SHARE

คัดลอกแล้ว

วันที่ 1 ต.ค. นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึง มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ชิมช้อปใช้” ของรัฐบาลว่า จากรายงานตัวเลข 3 วันแรก ในช่วงวันที่ 27-29 ก.ย. พบว่ามีผู้ไปใช้สิทธิ์แล้ว 370,523 คน มียอดการใช้จ่าย 294 ล้านบาท และกว่าร้อยละ 50 ของการใช้จ่าย หรือประมาณ 148 ล้านบาท เป็นการใช้จ่ายในร้าน “ช้อป” ซึ่งอยู่ในกลุ่มร้านค้าชุมชน โอท็อป ร้านวิสาหกิจชุมชน และร้านธงฟ้าประชารัฐ

รองลงมา คือร้าน “ชิม” หรือร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่มียอดใช้จ่ายประมาณ 60 ล้านบาท และร้าน “ใช้” เช่น โรงแรม โฮมสเตย์ มียอดใช้จ่ายประมาณ 7 ล้านบาท ด้านร้านค้าทั่วไปซึ่งรวมถึงรายใหญ่ มียอดใช้จ่ายราว 79 ล้านบาท ถือว่าน้อยกว่าการใช้จ่าย 2 รายการแรกมาก

นายอุตตม กล่าวต่อไปว่า เป้าหมายของโครงการนี้ คือการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และเน้นไปที่เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะเกิดประโยชน์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ อธิบายให้เห็นภาพ เช่น ซื้อไอศกรีม 1 ถ้วย พ่อค้าได้รับเงิน พ่อค้าก็เอาเงินไปซื้อวัตถุดิบ ครีม เนย หรือผลไม้ มาเป็นวัตถุดิบขายต่อ ผู้ผลิตครีมเนย ก็ได้ขายวัตถุดิบ เงินหมุนไปเป็นค่าแรงคนงาน หรือผลไม้ ชาวสวนก็ได้รับเม็ดเงิน ฯลฯ ซึ่งการกระตุ้นการบริโภคจะก่อให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนและที่สำคัญโครงการแบบนี้ ส่งผลด้านจิตวิทยาเกิดความคึกคักในการจับจ่ายใช้สอย

“ผมเชื่อว่าเงิน 1,000 บาทต่อคน ที่ได้รับไป จะมีจำนวนไม่น้อยที่จ่ายเพิ่มเติมอีกมาก เม็ดเงินจะสะพัดเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว”

รมว.คลัง กล่าวด้วยว่า มาตรการนี้ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี แม้จะมีปัญหาเชิงเทคนิคและการเรียนรู้ของผู้รับสิทธิบ้างเล็กๆ น้อยๆ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ได้พยายามชี้แจง ปรับปรุง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ร่วมโครงการทั้งผู้ใช้สิทธิและร้านค้าอย่างเต็มที่ ล่าสุดนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปศึกษาแนวทางของการขยายมาตรการดังกล่าวออกไป เนื่องจากเห็นว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้นอีก

โดยอาจจะมีการกำหนดเงื่อนไขและรูปแบบของมาตรการ ให้ง่ายต่อการเข้าถึงของประชาชนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะต้องมีการศึกษาและนำเอาผลการดำเนินงานของมาตรการในระยะแรก มาวิเคราะห์ถึงข้อดี ข้อเสียอีกครั้งหนึ่ง เช่น การลงทะเบียนเพื่อใช้จ่ายในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ก็อาจกำหนดให้ใช้ได้ทุกจังหวัด ยกเว้นจังหวัดที่ผู้ลงทะเบียนมีภูมิลำเนาอยู่ รวมทั้งสนับสนุนร้านค้าชุมชน วิสาหกิจชุมชน และการท่องเที่ยวในเมืองรอง เข้าร่วมโครงการเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น

ทั้งนี้ มาตรการในระยะแรกนี้ จะเปิดใช้จนถึงวันที่ 30 พ.ย.62 โดยประชาชนที่ลงทะเบียน หากเงิน 1,000 บาท ในแอพฯ “เป๋าตัง” หมดแล้ว ยังสามารถเติมเงินในกระเป๋า 2 หรือ G-Wallet เพื่อใช้สิทธิ์ รับเงินคืน (Cash Back) 15% ของยอดเงินที่เติมและใช้จ่ายในร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการผ่านแอพฯ ได้อีก เช่น เติมเงินจ่ายสินค้าและบริการ 1,000 บาท จะได้รับเงินคืน 150 บาท เป็นต้น โดยสามารถรับเงินคืนสูงสุด 4,500 บาท หรือจากยอดใช้จ่าย 30,000 บาท

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า