สายการบินในสิงคโปร์เริ่มทำการบินด้วยนักบินและลูกเรือที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบ 2 โดสแล้ว โดยเริ่มเปิดการบินปลายทาง 3 ชาติอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย ขณะที่ผู้บริหารสายการบินเชื่อ วัคซีนจะเป็นกุญแจเปิดประเทศ
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2564 เว็บไซต์สเตรทไทม์ส สื่อสิงคโปร์รายงานว่า สายการบินในสิงคโปร์เริ่มทำการบินในเที่ยวบินระหว่างประเทศ ด้วยนักบินและลูกเรือที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมดแล้ว
โดยเมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส (Singapore Airlines) เริ่มประเดิมเป็นสายการบินแรก ด้วยเที่ยวบิน SQ956 จากสิงคโปร์ไปยังกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย โดยที่นักบินและลูกเรือทั้งหมด 12 คนในเที่ยวบินนี้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ร่วมพัฒนากับไบโอเอ็นเทค (BioNTech) ครบทั้ง 2 โดส
นอกจากเที่ยวบินของสิงคโปร์ แอร์ไลน์สแล้ว สายการบินในเครือ ได้แก่ สายการบินสกู๊ต (Scoot) ก็เริ่มทำการบินจากสิงคโปร์มายังกรุงเทพฯ ด้วยนักบินและลูกเรือรวม 11 คนที่ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ครบทั้ง 2 โดสเช่นกัน เช่นเดียวกับสายการบินซิลค์ แอร์ (SilkAir) ที่ทำการบินไปยังกรุงพนมเปญของกัมพูชา ภายใต้ความดูแลของนักบินและลูกเรือรวม 8 คนที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 แล้ว
สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ส ออกแถลงการณ์ระบุว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เสียรายได้มูลค่ามหาศาล แต่ในวันนี้สิงคโปร์ แอร์ไลน์ส กำลังเป็นสายการบินแห่งแรกๆ ของโลก ที่เริ่มกลับมาทำการบินด้วยนักบินและลูกเรือที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมด
ซีอีโอของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส เชื่อมั่นว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 จะเป็นกุญแจสำคัญในการกลับมาเปิดพรมแดน และสร้างความมั่นใจในการท่องเที่ยว โดยจะทำควบคู่ไปกับมาตรการควบคุมโรคต่างๆ ที่มีอยู่แล้ว
ข้อมูลจากกระทรวงคมนาคมสิงคโปร์ระบุว่า ในตอนนี้มีบุคลากรในภาคการขนส่งได้รับวัคซีนโควิด-19 โดสแรกไปแล้วกว่า 52,000 คน โดยในจำนวนนี้เป็นบุคลากรในอุตสาหกรรมการบินและการขนส่งทางเรือกว่า 39,000 คน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ (10 ก.พ.) สายการบินเอติฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ออกมาอ้างว่าเป็นสายการบินแรกในโลกที่ทำการบินโดยนักบินและลูกเรือ ที่ผ่านการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทุกคน พร้อมระบุด้วยว่า จนถึงขณะนี้พนักงานของสายการบินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบินมากถึง 3 ใน 4 ของทั้งหมด ไดเรับวัคซีนโควิด-19 ไปแล้วอย่างน้อย 1 โดส