เชลล์ลดเงินปันผลลงครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 หลังกำไรร่วงช่วงโควิด-19

วันที่ 1 พ.ค.63 บีบีซีรายงานว่า รอยัล ดัชท์ เชลล์ ผู้ให้บริการน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ประกาศปรับลดเงินปันผลลงเหลือ 16 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการลดเงินปันผลนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 (80 ปี) เนื่องจากผลกำไรของบริษัทในไตรมาสแรกของปี 2020 ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 2.9 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็น 46% (ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าผลกำไรของเชลล์ไตรมาสแรกในปีนี้จะอยู่ที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์) เมื่อเทียบกับผลกำไรในช่วงนี้ของปีที่แล้วที่สูงกว่า 5.3 พันล้านดอลลาร์

ด้าน เบน ฟาน เบอร์เดน CEO ของรอยัล ดัชท์ เชลล์กล่าวว่า เมื่อพิจารณาการชะลอตัวย่างตัวเนื่องของเศรษฐกิจมหภาค บริษัทจึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับลดเงินปันผลประจำไตรมาสลงเพื่อเสริมความยืดหยุ่นและสร้างความเข้มแข็งให้งบดุลของเรา นอกจากนี้ทางเชลล์ได้ลดการกลั่นน้ำมันลงถึง 40% ตามความต้องการของตลาดที่ลดลงอย่างมากในช่วงนี้

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมหลายภาคส่วนโดยเฉพาะน้ำมันชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยตลอดช่วงที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ส่งผลให้ราคาหุ้นเชลล์ร่วงลงมากกว่า 34% บริษัทน้ำมันหลายเจ้า หันมาให้เช่าเรือบรรทุกน้ำมันเพื่อเก็บน้ำมันส่วนเกินไว้

ด้านรัส โมลด์ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนของ AJ Bell กล่าวว่า “การตัดสินใจของเชลล์ในการลดการจ่ายเงินปันผลนั้นสร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนทั่วประเทศ และถือเป็นความเสี่ยงของนักลงทุนที่ต้องการนำเงินมาลงทุนเพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าดอกเบี้ยอัตราเงินฝากออมทรัพย์ได้ลดลงไประยะหนึ่งแล้ว