สยามเซ็นเตอร์ VISIONARY STAGE ใน Bangkok International Fashion Week 2023 สนับสนุนดีไซเนอร์รุ่นใหม่ กับคอนเซปต์ ‘The Future of Fashion’ ชูประเด็นแฟชั่นเพื่อความยั่งยืน

สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ตอกย้ำการเป็นที่แรกในประเทศไทยในการสนับสนุนผลงานยังก์ดีไซเนอร์ ต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 40 ปีที่ผ่านมา สำหรับเวที VISIONARY STAGE ในงาน Bangkok International Fashion Week ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 ตุลาคม 2566 ยังคงมุ่งเน้นการสนับสนุนดีไซเนอร์รุ่นใหม่ให้ได้มีโอกาสแสดงผลงานสร้างสรรค์บนเวทีแฟชั่นโชว์ระดับประเทศเพื่อต่อยอดสู่ระดับสากล

ในปีนี้ สยามเซ็นเตอร์ นำเสนอผลงานสร้างสรรค์ที่เน้นมุมมองชวนคิดเกี่ยวกับวงการแฟชั่นในอนาคต ‘The Future of Fashion’ ทิศทางของวงการแฟชั่นไทยในมุมมองของคนรุ่นใหม่ ในฐานะที่มีส่วนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นของเมืองไทย พร้อมให้ความสำคัญกับแนวความคิดของการออกแบบสู่ความยั่งยืน ซึ่งกระแสความยั่งยืนในอุตสาหกรรมแฟชั่นนับว่าเป็นเทรนด์ทั่วโลกที่แบรนด์แฟชั่นชั้นนำหลากหลายแบรนด์ รวมทั้งเวทีแฟชั่นระดับโลกล้วนให้ความสำคัญกับประเด็นนี้เป็นอย่างมาก ตั้งแต่แนวคิดในการออกแบบ การใช้วัสดุที่มีความยั่งยืนและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ตลอดจนกรรมวิธีขั้นตอนกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดและสร้างผลกระทบและมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดโดยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วย รวมถึงการนำมาใช้งานได้จริงแบบคุ้มค่าที่สุดอีกด้วย

งาน Bangkok International Fashion Week หรือ BIFW 2023 ณ VISIONARY STAGE ที่สยามเซ็นเตอร์ ได้คัดเลือกสุดยอดผลงานสร้างสรรค์ที่นำมาจัดแสดง รวมถึงผลงานที่ครีเอตขึ้นมาตามคอนเซปต์เพื่องานนี้ครั้งแรกโดยเฉพาะ โดยในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นวันเปิดงาน ยังได้รับเกียรติจาก แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมชมการแสดงแฟชั่นโชว์และแสดงจุดยืนในการสนับสนุนและส่งเสริมแฟชั่นไทย พัฒนาศักยภาพของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตสินค้าแฟชั่นให้เกิดการพัฒนาจนสามารถส่งออกวัฒนธรรม ความคิดสร้างสรรค์ หรือคุณค่าไปสู่นานาประเทศ และกลายเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป

ร่วมด้วยแขกรับเชิญสุดพิเศษ ทีมทูตนฤมิต จาก นฤมิตไพรด์ พันธมิตรคนสำคัญของสยามเซ็นเตอร์ ในการร่วมชูประเด็นด้านความหลากหลาก ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม ต่อยอดสู่คอมมูนิตี้ที่แข็งแรงสมกับเป็น DiversCity Building ซึ่งเป็นที่มาและแรงบันดาลใจของโชว์เปิดตัวงานในครั้งนี้  กับคอลเล็คชั่น Fungi Angels สะท้อนถึงวัฏจักรของชีวิตที่เชื่อมร้อยเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวของธรรมชาติ ใช้สัญลักษณ์ Fungi หรือ เห็ดรา ซึ่งเป็นส่วนนึงของระบบนิเวศน์ แสดงถึงการให้ความสำคัญต่อการส่งต่อคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชน โดยร่วมมือกับ Ten Fingers โรงงานจิวเวอรี่ย่านสุรวงค์ เพื่อเน้นความสำคัญในการรักษาและสนับสนุนช่างฝีมือ ทั้งหมดนี้เพื่อผลักดันให้แฟชั่นกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืน

ปรากฏการณ์รวมผลงานของนิสิต นักศึกษา นักออกแบบรุ่นใหม่ 150 คน สุดยอดไฮไลท์ผลงานการออกแบบกว่า 300 คอลเลคชั่น กว่า 400 ลุค จาก มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยขอนแก่น, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สถาบันออกแบบชนาพัฒน์ (CIDI), มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร, มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, มหาวิทยาลัยศิลปากร, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย สงขลา และ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถาบันชั้นนำของประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญและมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบและการส่งเสริมด้านแฟชั่นดีไซน์

• • • นำเสนอแนวคิดของการนำวัสดุเหลือใช้ และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้ในการ

ออกแบบเสื้อผ้า ที่สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้ ด้วยแรงบันดาลใจจากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ชวนให้คนรุ่นใหม่ตระหนักถึงการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน เพื่อส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

• • • การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาช่วยในการะบวนการผลิตเพื่อลดมลภาวะและระยะเวลา

ในการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานต่อเนื่องได้เป็นเวลายาวนานมากยิ่งขึ้น เพื่อลดปัญหาขยะล้นโลก และเพิ่มโอกาสในการใช้วัสดุทางเลือกในวงการแฟชั่น

• • • นำเสนอแนวคิดการออกแบบเพื่อความยั่งยืนที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น รวมถึงการนำ

วัสดุหัตกรรมขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่นมาใช้เป็นส่วนประกอบในการออกแบบ อย่างผ้าทอท้องถิ่นอีสานที่ย้อมสีธรรมชาติและผ่านกระบวนการผลิตจากการทอมือ เช่น ผ้าไหมอีรี่ ผ้าไหมหางกระรอก หรือผ้าพื้นเมืองชายแดนใต้ เช่น ผ้าบาติก ผ้าปาเต๊ะ ที่ใช้อุปกรณ์ตามธรรมชาติในการผลิต

ร่วมด้วยแบรนด์ดังสุดฮอตในสยามเซ็นเตอร์ที่มาร่วมแสดงแบบคอลเลชั่นล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น

FRANK GARÇON ที่มากับคอนเซปต์ ‘The Factory of Inspiring Hearts’ เสื้อผ้าจาก Young Thai Designer แม้จะเป็นเสื้อผ้าชิ้นเดียวกัน เเต่มีวิธีในการแต่งตัวและสไตลิ่งแตกต่างกัน เพื่อให้ได้คาแรกเตอร์เฉพาะตัว แสดงออกถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายและเป็นตัวของตัวเอง, ALAND กับคอลเลคชั่น ‘FALL/WINTER 2023’ สะท้อนภาพไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ที่มีความหลากหลายพร้อมทั้งรวมแบรนด์สตรีทแฟชั่นที่ฮิตที่สุดจากเกาหลี มากที่สุดกว่า 1,000 แบบ และ SILHOUETTE มาพร้อมคอลเลคชั่น ‘The Landing’ ที่มีแรงบันดาลใจที่มีกลิ่นอายย้อนยุคแต่ล้ำสมัย เมื่อยานอวกาศจากอนาคตลงจอดที่ถนนในลอนดอนในอดีต คอนเซปต์ที่คอนทราสระหว่างความเป็น traditional และ futuristic ด้วยการเลือกใช้วัสดุอย่างผ้าลูกไม้ฝรั่งเศส ผสมผสานกับEco-friendly fabric และ วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้  คนส่วนใหญ่มักนึกถึงลอนดอนในฐานะเมืองเก่าแก่ แต่ครั้งนี้ทางแบรนด์นำเสนอในมุมมองใหม่เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะเป็น cutout details แบบพิเศษ, การใช้เทคนิคอัดพลีท และการปัก ล้วนเป็นไฮไลต์ของซีซั่นนี้ โดยยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ด้วยดีไซน์แบบไม่สมมาตรหรือ asymmetrical design

นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมประเด็นด้านความยั่งยืน พบกับ Sustainable Look inspired by TIKTOK จากแนวคิดของดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบลุคที่แสดงออกถึงการตระหนักถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆกับความคิดฝันถึงอนาคตในการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน เป็นการเปิดโชว์ในทุกๆรอบโชว์

เอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ กล่าวว่า “สำหรับเวที VISIONARY STAGE ที่สยามเซ็นเตอร์ เป็นเวทีแรกที่สนับสนุนยังก์ดีไซเนอร์ มามากกว่า 40 ปี และยังได้มาเป็นส่วนหนึ่งของงาน Bangkok International Fashion Week งานแฟชั่นวีคระดับประเทศ โดยจัดขึ้นต่อเนื่อง เน้นการเปิดพื้นที่ให้กับดีไซเนอร์รุ่นใหม่ ได้แสดงผลงานสู่สายตาสาธาณชนในระดับประเทศ และสนับสนุนแฟชั่นไทยให้ได้มีโอกาสก้าวต่อสู่เวทีระดับโลกอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งแฟชั่นนับเป็น SOFT POWER ที่สำคัญของประเทศไทย ในทุกๆปีเราได้แจ้งเกิดดีไซเนอร์รุ่นใหม่หลายต่อหลายรุ่น หลายๆคนที่เคยแสดงผลงานบนเวทีนี้ตั้งแต่ยังเป็นนิสิตนักศึกษา ก็ได้กลับมาในฐานะแบรนด์ดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง เราจึงตั้งใจที่จะสานต่อเจตนารมณ์ในการสนับสนุนคนรุ่นใหม่อย่างเท่าเทียม ตรงตามเป้าหมายและจุดยืนของสยามเซ็นเตอร์

สำหรับปีนี้ เรามีมุมมองที่อยากชวนคิดเกี่ยวกับวงการแฟชั่นในอนาคต ว่าจะพัฒนาไปในทิศทางใด สิ่งที่น่าสนใจคือ ในปัจจุบันมีการนำความรู้, นวัตกรรม รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้ในวงการแฟชั่น ทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆที่น่าสนใจมากมาย  ในขณะเดียวกันเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์โลก เราจึงนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ที่เน้นแนวความคิดการออกแบบสู่ความยั่งยืน และมีการนำวัสดุเหลือใช้หรือย่อยสลายได้มาใช้ในการออกแบบ และในหลายๆผลงานที่คัดสรรมา ได้มีการนำวัสดุท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้ จนได้ลุคที่สวยงามและแปลกใหม่ สามารถช่วยต่อยอดหัตถกรรมท้องถิ่นสู่ระดับสากลอีกด้วย”