สรุปอินไซต์ Shoppertainment 2024 ช้อปตามอินฟลู ซื้อตามสัญชาตญาณ อยากดูเสร็จแล้วกดใส่ตะกร้าได้เลยทันที

สำรวจข้อมูลเชิงลึกจากรายงาน Shoppertainment 2024 : THE FUTURE OF CONSUMER & COMMERCE ที่ศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิก พร้อมมาเผยอินไซต์หลัง ‘พฤติกรรมการช้อปปิ้ง’ ของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปจากอิทธิพลของ ‘คอนเท้นต์’ เข้าสู่ยุค ‘Shoppertainment’

‘Shoppertainment’ คือยุคที่พัฒนามาจากการเติบโตจากยุคสื่อสิ่งพิมพ์ มายุคเสิร์ชเอนจิ้น มายุคโซเชียลมีเดีย และมาสู่ยุคทองของคอนเท้นต์อย่างยุค Shoppertainment ทำให้ตลาดที่เรียกว่า ‘Shoppertainment’ เติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็วจากการผสานระหว่างความบันเทิงและการใช้จ่าย

และยังทำให้ TikTok ที่เป็นเจ้าแห่ง Shoppertainment เติบโตด้วย

#.TikTokMadeMeBuyIt มียอดวิว 7 หมื่นล้านครั้ง

#.TikTokป้ายยา มียอดวิว 6 พันล้านครั้ง

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะรายงานจะคาดว่า ภายในปี 2568 ตลาด Shoppertainment ในไทยจะสร้างรายได้กว่า 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดเอเชียแปซิฟิกจะสร้างรายได้กว่า 1.1 ล้านดอลลาร์

แต่แม้ว่าจะเป็นเวลาสั้นๆ ตลาด Shoppertainment ก็ยังมีอินไซต์ใหม่ๆ ของผู้บริโภคในปี 2024 ออกมานำเสนอ

[ 3 สิ่งที่เปลี่ยนไปในการจับจ่ายของลูกค้าใน Shoppertainment Platform ]

1) CONSIDER : ตอน ‘ตัดสินใจซื้อ’ ใช้ ‘สัญชาติญาณ’ ประกอบกับดูคอนเท้นต์ แทนการตัดสินใจแบบทันทีทันใด หรือเรียกว่า Intuitive Decision

– 88% ไม่ได้ถูกผลักดันให้ซื้อด้วยโปรโมชันแล้ว (21% เท่านั้นที่ซื้อเพราะโปรโมชัน)

– 71% ต้องการคอนเท้นต์จากที่เดียว มาช่วยตัดสินใจ ไม่อยากลงแรงหาหลายที่

– 56% ไม่พยายามเพิ่มในการเทียบราคาหรือหาดีลที่สุดที่สุด 

โดยหากจะแบ่งคนเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ social-oriented กับ product-oriented ‘ผู้บริโภคไทย’ จัดอยู่ในกลุ่ม social-oriented ตอนซื้อของมักจะเชื่อในสัญชาตญาณมากกว่าหาข้อมูลเพิ่มเติม (มีไทย, เวียดนาม, และเกาหลีใต้) ส่วนกลุ่ม product-oriented จะเน้นโฟกัสไปที่ ‘ข้อมูล’ หรือ ‘ดีล’ ที่ถูกแบรนด์สื่อสารออกมามากกว่ารีวิว

Top Content ที่ทำให้ผู้บริโภคไทยตัดสินใจซื้อ คือ

1 – คำแนะนำหรือรีวิวจากอินฟลูเอนเซอร์

2 – โปรโมชันและส่วนลด

3 – ข้อมูลสินค้าและสิทธิประโยชน์

นอกจากนั้น คนยังสนใจคอนเท้นต์เน้นขายของน้อยลงด้วย

2) CONSUME : ตอนซื้อจะต้อง ‘หาข้อมูล’ และ ‘ซื้อ’ ได้ในที่เดียวแบบไม่ออกแรง หรือเรียกว่า Effortless Browse & Buy นั่นเอง

– คอนเท้นต์ คือ ส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคค้นพบ พิจารณา และตัดสินใจซื้อ

– 91% คาดหวังจะค้นหา ดูคอนเท้นต์ แล้วเอาสินค้าใส่ตะกร้าได้เลย (ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า)

– 89% คาดหวังให้แบรนด์นำข้อมูลมาอยู่ในแพลตฟอร์ม social/entertainment ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

– 80% คาดหวังให้แพลตฟอร์มมีแบรนด์และข้อมูลสินค้าครบในที่เดียว ไม่ต้องหาหลายที่

– 85% ของผู้บริโภคไทยค้นหาสินค้าและบริการใหม่ๆ บนแพลตฟอร์ม social

– 97% ของผู้บริโภคไทยอยากจะซื้อสินค้าได้เลยที่เดียวหลังดูเสร็จในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

3) CONNECT : ตอนเชื่อมต่อกับเนื้อหา ผู้บริโภคไทยเลือกเชื่อ ‘ครีเอเตอร์’ มากกว่าแบรนด์ หรือที่เรียกว่า Content Communities

– 60% ได้รับอิทธิพลจากคอนเท้นต์ที่ไม่ได้มาจากแบรนด์ แต่จาก Content Communites

– 11% ได้รับอิทธิพลจากคอนเท้นต์ที่มาจากแบรนด์ Brand Communites

– ผู้บริโภคไทยจัดอยู่ในกลุ่ม community-influenced ได้รับอิทธิพลจากคอนเท้นต์อื่นๆ มากกว่าคอนเท้นต์จากแบรนด์อย่างเดียว เช่นเดียวกับเวียดนามและอินโดนีเซีย ขณะที่กลุ่ม multi-influenced ได้รับอิทธิพลจากแบรนด์และชุมชนพอๆ กัน เช่นในญี่ปุ่นและเกาหลีใต้

สินค้ายอดนิยมใน Shoppertainment 

1 – แฟชันและเครื่องประดับ

2 – ความงามผลิตภัณฑ์ส่วนตัว

3 – อาหารและเครื่องดื่ม

4 – อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

5 – ของใช้ในครัวเรือน