโดนน้ำและแสงอาทิตย์จนเป็นไมโครพลาสติกคือสิ่งที่กำลังคุกคามสิ่งมีชีวิตในทะเล และมีหลายกรณีที่พลาสติกเหล่านั้นย้อนกลับมาถึงโต๊ะอาหารของมนุษย์ ผ่านการบริโภคอาหารทะเล
นับตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. เป็นต้นไป นักเดินทางจะไม่สามารถซื้อน้ำดื่มบรรจุขวดเล็กจากร้านค้า คาเฟ่ เลานจ์ ร้านค้า หรือตู้กดอัตโนมัติภายในท่าอากาศยานซานฟรานซิสโกได้อีกต่อไป ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกระบุว่า “นโยบายนี้ครอบคลุมถึงน้ำดื่มที่บรรจุอยู่ในกล่อง ถุง กระป๋อง หรือบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นประเภทใช้แล้วทิ้ง และมีปริมาตรต่ำกว่า 1 ลิตร”
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ท่าอากาศยานนานาชาติซานฟรานซิสโกได้ดำเนินแผนลดขยะพลาสติกใช้แล้วทิ้ง ด้วยการเปลี่ยนไปใช้วัสดุชนิดอื่นๆ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ย่อยสลายได้ หรือรีไซเคิลได้ ตามร้านขายอาหารทั้งหมดในท่าอากาศยาน โดยมีเป้าหมายจะเป็นท่าอากาศยานแห่งแรกในสหรัฐอเมริกาที่มีขยะเป็นศูนย์ (zero-waste) ภายในปี 2021
Photo by Jonathan Chng on Unsplash